Thailand
ขอบคุณภาพจาก kioxia.com
24/8/2024
Kioxia Holdings ผู้ผลิตชิปสัญชาติญี่ปุ่น ยื่นคำขอจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (23 ส.ค.) โดย Nikkei รายงานว่า บริษัทตั้งเป้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในเดือนตุลาคม ท่ามกลางความต้องการเซมิคอนดักเตอร์จากภาคส่วนปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ ที่พุ่งสูงขึ้น
เป็นที่คาดว่าบริษัทจะมีมูลค่าตามราคาตลาดเกิน 1.5 ล้านล้านเยน (10,300 ล้านดอลลาร์) ซึ่งถือเป็นการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนครั้งแรกครั้งใหญ่ที่สุดของตลาดหลักทรัพย์ในปีนี้ (2024) โดย Kioxia ตั้งเป้าที่จะใช้เงินที่ได้จากการขายเพื่อตอบสนองความต้องการชิปหน่วยความจำที่เพิ่มขึ้นจากกระแสเอไอ
Kioxia ซึ่งเป็นผู้ผลิตหน่วยความจำแฟลช NAND รายใหญ่เป็นอันดับสามของโลกที่ใช้สำหรับจัดเก็บข้อมูล ได้แยกตัวออกจาก Toshiba ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นในปี 2018 และเปลี่ยนชื่อเป็นชื่อปัจจุบันในปีถัดมา (2019) โดยบริษัทดังกล่าวถือหุ้นร้อยละ 56 โดยบริษัทที่มีวัตถุประสงค์พิเศษซึ่งก่อตั้งโดย Bain Capital ซึ่งเป็นบริษัททุนเอกชนยักษ์ใหญ่ และ SK Hynix ซึ่งเป็นผู้ผลิตหน่วยความจำของเกาหลีใต้ โดย Toshiba ถือหุ้นร้อยละ 41
แหล่งข่าวระบุว่า Bain และ Toshiba วางแผนที่จะลดการถือครองหุ้นเป็นระยะๆ หลังจากที่ Kioxia เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดย “ขณะนี้กำลังเตรียมการสำหรับการเข้าจดทะเบียนในเวลาที่เหมาะสม” Kioxia กล่าวกับ Nikkei
หากมูลค่าของ Kioxia ทะลุ 1.5 ล้านล้านเยน ณ เวลาที่เข้าจดทะเบียน ก็จะแซงหน้ามูลค่า 420,000 ล้านเยนของ Kokusai Electric ผู้ผลิตอุปกรณ์ชิปที่เสนอขายหุ้นต่อสาธารณะครั้งแรกในปี 2023 ซึ่งเป็นมูลค่าสูงสุดในปีนั้น นอกจากนี้ ยังจะสูงกว่ามูลค่าที่คาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของ Tokyo Metro ในเดือนตุลาคม (2024) ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 640,000 - 700,000 ล้านเยน
สำหรับข้อตกลงดังกล่าว น่าจะเป็นข้อตกลงที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ SoftBank ซึ่งเป็นแผนกโทรคมนาคมในญี่ปุ่นของ SoftBank Group เข้าจดทะเบียนในปี 2018 โดยมีมูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ 7.18 ล้านล้านเยนในขณะนั้น
ขณะที่ Kioxia ได้รับการอนุมัติให้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ TSE เมื่อปี 2020 แต่แผนดังกล่าวถูกเลื่อนออกไปเนื่องจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ทวีความรุนแรงขึ้นจนบดบังตลาด
อย่างไรก็ตาม สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่กำลังดีขึ้นได้กระตุ้นให้บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อีกครั้ง กำไรสุทธิของ Kioxia ในไตรมาสเดือนเมษายนถึงมิถุนายนของปีนี้ (2024) แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 69,800 ล้านเยน ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการสมาร์ทโฟนและพีซี ซึ่งเป็นตลาดหลักของหน่วยความจำที่แตะระดับต่ำสุด โดยบริษัทกำลังปรับปรุงตัวเลือกทางการเงิน ซึ่งก่อนหน้านี้ต้องพึ่งพาการกู้ยืม เนื่องจากความต้องการศูนย์ข้อมูล AI ขยายตัวและการแข่งขันเพื่อการลงทุนทวีความรุนแรงมากขึ้น
ขณะเดียวกัน Kioxia ได้พยายามเจรจาข้อตกลงเพื่อบูรณาการกับธุรกิจหน่วยความจำของ Western Digital ซึ่งตั้งอยู่ในสหรัฐฯ โดยมีเป้าหมายเพื่อจัดตั้งนิติบุคคลที่สามารถแข่งขันกับ Samsung Electronics ซึ่งเป็นผู้นำตลาดหน่วยความจำ NAND ได้ แต่การเจรจาถูกยกเลิกเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว (2023) เนื่องจากยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับการได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานต่อต้านการผูกขาดในตลาดหลักอย่างจีน
IMCT News
© Copyright 2020, All Rights Reserved