Thailand
ขอบคุณภาพจาก HSBC Business Go - HSBC Group
28/9/2024
มาเลเซียและสิงคโปร์มุ่งมั่นเพื่อที่จะให้แน่ใจว่าเขตเศรษฐกิจพิเศษยะโฮร์-สิงคโปร์ (JS-SEZ) ประสบความสำเร็จ เนื่องจากทั้งสองประเทศมีข้อตกลงร่วมกัน โดยนาตาซา แฮร์ริส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท Invest Johor กล่าวว่า ทั้งสองประเทศจะต้องพิสูจน์ให้โลกเห็นว่าความสำเร็จของเขตเศรษฐกิจพิเศษยะโฮร์สามารถบรรลุได้ด้วยการทำงานร่วมกันเท่านั้น
“ข้อตกลงในการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษนั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของทั้งสองประเทศ และเราจะต้องดำเนินการตามที่ตกลงกันไว้” นาตาซากล่าวระหว่างการอภิปรายกลุ่มในหัวข้อ “JS-SEZ: ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นและการพัฒนาภูมิภาค และสิ่งที่ธุรกิจต้องการ” ที่งาน “Invest Malaysia: Where Policy Meets Progress”
นอกจากนี้ นาตาซายังเรียกร้องให้วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ตั้งอยู่ในรัฐยะโฮร์มองหาวิธีที่จะร่วมมือกับบริษัทข้ามชาติที่มีแนวโน้มจะตั้งการดำเนินงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษ JS-SEZ เพราะ “เป็นหน้าที่ของพวกเขาที่จะคว้าโอกาสด้วยการมีส่วนร่วมในห่วงโซ่อุปทานระดับโลก”
ด้านศาสตราจารย์ ดร.ออง เคียน มิง สมาชิกคณะกรรมการสำนักงานพัฒนาอุตสาหกรรมมาเลเซีย กล่าวว่าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งทศวรรษสำหรับ JS-SEZ ที่จะกลายเป็นตัวเปลี่ยนเกม เนื่องจากทั้งมาเลเซียและสิงคโปร์ต้องการให้ประสบความสำเร็จ จากการที่ความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่ยังคงดำเนินต่อไป จะเป็นโอกาสให้เขตเศรษฐกิจพิเศษดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนจากจีน ญี่ปุ่น และยุโรปได้อย่างมาก
“มาเลเซียและสิงคโปร์ไม่ได้แข่งขันกัน แต่เสริมซึ่งกันและกัน และเขตเศรษฐกิจพิเศษ JS-SEZ จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีของทั้งสองประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น” ศ.ดร.อองกล่าว พร้อมเสริมว่า การสร้างโครงการ Johor Baru-Singapore Rapid Transit Link (RTS Link) ให้แล้วเสร็จในเดือนมกราคมปี 2027 จะช่วยปรับปรุงการเชื่อมต่อและการเข้าถึงที่ Johor Causeway ให้ดีขึ้น
นอกจากนี้ ศ.ดร.อองก็ยังกล่าวว่า เขาอยากเห็นโครงการ RTS Link แห่งที่ 2 เกิดขึ้นที่ Second Link Crossing ใน Tanjung Kupang, Gelang Patah มากกว่าสะพานแห่งที่สามตามที่ฝ่ายต่างๆ เสนอ
“โครงการ RTS Link ที่เชื่อมระหว่าง Tanjung Kupang และ Tuas ในสิงคโปร์ จะช่วยส่งเสริมให้ JS-SEZ ก้าวหน้ายิ่งขึ้น” ศ.ดร.อองกล่าว
ขณะที่รุดยันโต อัซฮาร์ หัวหน้าฝ่ายเศรษฐศาสตร์และการลงทุนของสำนักงานพัฒนาภูมิภาคอิสกันดาร์ กล่าวว่ารัฐยะโฮร์มีระบบนิเวศที่เหมาะสมที่จะทำให้เขตเศรษฐกิจพิเศษ JS-SEZ ประสบความสำเร็จ เช่นเดียวกับที่อิสกันดาร์ของมาเลเซียทำได้
สำหรับอิสกันดาร์ที่ก่อตั้งเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนปี 2006 จะบรรลุเป้าหมายการลงทุน 383,000 ล้านริงกิตภายในปีหน้า (2025) โดยเมื่อปีที่แล้ว (2023) มีการลงทุนตามเป้าหมาย 400,000 ล้านริงกิต
“การลงทุนได้สำเร็จไปแล้วเกือบ 70% ซึ่งอิสกันดาร์ยังคงดึงดูดความสนใจอย่างมากจากนักลงทุนทั้งจากต่างประเทศและในประเทศ”
IMCT News
© Copyright 2020, All Rights Reserved