ขอบคุณภาพจาก สำนักข่าวซินหัว
1/5/2024
ในขณะที่ทางการไทยใช้นโยบายให้หยุดเพิ่มเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายของผู้คน ที่ประเทศจีนก็ใช้แนวคิดนี้เช่นกัน โดยวันหยุดแรงงานที่ปีนี้ ( 2024 ) มาตรงกับวันพุธที่ 1 พฤษภาคม ซึ่งตามปกติ คนจีนจะต้องทำงานต่ออีกสองวัน คือ วันพฤหัสบดีที่ 2 และวันศุกร์ที่ 3 จึงจะได้หยุดอีกทีคือวันเสาร์และอาทิตย์ แต่เนื่องจากทางการจีนต้องการกระตุ้นการท่องเที่ยวและการจับจ่าย จึงประกาศขยายวันหยุดแรงงานยาวไป ตั้งแต่วันที่ 1-5 พฤษภาคม เพื่อให้ประชาชนได้หยุดพักผ่อนกันมากขึ้น
แต่เพื่อป้องกันประเทศเกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจจากการหยุดยาวขนาดนั้น ทางการจีนจึงประกาศซ้ำอีก ให้แรงงานต้องมาทำงานชดเชยในวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา และมาทำงานเพิ่มเติมวันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม
และนับจากนี้ ทางการจีนจะใช้นโยบายแบบนี้ไปตลอดปี 2024 คือ ในวันฉลองเทศกาลสำคัญต่างๆ และวันชาติ ทางการจีนจะกำหนดให้หยุดยาวไปเลยติดต่อกันหลายวัน แต่จะให้แรงงานมาทำงานเพิ่มเติมชดเชยในวันเสาร์ หรือ อาทิตย์แทน
แต่พอไปสอบถามความเห็นแรงงานจีน บางคนกลับรู้สึกว่า แม้ทางการจะให้หยุดยาวนานถึง 5 วัน ในวันแรงงาน แต่พวกเขากลับไม่มีความรู้สึกอยากจะออกไปเที่ยวเล่น หรือ สังสรรค์ปาร์ตี้กับใคร
ทางการจีนใช้แนวคิดหยุดยาวติดต่อกันเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจมาตั้งแต่ปี 1999 หลังเกิดวิกฤติการเงินในเอเชีย แต่ในครั้งนี้ คนจีนส่วนใหญ่ต่างบ่นพึมพำในสื่อออนไลน์ และไม่อยากจะสนับสนุนแนวคิดนี้อีกต่อไป
พวกเขาบอกว่า ถ้าเอาตามความเป็นจริง ใครจะกล้าไปหยุดยาวติดต่อกันเนื่องในวันแรงงานตามที่รัฐบาลกำหนด เพราะหลังวิกฤติโรคระบาด เศรษฐกิจจีนซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของโลกก็อยู่ในภาวะซบเซา ทำให้แรงงานหลายคนกลัวมากขึ้นว่าจะตกงานถ้าไปขอหยุดเพิ่มเติมกับนายจ้าง โดยอ้างว่ารัฐบาลเป็นผู้กำหนด
สถานการณ์ตอนนี้ ยังบีบให้นายจ้างต้องร้องขอให้บรรดาลูกจ้างทำงานหนักขึ้นกว่าเดิมด้วย เพราะนายจ้างพยายามจะใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจรุมเร้า ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติอสังหาริมทรัพย์ การลงทุนของต่างชาติลดลง และการบริโภคภายในประเทศซบเซา
และก็เหมือนกับเมืองไทยอีกเช่นกัน ที่คนจีนต่างพากันบ่นในสื่อออนไลน์ว่า ที่รัฐบาลกำหนดให้หยุดยาวต่อเนื่องเช่นนี้ เพราะอยากให้พรรคพวกของตัวเองได้หยุดยาวมากกว่า ไม่ได้เป็นการคำนึงถึงประชาชนอย่างจริงจัง
หลายคนยังมองว่า พวกเขาต้องการวันหยุดยาวต่อเนื่องจริงๆ โดยที่ไม่ต้องกำหนดให้มาทำงานชดเชยในวันเสาร์ หรือ อาทิตย์แบบนี้
การหยุดยาวต่อเนื่องแบบนี้ ยังส่งผลเสียในอีกด้านคือ ทำให้ผู้คนพากันออกเดินทาง ส่งผลให้ตั๋วรถไฟหายาก ราคาที่พักโรงแรมพุ่งสูง และเกิดความโกลาหลตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
นักวิเคราะห์จากมหาวิทยาลัยเวลลิงตัน ในนิวซีแลนด์ มองว่า เศรษฐกิจจีนอยู่ในภาวะขลุกขลักมาหลายปีแล้ว เพราะพยายามปรับเปลี่ยนจากประเทศมหาอำนาจด้านการผลิต ให้เป็นประเทศที่พัฒนาเศรษฐกิจอิงจากความรู้เป็นสำคัญ
และตอนนี้ คนจีนเริ่มตั้งคำถามว่า ประเทศกำลังจะมุ่งหน้าไปทางไหน เศรษฐกิจชะลอตัว สร้างแรงกดดันให้หลายบริษัทต้องปรับปรุงภาคการผลิต ในขณะที่ก็ต้องตัดลดค่าใช้จ่ายลงด้วย แรงงานถูกบีบให้ทำงานหนักขึ้น เพราะกลัวตกงาน และในเวลาเดียวกัน พวกเขายังวิตกว่า ถ้าออกจากงานไป จะไปหางานอื่นที่มีรายได้มากกว่านี้ได้หรือไม่
แรงงานจีนบางส่วนเคยชินกับการทำงานยาวนานหลายชั่วโมง ภายใต้วัฒนธรรม “ 996 “ ของจีน ซึ่งหมายถึงว่า ทำงานตั้งแต่ 9 โมงเช้า ไปจนถึง สามทุ่ม และต้องทำงาน 6 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เทรนด์นี้ยังมีอยู่ตามบริษัทไฮเทคของจีน รวมถึงสตาร์ทอัพ และธุรกิจเอกชนอื่นๆ
แม้จีนจะมีวันหยุดนักขัตฤกษ์มากกว่า 25 วันต่อปี ซึ่งถือว่า มากกว่าประเทศอื่นๆ เพราะอย่างสหรัฐมีวันหยุดทำนองนี้แค่ 11 วัน และอังกฤษมีแค่ 8 วัน แต่ปัญหาก็คือ แรงงานจีนมีวันลากิจที่ยังได้เงินเดือนเพียงแค่ 5 วันต่อปีเท่านั้น น้อยกว่าประเทศอื่นๆ มาก ถ้าในยามเศรษฐกิจดี เจ้านายก็ไม่ได้ว่าอะไรที่จะให้พนักงานลากิจ แต่ในยามที่เศรษฐกิจซบเซาเช่นนี้ พนักงานส่วนใหญ่ก็ไม่กล้าลากิจกัน การลากิจยาวๆ อาจทำให้เพื่อนร่วมงานรังเกียจอีกด้วย
แต่ปัจจุบัน ก็มีบริษัทจีนบางแห่ง ออกแนวคิดใหม่ๆ เพื่อทำให้พนักงานมีความสุข ด้วยการเสนอให้พนักงานที่รู้สึกว่า วันไหนไม่มีอารมณ์ทำงาน ก็ให้ลาหยุดได้เลย โดยจะให้มีวันหยุดแบบนี้ 10 วันต่อปี
By IMCT News