Thailand
CIA เผย สี จิ้นผิง' ยึดไต้หวันปี 2027 ใช้แผนกดดันชนะโดยไม่ต้องรบเพิ่มเที่ยวบินรอบไต้หวัน 300% -ทรัมป์ไม่การันตีปกป้อง
11/11/2024
กองทัพอากาศสหรัฐฯ เผยจีนเพิ่มเที่ยวบินรอบไต้หวัน 300% นับตั้งแต่ 'ไล่' ขึ้นนำ-ทรัมป์ไม่การันตีปกป้อง CIA ชี้ 'สี' สั่งกองทัพพร้อมบุก 2027"
NBC NEWS รายงานว่า
พลเอกเควิน ชไนเดอร์ ผู้บัญชาการกองกำลังทางอากาศสหรัฐฯ ในภาคพื้นอินโด-แปซิฟิก เปิดเผยกับสำนักข่าว NBC News ว่า กองทัพจีนเพิ่มเที่ยวบินยั่วยุรอบไต้หวันขึ้น 300% ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่ไล่ ชิง-เต ประธานาธิบดีคนใหม่ของไต้หวันเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ข้อมูลจากกระทรวงกลาโหมไต้หวันที่รวบรวมโดย NBC News ระบุว่า ระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงพฤศจิกายน 2023 จีนละเมิดเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันทางอากาศ (ADIZ) ของไต้หวัน 335 ครั้ง แต่ในช่วงเวลาเดียวกันของปีนี้ เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 1,085 ครั้ง หรือมากกว่า 3 เท่า โดยเฉพาะในเดือนกรกฎาคม 2024 มีเครื่องบินจีนบินเข้า ADIZ ถึง 210 ลำ เทียบกับ 50 ลำในปีก่อน
"ไม่ว่าจะเป็นการบินเข้า ADIZ หรือบินข้ามเส้นกึ่งกลางช่องแคบไต้หวัน เราเห็นกิจกรรมทางอากาศเพิ่มขึ้น 300% นับตั้งแต่การเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีคนใหม่" พลเอกชไนเดอร์กล่าว พร้อมระบุว่ากองทัพอากาศจีนยังคงรักษาระดับกิจกรรมที่เพิ่มขึ้นนี้อย่างต่อเนื่อง หลังจากปักกิ่งมองว่าไล่เป็น "ผู้แบ่งแยกดินแดน" และ "ผู้สร้างปัญหา"
ด้านหลิว เผิงหยู โฆษกสถานทูตจีนในวอชิงตัน ออกมาปกป้องการบินดังกล่าว โดยระบุว่าเป็น "การซ้อมรบที่จำเป็นและชอบธรรมเพื่อปราบปรามกองกำลังแบ่งแยกดินแดน 'ไต้หวันเป็นเอกราช' และส่งคำเตือนต่อการแทรกแซงจากภายนอก" พร้อมยืนยันว่าสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศและแนวปฏิบัติทั่วไป
พลเอกชไนเดอร์ ซึ่งดูแลทหารอากาศกว่า 46,000 นายในญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮาวาย อลาสกา และกวม ระบุว่าความท้าทายใหญ่ที่สุดมาจากปักกิ่ง ที่กำลังสร้างกองกำลังขีปนาวุธ กองทัพอากาศ กองเรือดำน้ำ และกองกำลังไซเบอร์ขนาดใหญ่ เพื่อข่มขู่ประเทศอื่นในภูมิภาค
"มันคือยุทธศาสตร์กดดันที่ออกแบบมาเพื่อเอาชนะโดยไม่ต้องสู้รบ เพื่อสร้างต้นทุนทั้งทางกายภาพและด้านอื่นๆ และนำเสนอข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้วต่อโลก ไม่ใช่แค่ต่อไต้หวัน แต่เป็นการแสดงให้โลกเห็นว่าปักกิ่งสามารถบรรลุเป้าหมายได้" พลเอกชไนเดอร์วิเคราะห์
ประเด็นสำคัญคือ เป้าหมายปี 2027 ที่ผู้อำนวยการ CIA วิลเลียม เบิร์นส์ เปิดเผยว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง สั่งให้กองทัพเตรียมพร้อมบุกไต้หวัน จะตรงกับสมัยที่สองของโดนัลด์ ทรัมป์พอดี โดยทรัมป์ยังไม่ยืนยันว่าจะปกป้องไต้หวันหากถูกจีนบุก และเคยให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg Businessweek ว่า "ไต้หวันควรจ่ายเงินให้เราเพื่อการป้องกัน เราก็ไม่ต่างจากบริษัทประกันภัย"
แม้ทรัมป์จะมองความสัมพันธ์ในเชิงธุรกิจ แต่ที่ปรึกษาอาวุโสในสมัยแรกของเขาหลายคนสนับสนุนไต้หวันอย่างแข็งขัน มีการปรับปรุงกระบวนการขายอาวุธและเพิ่มยอดขายให้ไต้หวัน รวมถึงส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงเยือนเกาะ ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ตึงเครียดขึ้น
พลเอกชไนเดอร์เตือนว่า ฝ่ายตรงข้ามในภูมิภาคอาจทดสอบรัฐบาลทรัมป์ในช่วงแรก แต่ยืนยันว่าฝ่ายทหารพร้อมรับมือและให้ทางเลือกแก่ผู้นำประเทศเพื่อป้องกันหรือจัดการกับการทดสอบดังกล่าว พร้อมย้ำว่าสหรัฐฯ ยังคงมุ่งป้องกันความขัดแย้งในภูมิภาค
"เรายังคงยับยั้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ กว่า 80 ปีที่ผ่านมา สันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคนี้ได้รับการค้ำประกันด้วยการปรากฏตัวของกองทัพสหรัฐฯ และพันธมิตร และเราจะทำเช่นนี้ต่อไป หากสันติภาพ เสถียรภาพ และความมั่นคงถูกทำลายโดยฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดในภูมิภาค เราจะตอบโต้ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรที่มีขีดความสามารถสูง" พลเอกชไนเดอร์กล่าวทิ้งท้าย
---
ที่มา NBC NEWS
© Copyright 2020, All Rights Reserved