ขอบคุณภาพจาก The Federal News
31/10/2024
จีนและอินเดียใกล้จะเสร็จสิ้นกระบวนการถอนทหารและรื้อถอนโครงสร้างชั่วคราว เช่น จุดตรวจการณ์ชั่วคราว ในพื้นที่ตามแนวพรมแดนลาดักห์ ทางตะวันออกของอินเดียที่เป็นข้อพิพาท ซึ่งทหารของทั้งสองประเทศเคยเผชิญหน้ากันแล้ว หลังทั้งสองประเทศบรรลุข้อตกลงการลาดตระเวนฉบับใหม่ ซึ่งได้รับการรับรองโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน และนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดีย ระหว่างการประชุมสุดยอด BRICS ที่เมืองคาซานของรัสเซีย เมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา
นอกเหนือจากการที่ทั้งสองฝ่ายถอนทหารที่เคยเผชิญหน้ากันในลาดักห์แล้ว การ "ถอนกำลัง" ยังเกี่ยวข้องกับการรื้อถอนโครงสร้าง เช่น จุดตรวจการณ์ชั่วคราวและโรงเก็บของด้วย
เป็นที่เข้าใจว่า ทั้งสองประเทศได้ตกลงกันเกี่ยวกับพื้นที่ที่ทหารของแต่ละฝ่ายสามารถลาดตระเวนได้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น รวมถึงตกลงจะแจ้งข่าวการเคลื่อนไหวของกองลาดตระเวนระหว่างกัน
ด้านหนังสือพิมพ์อินเดียนเอ็กซ์เพรส อ้างแหล่งข่าวจากกองทัพอินเดีย ระบุว่ากองลาดตระเวนจะเดินหน้าโดยกองกำลังขนาดเล็กประมาณ 10 ถึง 15 นาย
ขณะเดียวกัน ทั้งสองประเทศก็ยังตกลงที่จะเปิดช่องทางการสื่อสารในระดับต่างๆ ของกองทัพเพื่อ "ดูแลกิจกรรมประจำวัน" และป้องกันเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์
ภายใต้ข้อตกลงล่าสุด สิทธิในการลาดตระเวนของทั้งสองประเทศในเดปซังและเดมโชคของภูมิภาคลาดักห์ได้รับการคืนสู่สภาพเดิม ก่อนที่ข้อพิพาทชายแดนจะปะทุขึ้นในปี 2020 และการเผชิญหน้าในเวลาต่อมาทำให้การลาดตระเวนต้องหยุดชะงัก
ขณะเดียวกัน อินเดียและจีนมีข้อพิพาทเรื่องพรมแดนในหลายจุดตลอดแนวชายแดน 3,440 กิโลเมตร ซึ่งไม่มีการกำหนดไว้ชัดเจน ซึ่งในเดือนเมษายน ปี 2020 ความตึงเครียดเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น เมื่ออินเดียกล่าวหาจีนว่าเปลี่ยนแปลงสถานะเดิมหรือเคลื่อนตัวไปไกลเกินกว่าที่กองทหารจีนเคยลาดตระเวนในหลายจุด ขณะที่อีกด้านหนึ่ง จีนก็กล่าวหาว่าอินเดียเป็นผู้รุกราน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าว ส่งผลให้ความตึงเครียดลุกลามกลายเป็นการปะทะกันเมื่อวันที่ 15 มิถุนายนในปีเดียวกัน (2020) โดยทั้งสองฝ่ายเสียชีวิตในหุบเขา Galwan จนส่งผลให้ทั้งสองฝ่ายต้องเพิ่มกำลังทหาร
ระหว่างปี 2021 ถึง 2022 หลังจากการเจรจาชายแดนหลายรอบ ประเทศต่างๆ ได้ถอนทหารออกและสร้างเขตกันชนเพื่อแยกพวกเขาออกจากหุบเขา Galwan, Pangong Tso และ Gogra Heights ซึ่งแหล่งข่าวระบุว่า การระงับการลาดตระเวนจะยังคงดำเนินต่อไปในพื้นที่เหล่านี้
ขณะเดียวกัน จากความเห็นที่ไม่ตรงกันเกี่ยวกับเงื่อนไขการถอนกำลัง จึงใช้เวลาอีกสองปี กว่าที่จีนและอินเดียจะถอนทหารออกจาก Depsang และ Demchok แต่ถึงแม้จะมีข้อตกลงล่าสุด ทั้งสองประเทศก็ยังคงต้องก้าวไปอีกไกล เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ให้เป็นปกติ
อีกด้านหนึ่ง ความสัมพันธ์ด้านการลงทุนและธุรกิจระหว่างทั้งสองประเทศ จะได้รับผลกระทบจากข้อพิพาทชายแดน แม้ว่าความสัมพันธ์ทางการค้าจะแข็งแกร่งขึ้น ซึ่งการถอนทหารถือเป็น “ก้าวแรกอันมีค่า” ในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างจีนและอินเดีย ตามมุมมองของศาสตราจารย์ C. Raja Mohan ศาสตราจารย์วิจัยรับเชิญจากสถาบันเอเชียใต้
“บรรยากาศที่ตึงเครียดยาวนานสี่ปีได้สลายลงแล้ว ซึ่งเปิดพื้นที่ให้เกิดการเจรจาทางการทูตและการเมือง” แต่ปัญหาคือ “ต้องดำเนินขั้นตอนต่อเนื่องหลายขั้นตอน” รวมถึงการลดกำลังทหารตามแนวชายแดน เพราะ “ปัญหาในการสร้างความไว้วางใจที่ชายแดนยังคงมีอยู่”
IMCT News