Thailand
ขอบคุณภาพจาก IRNA
23/3/2024
ถ้าจะพูดถึงกลุ่ม ISIS-K ก็ต้องย้อนท้าวความไปถึงกลุ่ม Islamic State หรือ IS ซึ่งยังเป็นที่รู้จักกันในอีกหลายชื่อ เช่น Islamic State of Iraq and the Levant หรือ ISIL และ Islamic State of Iraq and Syria หรือ ISIS พื้นเพดั้งเดิมมาจากองค์กรที่ก่อตั้งโดย อาบู โอมาร์ อัล แบกดาดี เมื่อปี 2004 ต่อสู้เคียงข้างมากับกลุ่มอัลกออิดะห์ ในช่วงที่เกิดการลุกฮือของชาวอิรัก โดยหลังจากการบุกอิรักได้จบสิ้นลงพร้อมกับการโค่นล้มรัฐบาลของซัดดัม ฮุสเซน ลงได้ ในช่วงกลางปี 2003 ชาวอิรักกลุ่มหนึ่งก็เกิดการลุกฮือขึ้นจนกระทั่งสหรัฐถอนกำลังออกจากอิรักไปในปี 2011
ชาวอิรักที่ลุกฮือกลุ่มนี้ มีนักรบในสังกัดของตัวเอง และประสบความสำเร็จในการเข้ายึดพื้นที่อันกว้างขวางทางตะวันตกเฉียงเหนือของอิรัก และทางตะวันออกของซีเรีย ฉวยโอกาสในช่วงที่ซีเรียเกิดสงครามกลางเมืองยืดเยื้อ และก่อนสิ้นปี 2015 พวกเขาก็ได้ปกครองพื้นที่ที่คาดว่า มีประชากรอาศัยอยู่ถึง 12 ล้านคน โดยใช้กฎหมายอิสลามเข้าปกครอง จัดการบริหารงบประมาณประจำปีที่สูงเกิน 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 35,000 ล้านบาท และมีนักรบในสังกัดกว่า 30,000 คน
หลังเกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงกับกองกำลังอเมริกัน อิรัก และกองกำลังชาวเคิร์ด ก็ทำให้กลุ่ม IS เสียการควบคุมในพื้นที่แถบตะวันออกกลางทั้งหมดก่อนปี 2019 ทางกลุ่มเลยหันมาใช้วิธี รับมือแบบกองโจร โดยเน้นก่อความไม่สงบ ปฏิบัติการจากแหล่งกบดานที่อยู่ห่างไกล เป้าหมายของกลุ่มคือเปลี่ยนศาสนา การเมือง และกองทัพให้มีแต่การเชื่อฟังมุสลิมไปทั่วโลก
มูลเหตุความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับกลุ่ม IS น่าจะย้อนกลับไปในช่วงที่ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย เข้าแทรกแซงสงครามกลางเมืองซีเรียเมื่อปี 2015 ปูตินสนับสนุนประธานาธิบดี บาชาร์ อัล อัสสาด ของซีเรีย ซึ่งมีจุดยืนต่อต้าน IS โดยตรง ก็เท่ากับว่า รัสเซียยืนอยู่คนละฝ่ายกับกลุ่ม IS ด้วยเช่นกัน
แล้วนับจากนั้น กลุ่ม ISIS-K ก็ผุดขึ้นมากลายเป็นภัยคุกคามต่อผลประโยชน์ของรัสเซีย เคยก่อเหตุโจมตีรัสเซียมาแล้วหลายครั้ง ทั้ง เหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่สถานทูตรัสเซียในกรุงคาบูล ของอัฟกานิสถาน เมื่อปี 2022 ยิ่งแสดงให้เห็นชัดเจนว่า กลุ่มนี้เป็นปฏิปักษ์กับรัสเซีย
กลุ่ม ISIS-K ผงาดขึ้นมา หลังสหรัฐถอนกำลังออกจากอัฟกานิสถาน ทำให้ทางกลุ่มต้องหาเป้าหมายใหม่ นอกเหนือจากฐานที่มั่นเดิม
ISIS-K ก่อตั้งเมื่อปี 2015 เป็นการรวบรวมชาวปากีสถานที่เลิกศรัทธาในกลุ่มตอลีบัน และกลุ่ม ISIS-K ก็สร้างชื่อกระฉ่อนอย่างรวดเร็ว จากการโจมตีกองกำลังความมั่นคงอัฟกัน และโจมตีศาสนาอื่นๆ แม้กองกำลังของกลุ่มจะหดตัวลง เนื่องจากถูกกองทัพกวาดล้างจากหลายสมรภูมิ ทั้งการถูกสหรัฐใช้ปฏิบัติการทางอากาศโจมตี และถูกแรงต้านจากกลุ่มตอลีบันในอัฟกานิสถาน แต่ดูเหมือนว่า กลุ่ม ISIS-K ก็ปรับตัวตามสถานการณ์และยืดหยุ่นได้เสมอ จากหลักฐานที่เห็นการโจมตีนอกประเทศอัฟกานิสถานเมื่อไม่นานมานี้
บรรดาผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสังเกตว่า กลุ่ม ISIS-K พุ่งเป้ามาที่รัสเซียในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรัสเซียหันไปผูกสัมพันธ์กับกลุ่มตอลีบันมากขึ้น ซึ่งเป็นศัตรูคู่อาฆาตของกลุ่ม ISIS-K เนื่องจากความขัดแย้งต่างนิกาย
รัสเซียหันไปผูกสัมพันธ์กับกลุ่มตอลีบัน เพราะเล็งเห็นประโยชน์จากช่องทางการค้าใหม่ๆ ในช่วงที่ถูกตะวันตกคว่ำบาตร ในขณะที่กลุ่มตอลีบันก็ต้องการได้รับการยอมรับและสนับสนุน จึงละเว้นจากการวิจารณ์รัสเซียในความขัดแย้งกับยูเครน
กลุ่ม ISIS-K ยังไม่พอใจที่รัสเซียมักจัดกิจกรรมกดขี่ชาวมุสลิม รวมถึงความวิตกในปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการกีดกันศาสนาในรัสเซีย
คาดว่า มีประชากรมุสลิมในรัสเซียประมาณ 20 ล้านคน รายงานจากองค์กรสิทธิมนุษยชน เช่น องค์การนิรโทษกรรมสากล ได้รวบรวมตัวอย่างการกีดกัน การตรวจสอบ และการใช้ความรุนแรงต่อชาวมุสลิมในรัสเซีย และเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลรัสเซีย พุ่งเป้าไปที่การกวาดล้างกลุ่มหัวรุนแรงอย่างเห็นได้ชัด จึงออกกฎที่เข้มงวดแก่หลักปฏิบัติทางศาสนาและบางครั้งก็ไปละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐาน ซึ่งยังเกิดที่ไครเมียอีกด้วย ที่ถูกรัสเซียผนวกรวมเข้าไปเมื่อปี 2014
ด้วยเหตุนี้ การโจมตีคอนเสิร์ตฮอลล์ ในกรุงมอสโก โดยกลุ่ม ISIS-K จึงตอกย้ำให้เห็นถึงความขัดแย้งที่ซับซ้อนระหว่างรัสเซียและกลุ่ม ISIS-K โดยมีรากฐานมาจากความเห็นต่างด้านภูมิรัฐศาสตร์ และผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ต่างๆ
By IMCTNews
© Copyright 2020, All Rights Reserved