Thailand
ขอบคุณภาพจาก RT
10/10/2024
โดนัลด์ ทรัมป์ และ กมลา แฮร์ริส คู่ท้าชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐ ต่างพากันหาเสียง ให้คำมั่นจะเดินหน้าพาเศรษฐกิจสหรัฐไปสู่โอกาสที่ดีกว่า แต่ล่าสุด คณะกรรมการดูแลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐ หรือ CRFB ได้ตรวจสอบนโยบายหาเสียงจากทั้งสองคน และตีพิมพ์เป็นรายงานอ้างว่า แนวคิดของทั้งคู่อาจเพิ่มหนี้อีกหลายล้านล้านดอลลาร์ให้แก่หนี้สาธารณะของประเทศ
CRFB ระบุว่า นโยบายของทรัมป์ต้องใช้งบมากกว่าคู่แข่ง คือ แฮร์ริส และแผนการจับจ่ายของทั้งคู่เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ท้ายสุด จะนำไปสู่การก่อหนี้เพิ่มอีกหลายล้านล้านดอลลาร์ เพราะในขณะที่ทั้งสองคน แม้จะมีแนวคิดต่างกันในเรื่องเศรษฐกิจ แต่ทั้งคู่ก็เห็นพ้องต้องกันว่า ต้องเพิ่มความมั่นคงตามแนวพรมแดน และจะไม่เก็บภาษีรายได้จากการให้ทิปของลูกค้า
รายงานจาก CRFB แสดงให้เห็นว่า แนวคิดของทรัมป์จะก่อหนี้เพิ่มเติม 7.5 ล้านล้านดอลลาร์ ในอีกสิบปีข้างหน้า หรือประมาณ 250 ล้านล้านบาท ส่วนของแฮร์ริส นโยบายเศรษฐกิจมีแนวโน้มจะก่อหนี้เพิ่มเติม 3.5 ล้านล้านดอลลาร์ ในอีกสิบปีข้างหน้า หรือประมาณ 115.5 ล้านล้านบาท โดยสรุป ทั้งคู่อาจสร้างหนี้ให้แก่ประเทศเพิ่มเติม และไม่สามารถคุมปริมาณหนี้ได้
รายงานระบุว่า หนี้สาธารณะขนาดมหึมาที่กำลังขยายตัว อาจคุกคามเศรษฐกิจให้ชะลอตัวลง ดอกเบี้ยและการชำระเงินต่างๆ จะแพงขึ้น ประเทศไม่มั่นคง ทางเลือกในนโยบายต่างๆจะมีไม่มากนัก และเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤติการเงินในที่สุด
ทั้งทรัมป์และแฮร์ริส ไม่มีคนไหนเลยที่พูดถึงการรับมือภาระหนี้ที่พอกพูน จากการวิเคราะห์แผนการจับจ่ายและนโยบายภาษีของทั้งคู่ พบว่า แฮร์ริส และทรัมป์ มีแนวโน้มที่จะเพิ่มการขาดดุลงบประมาณ และเพิ่มหนี้ให้สูงกว่าระดับที่อยู่ภายใต้กฎหมายในปัจจุบัน
หนี้สาธารณะของสหรัฐอยู่ในระดับที่น่าวิตก พุ่งแตะ 35.68 ล้านล้านดอลลาร์ ในเดือนตุลาคม 2024 หรือประมาณ 1,177ล้านล้านบาท ทรัมป์และแฮร์ริส มีแนวโน้มจะคุมหนี้ไม่ได้ด้วยกันทั้งคู่ ยอดหนี้ของสหรัฐในตอนนี้ อยู่เหนือการแก้ไข ถ้ายังไม่รีบออกมาตรการเข้ามาฟื้นฟูสถานการณ์ให้กลับคืนสู่ภาวะปกติอย่างรวดเร็ว
By IMCT News
อ้างอิงจาก https://watcher.guru/news/trump-harris-economic-plan-could-add-10-6-trillion-to-national-debt
© Copyright 2020, All Rights Reserved