ขอบคุณภาพจาก Global Times

3/11/2024

กระทรวงพาณิชย์ของสหภาพยุโรประบุว่า จีนไม่ยอมรับคำตัดสินขั้นสุดท้ายของสหภาพยุโรปในการกำหนดภาษีเพิ่มเติมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า หรือ อีวี ที่ผลิตในตลาดจีน โดยให้คำมั่นว่าจะใช้มาตรการที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทต่างๆ

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นหน่วยบริหารของสหภาพยุโรปได้ประกาศว่า การสอบสวนเรื่องการต่อต้านการอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้าสิ้นสุดลงแล้ว ส่งผลให้มีการกำหนดภาษีตอบโต้ที่ชัดเจนต่อรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในจีน โดยมาตรการดังกล่าวจะสิ้นสุดลงเมื่อสิ้นสุดระยะเวลา 5 ปี เว้นแต่จะมีการเริ่มการตรวจสอบการหมดอายุก่อนวันดังกล่าว

อีกด้านหนึ่ง เพื่อตอบโต้ จีนได้ยื่นคำร้องภายใต้กลไกการระงับข้อพิพาทขององค์การการค้าโลก หรือ WTO

กระทรวงพาณิชย์ระบุในแถลงการณ์ออนไลน์ว่า จีนได้ชี้ให้เห็นซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า การสอบสวนเรื่องการไม่อุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในจีนของสหภาพยุโรปนั้นไร้เหตุผลและเต็มไปด้วยปัญหาการไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบมากมาย นอกจากนี้ก็ยังเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อคุ้มครองทางการค้าภายใต้ข้ออ้างของ "การแข่งขันที่เป็นธรรม"

นอกจากนี้ก็ยังระบุว่า สหภาพยุโรปยังคงเต็มใจที่จะเจรจาเรื่องการกำหนดราคารถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในจีนต่อไป โดยจีนสนับสนุนให้แก้ปัญหาข้อพิพาททางการค้าผ่านการเจรจาและปรึกษาหารือเสมอ

สำหรับอัตราภาษีใหม่ของสหภาพยุโรปจะอยู่ที่ 7.8% สำหรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla Inc. ในสหรัฐอเมริกา 18.8% สำหรับ Zhejiang Geely Holding Group และสูงถึง 35.3% สำหรับ SAIC Motor Corp ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ในเซี่ยงไฮ้ นอกเหนือจากอัตราภาษีนำเข้า 10% ที่สหภาพยุโรปกำหนดไว้

ขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายอื่นๆ ของจีนต้องเผชิญกับอัตราภาษีเฉลี่ย 20.7% โดยอัตราภาษีจะสูงถึง 35.3% สำหรับผู้ผลิตที่จัดอยู่ในกลุ่ม "ไม่ให้ความร่วมมือ"

SAIC Motor แสดงความผิดหวังในคำตัดสินดังกล่าว และระบุว่าบริษัทมีแผนจะดำเนินการทางกฎหมายที่จำเป็นโดยยื่นฟ้องต่อศาลยุติธรรมของสหภาพยุโรป เพื่อรับรองสิทธิและผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของบริษัท

ขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์จีนกล่าวว่ากำลังดำเนินการตามมาตรการต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการต้านทานต่ออุปสรรคทางการค้าของสหภาพยุโรป

ด้านหอการค้าจีนในกรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงของเบลเยียม ระบุว่า ภาษีศุลกากรต่อผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในจีนไม่ได้ช่วยเพิ่มความสามารถในการต้านทานของสหภาพยุโรปในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรือส่งเสริมนวัตกรรมหรือการสร้างงาน แต่เป็นแนวทางที่ขับเคลื่อนด้วยแรงจูงใจทางการเมือง

ขณะเดียวกัน ผู้สังเกตการณ์ตลาดเตือนว่า ภาษีศุลกากรเพิ่มเติมเหล่านี้จะยิ่งทำให้ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนและสหภาพยุโรปรุนแรงขึ้น และอาจกระตุ้นให้เกิดการกีดกันทางการค้าในอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก

จาง หย่งจุน เลขาธิการศูนย์แลกเปลี่ยนเศรษฐกิจระหว่างประเทศจีนในกรุงปักกิ่ง กล่าวว่าการตัดสินใจของสหภาพยุโรปตามหลักการของการตอบแทนจะก่อให้เกิดมาตรการตอบโต้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมส่งออกของสหภาพยุโรปที่มีการแข่งขันกันซึ่งทำการค้ากับจีน

“ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ผู้บริโภคในยุโรปอาจได้รับผลกระทบ โดยต้องเผชิญกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นของรถยนต์ไฟฟ้าของจีนหรือตัวเลือกที่จำกัดจากซัพพลายเออร์ทางเลือก”

ส่วนเว่ย เจียงกั๋ว อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์จีน กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของสหภาพยุโรปอาจทำให้นักลงทุนจีนมีความเชื่อมั่นในยุโรปลดลง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ แบตเตอรี่ไฟฟ้า ชิ้นส่วนอุตสาหกรรม และโลจิสติกส์

ขณะที่เอริก โซลเฮม อดีตผู้อำนวยการบริหารโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ ระบุว่า “ภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าคุณภาพสูงของจีนขัดต่อหลักเศรษฐกิจทุกประการ จะทำให้เราทุกคนยากจนลงและทำให้การเปลี่ยนแปลงสีเขียวในยุโรปล่าช้าลง

“การแข่งขันสีเขียวเป็นการแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งสูงสุด ภาษีนำเข้าและการคุ้มครองทางการค้าเป็นการแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งต่ำสุด ยุโรปควรเชิญชวนการลงทุนจาก BYD และผู้ผลิตรถยนต์จีนรายอื่นๆ เพื่อช่วยแบ่งปันเทคโนโลยีและช่วยกำหนดรูปแบบการแข่งขัน เพื่อให้ผู้ผลิตรถยนต์ในยุโรปสามารถไล่ตามทันได้”

นอกจากนี้ หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ก็ยังได้เน้นย้ำถึงการคัดค้านมาตรการภาษีนำเข้าของสหภาพยุโรปของจีนอีกครั้ง โดยระบุว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวละเมิดกฎขององค์การการค้าโลก หรือ WTO อย่างชัดเจน และขัดแย้งกับหลักการของการค้าเสรี ขณะพบปะกับเอลินา วัลโทเนน รัฐมนตรีต่างประเทศฟินแลนด์ในกรุงปักกิ่ง

หวังเสริมว่า จีนเชื่อเสมอมาว่าการเปิดกว้างจะนำไปสู่ความก้าวหน้า ในขณะที่การกีดกันทางการค้าไม่มีอนาคต และโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจที่เป็นประโยชน์และครอบคลุมทั่วโลกจะส่งผลดีต่อทุกฝ่าย

สำหรับทางออกของปัญหานี้ เฉิน ฮุ่ยชิง หัวหน้าสาขาบริการกฎหมายของหอการค้าจีนเพื่อการนำเข้าและส่งออกเครื่องจักรและผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ในกรุงปักกิ่ง เชื่อว่า การเจรจาเป็นหนทางที่ดีที่สุดที่จะก้าวไปข้างหน้า และการเจรจายังคงเป็นวิธีที่มีประสิทธิผลที่สุดในการป้องกันความตึงเครียดด้านเศรษฐกิจและการค้าทวิภาคีที่ทวีความรุนแรงขึ้น ท่ามกลางการเดินหน้าของทีมงานด้านเทคนิคระหว่างจีนและสหภาพยุโรป ที่กำลังดำเนินการปรึกษาหารือในระยะใหม่ ตามรายงานของกระทรวงพาณิชย์

IMCT News

ที่มา https://asianews.network/eu-tariffs-on-chinese-evs-face-backlash/