ขอบคุณภาพจาก TechRadar

19/10/2024

ไมโครซอฟต์เปิดเผยรายงาน Digital Defense Report ประจำปีนี้ (2024) ระบุว่า แฮกเกอร์ชาวเกาหลีเหนือโจรกรรมเงินดิจิทัลมูลค่าประมาณ 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มาตั้งแต่ปี 2017 เพื่อนำเงินดังกล่าวไปสนับสนุนโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของรัฐบาลเกาหลีเหนือกว่าครึ่ง โดยเมื่อปีที่ผ่านมา (2023) แฮกเกอร์เกาหลีเหนือได้โจรกรรมเงินดิจิทัลไประหว่าง 600 ล้าน ถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ตั้งแต่ปีที่แล้ว (2023) ไมโครซอฟต์ได้ระบุกลุ่มแฮกเกอร์ชาวเกาหลีเหนือหลายกลุ่ม ได้แก่ Moonstone Sleet, Jade Sleet, Sapphire Sleet และ Citrine Sleet ซึ่งมีเป้าหมายเป็นองค์กรที่ใช้สกุลเงินดิจิทัล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Moonstone Sleet ได้พัฒนาแรนซัมแวร์ หรือมัลแวร์เรียกค่าไถ่แบบกำหนดเอง และนำไปใช้กับองค์กรที่ไม่ระบุตัวตนในภาคการบินและอวกาศและการป้องกันประเทศ ทั้งเพื่อการรวบรวมข่าวกรอง และแสวงหาผลกำไรทางการเงิน

นักวิเคราะห์ของไมโครซอฟต์กล่าวว่าการเกิดขึ้นของกลุ่มแฮกเกอร์กลุ่มใหม่บ่งชี้ว่าระบอบการปกครองของเกาหลีเหนือกำลังขยายการเข้าไปเกี่ยวข้องกับกิจกรรมแรนซัมแวร์ เพิ่มการใช้เครื่องมือทางไซเบอร์เพื่อเสริมทรัพยากรทางการเงินของระบอบการปกครอง และส่งเสริมผลประโยชน์เชิงกลยุทธ์ของตน

ด้านทอม เบิร์ต รองประธานฝ่ายความปลอดภัยและความไว้วางใจของลูกค้าของไมโครซอฟต์กล่าวว่า "ประเทศต่างๆ กำลังแข็งกร้าวมากขึ้นในโดเมนไซเบอร์ โดยมีระดับความซับซ้อนทางเทคนิคที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสะท้อนถึงการลงทุนที่เพิ่มขึ้นในทรัพยากรและการฝึกอบรม"

นอกจากนี้ ไมโครซอฟต์ยังเตือนถึงภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้นจากผู้ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เกี่ยวข้องกับรัสเซีย จีน และอิหร่าน ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนหน้า (พ.ย.2024) ท่ามกลางความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อในยุโรปและตะวันออกกลาง

IMCT News

ที่มา https://www.koreaherald.com/view.php?ud=20241017050261