22/03/2024

การศึกษาใหม่ที่เผยแพร่ในสัปดาห์นี้ชี้ให้เห็นว่าประชากรที่ร่ำรวยที่สุด 1% ของอินเดียมีรายได้ 22% ของประเทศและถือครองความมั่งคั่ง 40% ในช่วงปีงบประมาณที่แล้ว ระดับเหล่านี้ “สูงเป็นประวัติการณ์” สำหรับอินเดียและยังสูงกว่าระดับของประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา อีกด้วย

รายงานวิจัยที่ร่วมเขียนโดยนักเศรษฐศาสตร์ Kumar Bharti, Lucas Chancel, Thomas Piketty และ Anmol Somanchi อ้างว่าความมั่งคั่งในอินเดีย ซึ่งเป็นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในหมู่คนรวยที่สุด 1% ของประชากรที่พวกเขา เรียกว่าชนชั้นกระฎุมพีสมัยใหม่ของอินเดีย พวกเขาอ้างว่าการกระจายความมั่งคั่งในประเทศตอนนี้ไม่เท่าเทียมกันมากกว่าในสมัยอาณานิคมของอังกฤษ

“ในปี 2022-23 รายได้ประชาชาติ 22.6% อยู่ที่ 1% สูงสุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดที่บันทึกไว้ในซีรีส์การศึกษาของเรานับตั้งแต่ปี 1922 ซึ่งสูงกว่าแม้ในช่วงยุคอาณานิคมระหว่างสงคราม ส่วนแบ่งความมั่งคั่ง 1% แรกอยู่ที่ 40.1% ในปี 2022-23 ซึ่งอยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1961 เมื่อซีรีส์ความมั่งคั่งของเราเริ่มต้นขึ้น” การศึกษากล่าว

รายงานดังกล่าวอ้างอิงข้อมูลจากการจัดอันดับมหาเศรษฐีของ Forbes โดยระบุว่าจำนวนชาวอินเดียที่มีความมั่งคั่งสุทธิเกิน 1 พันล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้นจาก 1 ในปี 1991 เป็น 162 ในปี 2022 ในช่วงเวลานี้ ความมั่งคั่งสุทธิรวมของบุคคลเหล่านี้โดยคิดเป็นส่วนแบ่งของรายได้ประชาชาติสุทธิของอินเดีย เพิ่มขึ้นจากต่ำกว่า 1% ในปี 1991 เป็น 25% ในปี 2022

ปัจจุบัน Mukesh Ambani บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของอินเดีย ซึ่งร่ำรวยที่สุดในเอเชียด้วย มีมูลค่าสุทธิ 114 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเร็ว ๆ นี้ เขามีข่าวเกี่ยวกับการจัดงานแต่งงานที่หรูหราให้กับลูกชายของเขา ซึ่งมีคนดังจากต่างประเทศหลายสิบคนเข้าร่วม รวมถึง Bill Gates, Mark Zuckerberg จาก Meta, Larry Fink ผู้ร่วมก่อตั้ง Blackrock, Sundar Pichai CEO ของ Alphabet, Ivanka Trump และคนอื่นๆ

แม้จะมีรายงานความเหลื่อมล้ำทางรายได้ แต่เศรษฐกิจอินเดียก็เติบโตอย่างแข็งแกร่งและมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลกภายในสามปีข้างหน้า GDP ของประเทศเพิ่มขึ้น 8.4% ระหว่างเดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2023 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นที่เร็วที่สุดในรอบหกไตรมาส

ในแถลงการณ์ล่าสุด ธนาคารกลางของประเทศตั้งข้อสังเกตว่าอินเดียสามารถรักษาอัตราการเติบโตของ GDP ไว้ได้ 8% เมื่อพิจารณาจากสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาคที่เอื้ออำนวย

ในขณะเดียวกัน รัฐบาลกลางได้ริเริ่มโครงการต่างๆ เพื่อพยายามปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้ที่ถูกมองว่า “ยากจน” ในเดือนมกราคม เมือง 30 แห่งได้รับการกำหนดให้ "ปลอดจากขอทาน" ภายในปี 2026โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการSupport for Marginalized Individuals for Livelihood and Enterprises นิวเดลีกำลังจัดตั้งคณะกรรมการที่มีอำนาจสูงเพื่อพิจารณาความท้าทายที่เกิดขึ้นจาก "การเติบโตของประชากรอย่างรวดเร็วและการเปลี่ยนแปลงทางประชากร"

ในปี 2023 รายงานเกี่ยวกับความยากจนโดยหน่วยงานที่ปรึกษาของรัฐบาล NITI Aayog ระบุว่าประเทศนี้ได้ช่วยให้ชาวอินเดีย 135 ล้านคนหลุดพ้นจากความยากจนในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ตามรายงานของ UNDP ที่เผยแพร่เมื่อปีที่แล้ว ความยากจนหลายมิติลดลงจาก 25% เหลือ 15% ระหว่างปี 2015-2016 และ 2019-2021

IMCT News

อ้างอิง :RT