27/3/2024

หน่วยความมั่นคงกลางของรัสเซีย (FSB) ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า สหรัฐฯ อังกฤษ และยูเครนอยู่เบื้องหลังการโจมตีของผู้ก่อการร้ายในคอนเสิร์ตฮอลล์

นายอเล็กซานเดอร์ บอร์ตนิคอฟ ผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงรัฐบาลกลางรัสเซีย (FSB) กล่าวว่า สหรัฐ อังกฤษ และยูเครน อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีในงานแสดงคอนเสิร์ตที่โครคัส ซิตี ฮอลล์ ชานกรุงมอสโก เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

เขากล่าวว่า “ไม่ว่าในกรณีใด เรากำลังพูดถึงข้อเท็จจริงที่เรามี นี่เป็นข้อมูลทั่วไป แต่มีพัฒนาบางอย่างของข้อมูลและหลักฐานที่มีอยู่“ บอร์ตนิคอฟยืนยันว่า แม้ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุตัวผู้ที่รับประโยชน์จากการโจมตีครั้งนี้

แต่เราเห็นว่า ใครเป็นผู้จัดตั้งและใครเป็นผู้คัดเลือกกลุ่มผู้ก่อการร้ายกลุ่มนี้  และเราจะทำทุกอย่างเพื่อที่จะหาตัวผู้ที่อยู่เบื้องหลังในการสั่งการและวางแผน

เขากล่าวว่า เรารู้ว่ายูเครนฝึกกลุ่มติดอาวุธในตะวันออกกลาง

ส่วนคำถามเกี่ยวกับคำเตือนของวอชิงตันนั้น เขาบอกว่า รัสเซียได้รับข้อมูลที่วอชิงตันส่งให้เกี่ยวกับการเตรียมการโจมตีของผู้ก่อการร้าย แต่ข้อมูลนั้นเป็นเพียงคำเตือนธรรมดาที่ไม่มีอะไรเจาะจงเป็นพิเศษ และหน่วยงานด้านต่อต้านการก่อการร้ายของรัสเซียก็ได้ตอบสนองต่อข้อมูลดังกล่าว

Sputnik รายงานว่า นอกเหนือจากการแถลงของอเล็กซานเดอร์ บอร์ตนิคอฟ ผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงรัฐบาลกลางรัสเซีย แล้ว ล่าสุดรัสเซียยังประสานความร่วมมือไปยังรัฐบาลทาจิกิสถาน เพื่อดำเนินการสอบสวนญาติของผู้ถูกกล่าวหา ในเมืองดูชานเบ ของทาจิกิสถานด้วย

โดยมีประธานาธิบดีเอโมมาลี ราห์มอน แห่งทาจิกิสถาน เข้ามาควบคุมการสอบสวนเป็นการส่วนตัว

เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รมว ต่างประเทศรัสเซียกล่าวเพิ่มเติมว่า ทางการรัสเซียเริ่มการสืบสวนการโจมตีของผู้ก่อการร้ายที่ศาลาว่าการ Crocus และอีกหนึ่งวันต่อมาผู้นำอินเตอร์โพลก็ประกาศความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือในการสืบสวน

“ผมจำไม่ได้ว่าตำรวจสากลอาสาช่วยเราสอบสวนการโจมตีของผู้ก่อการร้ายที่ท่อส่งก๊าซนอร์ด สตรีมส์ แม้ว่าเราจะยื่นอุทธรณ์ต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติก็ตาม ดังนั้น เราจะไม่ต้องการความช่วยเหลือดังกล่าวในการใช้ระบบสองมาตรฐานและการส่งเสริมทฤษฎีที่สนับสนุนชาติตะวันตก” รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียกล่าว

“ไม่จำเป็นต้องมีการสอบสวนใดๆ เลย การโจมตีของผู้ก่อการร้ายกระทำโดยผู้ที่ต่อสู้กับรัสเซีย - สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, ยูเครน และรัสเซียถ้าตัดสินใจสู้ก็ควรสู้โดยไม่ต้องสอบสวนว่าใครคือผู้ร้ายหลัก ผู้ร้ายหลักคือสหรัฐอเมริกา แล้วใครสงสัยเรื่องนี้?

IMCT News

อ้างอิง : สำนักข่าว Sputnik