Thailand
ขอบคุณภาพจาก RT
4/10/2024
ดอลลาร์สหรัฐ ยังคงเป็นเบอร์หนึ่งของสกุลเงินสำรองระหว่างประเทศที่ต้องถือครองโดยธนาคารกลางต่างๆ แต่ตอนนี้ ศักยภาพในส่วนนั้นเริ่มถูกกัดกินไปทีละเล็กทีละน้อย เพราะธนาคารกลางหันมากระจายการถือครองสกุลเงินต่างๆ มากขึ้น และยังเพิ่มการถือครองทองคำเข้าไปด้วย
สัดส่วนดอลลาร์สหรัฐที่ธนาคารกลางทั่วโลกถือครองอยู่ ลดลงมาอยู่ที่ 58.2% ในช่วงไตรมาสสองของปีนี้ ต่ำสุดนับจากปี 1995 จากข้อมูลชุดใหม่ของกองทุนระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา สัดส่วนดอลลาร์สหรัฐที่ธนาคารกลางทั่วโลกถือครอง ลดลงไปแล้ว 8% จาก 66% ในปี 2015 มาอยู่ที่ 58.2% ในปี 2024 และถ้าสถานการณ์ยังดำเนินไปแบบนี้ สัดส่วนดอลลาร์ที่ธนาคารกลางทั่วโลกถือครอง จะอยู่ที่ 50% ในอีก 10 ปีข้างหน้า
ถ้าย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางทั่วโลกเคยถือครองดอลลาร์มากถึง 85% ในปี 1977 ก่อนจะร่วงลงมาอยู่ที่ 46% ในปี 1991 เพราะเกิดภาวะเงินเฟ้อรุนแรงในสหรัฐ ช่วงทศวรรษที่ 1970 และลามไปยังช่วงทศวรรษที่ 1980 เพราะทั่วโลกสูญเสียความเชื่อมั่นว่า ธนาคารกลางสหรัฐจะคุมเงินเฟ้อได้
ก่อนช่วงทศวรรษที่ 1990 ระดับเงินเฟ้อเริ่มลดลงมานาน 10 ปี ความเชื่อมั่นจึงฟื้นกลับคืนมา ธนาคารกลางทั่วโลก จึงหันมาตุนดอลลาร์อีกครั้ง จนกระทั่งการมาถึงของเงินยูโร ธนาคารกลางทั่วโลกจึงกระจายไปถือเงินยูโรเป็นทุนสำรองด้วยส่วนหนึ่ง
ธนาคารกลางทั่วโลกถือครองดอลลาร์สหรัฐ ในหลายรูปแบบด้วยกัน เช่น ตราสารหนี้ของกระทรวงการคลังสหรัฐ ตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันแต่รัฐบาลสหรัฐหนุนอยู่ หุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัทเอกชนในสหรัฐ และแม้กระทั่งหุ้นของสหรัฐ
ธนาคารกลางทั่วโลกยังไม่ถึงขั้นทิ้งสินทรัพย์ในรูปดอลลาร์เหล่านี้ ก็ยังถือไว้ในระดับเดิม แต่ไม่ถึงกับถือครองในปริมาณที่สูงมากเหมือนเมื่อปี 2021 เพียงแต่ว่า เมื่อทุนสำรองระหว่างประเทศมีเพิ่มขึ้น พวกเขาก็จะนำส่วนหนึ่งไปซื้อสินทรัพย์สกุลเงินอื่นเก็บไว้ สัดส่วนการถือครองดอลลาร์จึงมีน้อยลง เพราะมีสกุลเงินอื่นเข้ามาแทรก ทั้งที่มูลค่าการถือครองสกุลเงินดอลลาร์ของธนาคารกลางแต่ละแห่งไม่ได้เปลี่ยนไปมาก
ส่วนสกุลเงินยูโร ยังยืนหยัดเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศในอันดับ 2 ซึ่งก็เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ธนาคารกลางทั่วโลกถือครองเงินยูโรคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% และในช่วงไตรมาสสองของปีนี้ ( 2024 ) สัดส่วนการถือครองก็อยู่ที่ 19.8%
By IMCT News
© Copyright 2020, All Rights Reserved