14/6/2024

มาร์ติน อาร์มสตรองเขียนบทความ “India Angers China with Neutrality on Taiwan”ว่า อินเดียได้พยายามที่จะรักษาความเป็นกลางตลอดความขัดแย้งที่รุนแรงในโลกพวกเขาอยู่ใน BRICS ดำเนินธุรกิจกับชาติตะวันตก และงดการออกเสียงการลงคะแนนเสียงให้หยุดยิงระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์

อย่างไรก็ตาม เป็นไปไม่ได้ที่อินเดียจะรักษาความเป็นกลางท่ามกลางความตึงเครียดอันรุนแรงระหว่างประเทศต่างๆ เมื่อไม่นานมานี้ อินเดียทำให้จีนโกรธด้วยการยอมรับข้อความแสดงความยินดีจากประธานาธิบดีคนใหม่ของไต้หวัน

“ผมหวังว่าจะมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นในขณะที่เราทำงานเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน” นายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี กล่าวกับไหล ซิงเต๋อ หลังจากประธานาธิบดีคนใหม่ของไต้หวันแสดงความยินดีกับเขาที่ได้รับการเลือกตั้งให้กลับมาเป็นผู้นำอีกคร้ัง

ไหล ซิงเต๋อโพสต์บนโซเชียลมีเดียว่าเขาตั้งตารอที่จะ “เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างไต้หวันและอินเดียที่เติบโตอย่างรวดเร็ว”

ไต้หวันคาดว่าจะจ้างคนงานชาวอินเดียมากถึง 100,000 คน ในขณะที่อินเดียมีแนวโน้มจะเปิดการค้ากับไต้หวัน

อินเดียไม่มีจุดยืนอย่างเป็นทางการต่อนโยบายจีนเดียว แต่จีนมองว่าความเป็นกลางใดๆ ก็ตามเป็นการก้าวร้าว เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนออกแถลงการณ์หลังจากการมีปฏิสัมพันธ์สั้นๆ ระหว่างโมดีและไหล ซิงเต๋อ

“ประการแรก ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า 'ประธานาธิบดี' ของภูมิภาคไต้หวัน สำหรับคำถามของคุณ จีนต่อต้านการมีปฏิสัมพันธ์อย่างเป็นทางการทุกรูปแบบระหว่างทางการไต้หวันและประเทศที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีน มีจีนเพียงแห่งเดียวในโลก ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนของสาธารณรัฐประชาชนจีนที่ไม่สามารถแบ่งแยกได้” หนิงกล่าวเมื่อถูกถามเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนการสื่อสารระหว่างโมดี และไหล

“หลักการจีนเดียวเป็นบรรทัดฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและเป็นฉันทามติที่แพร่หลายในประชาคมระหว่างประเทศ” เหมากล่าว พร้อมเสริมว่า “อินเดียได้ให้คำมั่นสัญญาทางการเมืองที่จริงจังเกี่ยวกับเรื่องนี้ และควรจะรับรู้ ตื่นตัว และต่อต้าน การคิดคำนวณทางการเมืองของทางการไต้หวัน จีนได้ประท้วงอินเดียเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปแล้ว”

อินเดียมีความเจริญรุ่งเรือง และมีความยินดีที่จะทำธุรกิจกับใครก็ได้ แต่อาจจะต้องแลกมาด้วยราคาหากทำให้คู่ค้าโกรธเคือง

ไต้หวันและอินเดียลงนามข้อตกลงการลงทุนทวิภาคี (2018) ข้อตกลงการบริการทางอากาศ (2016) และสนธิสัญญาความร่วมมือด้านแรงงาน (2024) การค้าระหว่างอินเดียและไต้หวันมีมูลค่าถึง 7.7 พันล้านดอลลาร์ในปี 2021 และปัจจุบันมีบริษัทไต้หวันมากกว่า 100 แห่งลงทุนในอินเดีย

คงต้องรอดูกันต่อไปว่าอินเดียจะยังคงเป็นกลางได้นานแค่ไหน ไม่ใช่แค่ในอินโดแปซิฟิก แต่ท่ามกลางความตึงเครียดทั่วโลกที่เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม อินเดียยังคงให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ภายในประเทศเป็นอันดับแรกและสำคัญที่สุด และเก็บเกี่ยวผลประโยชน์

IMCT News

ที่มา armstrongeconomics.com