Thailand
ขอบคุณภาพจาก RT
19/5/2024
จีนเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และพันธบัตรรัฐวิสาหกิจสหรัฐ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ คิดเป็นมูลค่า 53,300 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2 ล้านล้านบาท ซึ่งถ้าว่ากันตามหน้าประวัติศาสตร์ นี่คือการเทขายล็อตใหญ่สุดเท่าที่จีนเคยทำมา และเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ( 2024 ) ข่าวนี้มีขึ้นในช่วงที่ดัชนีดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงมาแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน คือ 104.20
จีนและสมาชิกกลุ่ม BRICS เทขายพันธบัตรสหรัฐ หลายหมื่นล้านดอลลาร์ นับจากปี 2022 เป็นต้นมา โดยมีจีนเป็นหัวหอกหลัก เทขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงสองปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่า กลุ่ม BRICS และกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ ต้องการจะหนีจากการถือครองสินทรัพย์สหรัฐในทุนสำรองของตน
หนี้สินที่ไร้การควบคุม 34.4 ล้านล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1,272 ล้านล้านบาท ที่พอกพูนในสหรัฐ สร้างความวิตกอย่างมาก ทำให้กลุ่ม BRICS หันไปพึ่งพาสกุลเงินท้องถิ่น ไม่ใช่ดอลลาร์ แม้กระทั่งพันธมิตรใกล้ชิดของสหรัฐ อย่างเบลเยียม ก็ยังเทขายพันธบัตรสหรัฐคิดเป็นมูลค่า 22,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 814,000 ล้านบาท ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ( 2024 ) สะท้อนให้เห็นว่า แม้กระทั่งยุโรป ก็เริ่มกันตัวเองออกจากเศรษฐกิจสหรัฐแล้วเช่นกัน ซึ่งก็รวมถึงการเทขายพันธบัตรและตราสารหนี้
และในขณะที่จีนเทขายพันธบัตรสหรัฐ ในอีกด้านหนึ่ง จีนก็เร่งตุนทองเข้าคลังสำรองเช่นกัน ทำให้จีนเป็นผู้ซื้อทองรายใหญ่สุดในปี 2022 , 2023 และ 2024 แค่ปีที่แล้วเพียงปีเดียว จีนก็ซื้อทองเข้าคลังสำรองไปแล้วหลายตัน คิดเป็นมูลค่า 550,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 20.3 ล้านล้านบาท
จีนและกลุ่ม BRICS กำลังถอยห่างจากดอลลาร์สหรัฐ พันธบัตรและตราสารหนี้ของรัฐบาลสหรัฐ หัวหน้าฝ่ายวางกลยุทธ์อัตราแลกเปลี่ยนต่างประเทศภาคพื้นเอเชียของ Bloomberg Intelligence มองว่า จีนเทขายสินทรัพย์สหรัฐเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นถึงเจตจำนงที่ชัดเจนว่า ต้องการกระจายความเสี่ยงจากการถือครองดอลลาร์สหรัฐ และยิ่งจีนเทขายสินทรัพย์สหรัฐออกมามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเร่งสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ ให้คงอยู่ต่อไปนานเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หาก โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับเลือกกลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอีกครั้ง
By IMCT News
อ้างอิงจาก https://watcher.guru/news/brics-china-dumps-the-largest-us-treasuries-in-history
© Copyright 2020, All Rights Reserved