ขอบคุณภาพจาก CCTV

28.04.2024

สื่อ CCTV ของจีนรายงานว่า ทางการจีนกำลังแจ้งให้โรงแรมและเกสต์เฮาส์ทั่วประเทศ หยุดใช้วิธีสแกนใบหน้าแขกผู้เข้าพักทั้งที่เป็นคนจีนและคนต่างชาติ ตรงบริเวณจุดเช็คอิน

เครือข่ายคอมพิวเตอร์ของตำรวจที่เชื่อมโยงโรงแรมทุกแห่งในเมืองเซี่ยงไฮ้ โพสต์ประกาศเมื่อวันที่ 12 เมษายนว่า ห้ามโรงแรมสแกนหน้าผู้เข้าพักโดยเด็ดขาด พวกเขาแสดงบัตรประจำตัวที่ถูกต้องแล้ว

ทางการจีนในเมืองหางโจวทางตะวันออกของประเทศได้ติดตั้งกล้องจดจำใบหน้าตรงรูสอดแนมของประตูโรงแรม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดก่อนการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 19 ในเดือนกันยายนเมื่อปีที่แล้ว (2023) แต่ก็ได้ยกเลิกมาตรการนี้แล้วเช่นกัน แม้ว่าจะยังไม่ชัดเจนว่าเหตุใด

ประกาศที่คล้ายกันนี้กำลังเผยแพร่ไปยังโรงแรมในเมืองต่าง ๆ ทั่วประเทศจีน รวมถึงกวางโจว อี้ชาง และจูไห่

ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเจ้อเจียงกล่าวว่า การจดจำใบหน้าอาจทำให้คนไม่อยากเดินทางมาเที่ยวจีน และเพิ่มต้นทุนสำหรับธุรกิจ นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่ข้อมูลจะถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดด้วย

แต่ไม่ใช่ทุกโรงแรมจะได้รับข้อความดังกล่าว เมื่อมีหญิงชาวเซี่ยงไฮ้คนหนึ่งยังคงถูกพนักงานต้อนรับของโรงแรมท้องถิ่น ขอให้สแกนใบหน้า ขณะมาพักในช่วงสั้นๆ เพราะบ้านที่ตัวเองอยู่กำลังปรับปรุงใหม่ แต่พนักงานโรงแรมแห่งนั้นกลับอ้างว่า ไม่มีการบังคับให้สแกนใบหน้าอีกต่อไป และมันขึ้นอยู่กับเรื่องส่วนบุคคล

พนักงานอีกคนที่รับโทรศัพท์ ณ โรงแรมในอุรุมชี เมืองเอกของภูมิภาคซินเจียงที่มีการควบคุมอย่างเข้มงวดก็บอกว่า ไม่ต้องสแกนใบหน้าที่นั่นเช่นกัน แต่ทางโรงแรมจะถ่ายรูปแขกที่มาเช็คอิน

สื่อบางที่มองว่า  การไม่สแกนใบหน้าแขกที่โรงแรม เหมือนเป็นการกลับไปทำตามหนังสือกฎระเบียบของทางการ เรื่อง มาตรการจัดการความปลอดภัยสาธารณะของอุตสาหกรรมโรงแรม ที่ระบุว่า ในขณะที่บัตรประชาชนจำเป็นต้องใช้ลงทะเบียน แต่การจดจำใบหน้าไม่ได้ถูกอ้างถึงว่า ต้องใช้หรือไม่ แรงผลักดันในการบังคับให้ทุกคนต้องเช็คอินเพื่อสแกนใบหน้ามาจากสถานีตำรวจในท้องที่

แต่บางคนก็มองว่า  การเลิกใช้เทคโนโลยีการสแกนใบหน้านั้น เป็นเพราะเจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนไม่อยากให้ตำรวจบันทึกการเคลื่อนไหวของพวกเขาทุกย่างก้าว

ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีรายหนึ่งกล่าวว่าการยกเลิกครั้งนี้อาจเกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริงที่ว่ามีโรงแรมและเกสต์เฮาส์ประมาณ 610,000 แห่งในจีน โดยแต่ละแห่งมีเครื่องสแกนของตัวเอง รวมถึงกล้องวงจรปิดอีกหลายร้อยล้านตัวทั่วประเทศที่มาพร้อมกับความสามารถในการจดจำใบหน้าและร่างกายอีกด้วย  ถ้าฐานข้อมูลไม่ได้รับการออกแบบให้ดีพอ และขาดประสิทธิภาพในการเก็บ มันก็จะกลายเป็นฐานข้อมูลที่ใหญ่เกินไป และจะเกิดปัญหาในการจัดเก็บภายหลัง  การดึงข้อมูลออกมาอาจช้าหรือสูญหายไปเลยก็ได้

บางคนมองว่า นโยบายให้โรงแรมเลิกสแกนใบหน้าแขกเข้าพัก  ไม่น่าจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไร เพราะทันทีที่คนจีนก้าวเท้าออกจากบ้าน ก็จะถูกสแกนใบหน้าไว้แล้ว จากกล้องหลายร้อยตัวที่ติดตั้งรอบทิศและล้วนจับโฟกัสมาที่เราจากทุกทิศทุกทาง แล้วรูปถ่ายใบหน้าก็จะถูกอัพโหลดเข้าสู่ฐานข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อการตรวจสอบทันที

By IMCT NEWS

Source: https://www.rfa.org/english/news/china/china-hotel-facial-scans-04252024142020.html?