Thailand
24/3/2024
Warren Buffett ถือเป็นหนึ่งในนักลงทุนที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ ตั้งแต่ปี 1965 เขาได้นำพาบริษัทการลงทุน Berkshire Hathaway ให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างเหลือเชื่อถึง 4,384,748% ในขณะที่ดัชนีมาตรฐาน S&P 500 เพิ่มขึ้นเพียง 31,223% ในช่วงเวลาเดียวกัน
กลยุทธ์การลงทุนของบัฟเฟตต์นั้นเรียบง่าย เขาชอบบริษัทที่มีการเติบโตที่มั่นคง มีความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่ง และมีทีมผู้บริหารที่มีประสิทธิภาพสูง เขาชอบบริษัทที่คืนเงินให้ผู้ถือหุ้นผ่านการจ่ายเงินปันผลและการซื้อหุ้นคืนเป็นพิเศษ หลักเกณฑ์ที่เข้มงวดดังกล่าวเป็นสาเหตุว่าทำไมหุ้นเทคโนโลยีถึงมีเพียงไม่กี่หุ้นที่เข้ามาอยู่ในพอร์ตโฟลิโอการลงทุนของ Berkshire
กลุ่มบริษัทที่ได้รับการขนานนามว่า "Magnificent Seven" ดึงดูดนักลงทุนในปีที่ผ่านมาด้วยผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและมีมูลค่ารวมสูงถึง 13.5 ล้านล้านดอลลาร์ หุ้นทั้ง 7 ตัวได้แก่:
แอปเปิล
อเมซอน
เอ็นวิเดีย
ไมโครซอฟต์
อัลฟาเบท (บริษัทแม่ของ Google)
แพลตฟอร์มเมตา
เทสลา
Berkshire เป็นเจ้าหุ้นของเพียงสองบริษัทข้างต้นที่อยู่ในกลุ่มMagnificient Seven แต่คิดเป็นสัดส่วน 43.5% ของพอร์ตของบริษัทที่มีมูลค่า 372 พันล้านดอลลาร์ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ท้ังสองบริษัทคือ
1. Amazon: เพียง0.5% ของพอร์ตการลงทุนของ Berkshire
ถือครองหุ้นของAmazon ซึ่งเป็นบริษัทอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ยังครองอุตสาหกรรมการประมวลผลแบบคลาวด์ด้วยแพลตฟอร์ม Amazon Web Services (AWS) และมีการเติบโตอย่างรวดเร็วทั้งในด้านสตรีมมิ่งและการโฆษณาดิจิทัล Berkshire ซื้อหุ้น Amazon ในปี 2019 และถึงแม้จะเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของพอร์ตโฟลิโอของกลุ่มบริษัท แต่ Buffett ก็มักจะแสดงความเสียใจที่ไม่ได้ซื้อเพิ่ม
2. Apple: สัดส่วน43% ของพอร์ตโฟลิโอของ Berkshire
บริษัทApple ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ตั้งแต่ iPhone ไปจนถึงคอมพิวเตอร์ Mac
Berkshire เริ่มซื้อหุ้น Apple ในปี 2016และใช้เงินไปประมาณ 38 พันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างสถานะตั้งแต่นั้นมา
ด้วยการเติบโตที่แข็งแกร่งของ Apple ทำให้การถือครองหุ้นAppleของ Berkshire มีมูลค่าสูงถึง 160.2 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็น 43% ของพอร์ตโฟลิโอที่ 372 พันล้านดอลลาร์
IMCT News
อ้างอิง : Yahoo! Finance
© Copyright 2020, All Rights Reserved