Thailand
ขอบคุณภาพจาก RT
23/4/2024
โลกกำลังเข้าสู่การปรับเปลี่ยนทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐก็กำลังดิ้นรนให้ตัวเองได้เป็นสกุลเงินหลักของโลกต่อไป พร้อมกับธนาคารกลางหลายแห่งต่างตุนทองเพิ่มขึ้นเพื่อหวังกระจายความเสี่ยง ยิ่งไปกว่านั้น กลุ่ม BRICS ก็คาดว่า อาจได้เห็น จีดีพีมีมูลค่ารวมกันทะยานเกิน 34 ล้านล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1,224 ล้านล้านบาทในอีก 4 ปีข้างหน้า
และถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ก็จะแสดงให้เห็นถึงสถานภาพทางเศรษฐกิจของ BRICS ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วก่อนปี 2028 นักวิเคราะห์จำนวนมากยังคาดการณ์ว่า จีดีพีโดยรวมของจีนจะแซงหน้าสหรัฐก่อนเริ่มต้นทศวรรษที่ 2030 ซึ่งถ้าจีนทำได้ ก็จะลากชาติสมาชิกอื่นๆ ของ BRICS ให้มีจีดีพีขยายตัวตามไปด้วย ในฐานะที่จีนเป็นเหมือนหัวหอกหลักของกลุ่ม
ตั้งแต่ปี 2020 มาแล้ว ที่กลุ่ม BRICS พยายามเพิ่มการเชื่อมต่อระหว่างกันให้มากขึ้น และการพัฒนาต่างๆ ร่วมกัน เพื่อตอบโต้ที่ตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซียหลังบุกยูเครน กลุ่ม BRICS ต่างรู้กันว่า สกุลเงินเหมือนเป็นอาวุธที่จะใช้ตอบโต้ตะวันตกได้
และล่าสุด ก็ยิ่งชัดเจนว่า กลุ่ม BRICS แยกตัวอย่างต่อเนื่องกับกลุ่ม จี 7 หรือกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก 7 ชาติ พร้อมกับช่องว่างที่ถ่างกว้างขึ้น พัฒนาการของสองกลุ่มนี้ จะโน้มนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของโลก
ข้อมูลจาก CEOWorld คาดว่า BRICS จะมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจรวดเร็วราวติดจรวด นำโดยจีนที่อาจมีจีดีพีสูงถึง 23 ล้านล้านดอลลาร์ ส่วนอินเดียก็คาดว่า จะมีจีดีพี 5 ล้านล้านดอลลาร์ ตามมาด้วยบราซิล 2.7 ล้านล้านดอลลาร์ ถือเป็นการปรับเปลี่ยนอย่างยิ่งใหญ่ จากเดิมที่กลุ่ม BRICS มีจีดีพีรวมกันแค่เกือบ 3 ล้านล้านดอลลาร์ เมื่อตอนที่เพิ่งรวมกลุ่มกันครั้งแรกในปี 2001
ทั้งจีนและอินเดีย คาดว่า จะมีขนาดเศรษฐกิจแซงหน้าสหรัฐในปัจจุบัน การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนและอินเดียจะเป็นไปอย่างรวดเร็วก่อนสิ้นทศวรรษที่ 2020 การเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลกระทบทั้งต่อกลุ่ม จี 7 และกลุ่ม BRICS และในช่วงเวลานั้น การพัฒนาสกุลเงินท้องถิ่นในกลุ่ม BRICS ก็น่าจะแพร่หลายมากขึ้นแล้ว สร้างปัญหาให้กับเงินดอลลาร์สหรัฐต่อไป
By IMCTNews
อ้างอิงจาก https://watcher.guru/news/brics-gdp-now-projected-to-surpass-34t-in-next-4-years
© Copyright 2020, All Rights Reserved