ขอบคุณภาพจาก royal.uk

26/7/2024

สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งอังกฤษเตรียมขึ้นเงินเดือน 45 ล้านปอนด์ (58 ล้านดอลลาร์) หลังกำไรจากที่ดินสาธารณะของกษัตริย์เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า ตามรายงานประจำปีฉบับหนึ่งที่ระบุว่า กำไรจากที่ดินสาธารณะ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเงินกองทุนของสถาบันพระมหากษัตริย์ เพิ่มขึ้น 148% จาก 443 ล้านปอนด์ในปี 2022-23 เป็น 1,100 ล้านปอนด์ (1,400 ล้านดอลลาร์) ในปี 2023-24

กำไรมหาศาลเหล่านี้หมายความว่าเงินอุดหนุนจากผู้เสียภาษี ซึ่งสนับสนุนหน้าที่อย่างเป็นทางการของราชวงศ์ที่มีสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 เป็นประมุข จะเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% จาก 86.3 ล้านปอนด์ในปี 2024-25 เป็น 132 ล้านปอนด์ (171 ล้านดอลลาร์) ในปีถัดไป

Crown Estate ซึ่งเป็นพอร์ตแห่งชาติของที่ดินทางประวัติศาสตร์และเชิงพาณิชย์ เป็นของพระมหากษัตริย์อังกฤษ แต่บริหารจัดการโดยอิสระ และรายได้จะมอบให้กับรัฐบาล ปัจจุบัน พระมหากษัตริย์ได้รับกำไรจาก Crown Estate ร้อยละ 12 ซึ่งเป็นสัดส่วนที่คำนวณจากกองทุนที่ค้างชำระสองปี

ราชวงศ์ได้รับกำไรร้อยละ 25 เพื่อใช้จ่ายในการปฏิบัติงานและการปรับปรุง แต่ราชวงศ์ตกลงกับรัฐบาลที่จะปรับลดตัวเลขเมื่อปีที่แล้วเพื่อคาดการณ์กำไรที่เพิ่มขึ้น หากไม่ลดเปอร์เซ็นต์ ราชวงศ์จะได้รับเงิน 275 ล้านปอนด์ (355 ล้านดอลลาร์)

ผลลัพธ์ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากการขายออปชั่นและสัญญาเช่าในโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่งที่อยู่ใต้ท้องทะเลรอบๆ หมู่เกาะอังกฤษ ซึ่งเป็นของ Crown Estate

Dan Labbad ซีอีโอของ Crown Estate กล่าวว่าผลลัพธ์ที่ทำลายสถิติเกิดจากการลงทุนในพลังงานลมนอกชายฝั่งมาหลายสิบปี ซึ่งพลังงานทดแทนเป็นหนึ่งในโครงการที่พระมหากษัตริย์ทรงโปรด รวมถึงพอร์ตอสังหาริมทรัพย์และที่ดินที่ “หลากหลายและยืดหยุ่น”

“ผลงานที่โดดเด่นในวันนี้เป็นผลจากความมุ่งมั่นและการลงทุนหลายปีในการช่วยสร้างภาคส่วนพลังงานลมนอกชายฝั่งชั้นนำของสหราชอาณาจักร รวมถึงการจัดการพอร์ตที่หลากหลายและยืดหยุ่นของเราอย่างแข็งขัน” Labbad กล่าว

นอกจากนี้ Labbad ยังยินดีต้อนรับการเปลี่ยนแปลงกฎหมายที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ ซึ่งประกาศในพระราชดำรัสของกษัตริย์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งจะขยายอำนาจการลงทุนของ Crown Estate เขากล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้ Crown Estate “ส่งผลที่ยิ่งใหญ่ขึ้นในผลประโยชน์ของชาติในระยะยาว ตั้งแต่การสนับสนุนอนาคตที่ปลอดภัยด้านพลังงานและการปล่อยคาร์บอนของสหราชอาณาจักรไปจนถึงการฟื้นฟูธรรมชาติ และการเติบโตทางเศรษฐกิจ”

พระราชวังบักกิงแฮมเผยแพร่รายงานแยกกัน โดยแสดงรายการการเงินของราชวงศ์ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2023 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2024 ซึ่งเป็นปีเต็มปีแรกของการครองราชย์ของกษัตริย์

พิธีราชาภิเษกของกษัตริย์ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมของปีที่แล้ว ทำให้ Sovereign Grant ต้องเสียเงินทั้งหมด 800,000 ปอนด์ (1.03 ล้านดอลลาร์)

ค่าใช้จ่ายในการจัดหาพนักงานให้กับราชวงศ์ในปีงบประมาณที่แล้วอยู่ที่ 27.9 ล้านปอนด์ ในขณะที่ค่าบำรุงรักษาทรัพย์สินอยู่ที่ 47 ล้านปอนด์ท่ามกลางการปรับปรุงพระราชวังบักกิงแฮมอย่างต่อเนื่อง

ในขณะเดียวกัน ค่าใช้จ่ายในการเดินทางอยู่ที่ 4.2 ล้านปอนด์ โดยการเยือนเคนยา 4 วันของกษัตริย์และราชินีเมื่อปีที่แล้วมีค่าใช้จ่าย 167,000 ปอนด์

รายงานยังเปิดเผยด้วยว่าราชวงศ์จะรับมอบเฮลิคอปเตอร์ใหม่ 2 ลำในปี 2024-25 เพื่อแทนที่เฮลิคอปเตอร์รุ่นเก่าอายุ 15 ปีที่มีอยู่ ขณะที่รถยนต์เบนท์ลีย์ของกษัตริย์จะถูกแปลงให้ทำงานด้วยเชื้อเพลิงชีวภาพภายในปีหน้า

IMCT News

ที่มา https://www.cnbc.com/2024/07/24/king-charles-cashes-in-as-crown-estate-profits-surge-to-1point4-billion.html