เยอรมนีขัดแย้งกับรัสเซียเข้าทางใคร?
4/3/2024
จอร์จ ฟริดแมน (George Friedman) แห่งสำนักข้อมูลภูมิรัฐศาสตร์การของStratfor เคยกล่าวว่า นโยบายที่สำคัญยิ่งของสหรัฐฯในด้านภูมิรัฐศาสตร์คือ การสกัดไม่ให้เยอรมนีสามารถรวมตัวกันเป็นพันธมิตรกับรัสเซียให้ได้ เพราะว่าถ้าหากปล่อยให้เยอรมันรวมกับรัสเซียได้ หมายความว่าจะเกิดมหาอำนาจขั้วใหม่ที่สามารถท้าทายขั้วอำนาจของสหรัฐฯที่เป็นมหาอำนาจโลกแต่เพียงเจ้าเดียวในเวลานี้
ฟริดแมนมีความเห็นว่า เทคโนโลยีและเงินทุนของเยอรมัน ถ้าหากว่าได้ผนึกกำลังกันกับทรัพยากรธรรมชาติและดินแดนที่กว้างใหญ่ไพศาลของรัสเซียจะสร้างมหาอำนาจขั้วใหม่ ทำให้เกิดการเผชิญหน้า หรือแข่งกันระหว่างยูเรเซียและสหรัฐฯ (Eurasia vs US)
ด้วยเหตุนี้สหรัฐฯจะพยายามทุกวิถีทางที่จะสกัดกั้นการรวมตัวกันของเยอรมนีและรัสเซียเพื่อสร้างยูเรเซีย
ความขัดแย้งที่รุนแรงระหว่างเยอรมนีกับรัสเซียในเวลานี้จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจ หลังจากที่มีรายงานของบันทึกลับที่เปิดเผยการสนทนาระหว่างเจ้าหน้าที่ 4 นายของกองทัพอากาศเยอรมัน รวมถึง พล.ท. อินโก เกอร์ฮาร์ตซ์ ผู้บัญชาการกองทัพอากาศ ที่มีการหารือเกี่ยวกับรายละเอียดการปฏิบัติการและการกำหนดเป้าหมายของขีปนาวุธพิสัยไกลทอรัส ซึ่งเบอร์ลินกำลังพิจารณาที่จะจัดหาให้กับเคียฟ
ที่สำคัญเจ้าหน้าทหารของเยอรมันพูดถึงการสำรวจทางเลือกของขีปนาวุธทอรัสที่จะใช้โจมตีสะพานไครเมียเป็นพิเศษ
รัฐบาลเยอรมนีไม่ได้ปฏิเสธเทปลับนี้ว่าเป็นของปลอม เพียงแต่ตอบโต้ว่าการเอาเทปลับมาเผยแพร่เป็นส่วนหนึ่งของสงครามข้อมูลข่าวสารของรัสเซีย ในขณะที่รัสเซียมองว่า เยอรมนีต้องการทำตัวเป็นศัตรู และต้องการทำสงครามกับรัสเซีย
ในเดือนกันยายนปี 2022 ท่อส่งก๊าซ Nord Stream 1, 2 ที่ลำเลียงก๊าซจากรัสเซียผ่านทะเลบอลติกส์ไปถึงเยอรมนีถูกก่อวินาศกรรม ปรากฎว่าซีมัวร์ เฮิร์ช นักข่าวอเมริกันเจ้าของรางวัลพูลิตเซอร์ได้ออกมารายงานเมื่อปีที่แล้วว่า สหรัฐฯอยู่เบื้องหลังการระเบิดท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีมเพียงเพื่อรักษา “ความเป็นเจ้าที่มีมายาวนานในยุโรปตะวันตก"
เยอรมนีสามารถพัฒนาอุตสาหกรรมจนมีระบบเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเจริญรุ่งเรืองที่สุดของยุโรป เนื่องจากมีซับไพลก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย ถ้าหากไม่มีก๊าซจากรัสเซียที่เยอรมนีต้องพึ่งพาถึง55% ความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมของเยอรมนี ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมรถยนต์ เคมี เครื่องจักร กระจก ฯลฯ จะหายไป
สหรัฐมองว่า ท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีมเป็นจุดอ่อนของเยอรมนีที่ทำให้รัสเซียใช้เป็นเครื่องมือในการต่อรองในทางการเมือง หลังจากท่อก๊าซถูกระเบิดไป ทำให้เยอรมนีและยุโรปต้องหันมาพึ่งพาก๊าซLNGจากสหรัฐและนอร์เวย์มากขึ้น ซึ่งมีราคาแพงกว่า ในปัจจุบันดัชนีอุตสาหกรรมของรัสเซียตกไป10%เมื่อเทียบกับช่วงก่อนวิกฤติโควิด ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการขาดแคลนพลังงาน และโครงสร้างที่อ่อนแอลงของเศรษฐกิจ
ถ้าย้อนดูประวัติศาสตร์แล้ว สหภาพโซเวียตสูญเสียผู้คนไป 27 ล้านคนในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องจากพวกนาซีเยอรมนี สหภาพโซเวียตจับมือกับอังกฤษและสหรัฐในการต่อต้านนาซีเยอรมนี และสามารถเอาชนะฮิตเลอร์ได้ ทำให้ยุโรปหลุดพ้นจากการครอบครองของนาซีเยอรมนี ต่อมาสหภาพโซเวียตก็เปิดทางให้ให้รวมเยอรมนีตะวันออกและตะวันตกได้รวมตัวกันเป็นเอกภาพอีกครั้ง รวมท้ังถอนทหารมากกว่า 350,000 นายออกจากเยอรมนี ด้วยเงื่อนไขว่าองค์กรทางทหารนาโต้ต้องไม่ขยายสมาชิกมายุโรปตะวันออก
แต่นาโต้ นำโดยสหรัฐผิดสัญญา มีการขยายสมาชิกมาประชิดชายแดนรัสเซีย ยูเครนแจ้งความประสงค์อยากเข้าร่วมนาโต้จึงกลายเป็นฟางเส้นสุดท้าย ทำให้รัสเซียตัดสินใจเปิดฉากสงครามกับยูเครน เพราะกังวลใจในความมั่นคง
เยอรมนีกลายเป็นฐานทัพใหญ่ของสหรัฐในการปิดล้อมรัสเซียทางทหาร รัสเซียเคยกล่าวหาว่าเยอรมนีไม่เป็นตัวของตัวเอง แต่ถูกชาติมหาอำนาจครอบงำ ทำให้ไม่มีอำนาจอธิปไตย
เยอรมนีมีส่วนร่วมในการทำสงครามตัวแทนกับรัสเซียผ่านยูเครน และให้การสนับสนุนยูเครนอย่างเต็มที่ทั้งด้านการเงินและอาวุธยุทโธปกรณ์ รัฐบาลเยอรมนีมีโครงการที่จะช่วยยูเครน7,100ล้านยูโรในปีนี้ และมีการตั้งงบ21,000ล้านเพื่อช่วยยูเครนในระยะเวลาหลายปีข้างหน้า
นอกจากนี้ เยอรมนียังคว่ำบาตรรัสเซียเพื่อตอบโต้การบุกยูเครน
แนวโน้มของสงครามยูเครนยังไม่เห็นว่าจะลงเอยแบบสงบ หรือเกิดสันติภาพ เพราะว่านาโต้ยังคงเดินหน้าเพื่อปิดล้อมรัสเซียทางทหารต่อไป เพื่อสกัดอิทธิพลของรัสเซีย เยอรมนีมีส่วนสำคัญในยุทธศาสตร์นี้ร่วมกับนาโต้เพื่อทำให้รัสเซียอ่อนแอลง ทั้งๆที่การทำเช่นนี้เป็นการขัดผลประโยชน์ของเยอรมนีเอง
ความขัดแย้งระหว่างเยอรมนีกับรัสเซียในรอบนี้คงจะกู่ไม่กลับ
และทำให้มีโอกาสที่จะเกิดความเสี่ยงของสงครามระหว่างรัสเซียกับเยอรมนี
By Thanong Khanthong, Editor