ทางรอดระบบการเงินสหรัฐ ผูกดอลลาร์-ทองคำ แก้วิกฤต Fed
17-11-2024
จูดี้ เชลตัน นักเศรษฐศาสตร์ผู้สนับสนุนระบบการเงินที่มีเสถียรภาพ ผู้เขียนหนังสือ "Good as Gold: How to Unleash the Power of Sound Money" ได้นำเสนอแนวทางปฏิรูประบบการเงินสหรัฐฯ โดยเสนอให้นำระบบมาตรฐานทองคำกลับมาใช้ ผ่านการออกพันธบัตรรัฐบาลที่แลกเป็นทองคำได้
ในหนังสือ จูดี้ เชลตัน วิพากษ์วิจารณ์การดำเนินงานของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หลายประเด็น โดยเฉพาะการใช้ดุลยพินิจอย่างกว้างขวางที่ทำให้นโยบายการเงินคาดเดายาก แม้อ้างว่าใช้ข้อมูลเป็นฐานตัดสินใจ แต่ข้อมูลเศรษฐกิจที่หลากหลายและเปลี่ยนแปลงเร็วทำให้การตัดสินใจไม่แน่นอน อีกทั้งข้อมูลต่างๆ มักชี้ทิศทางขัดแย้งกัน เช่น ผู้ค้าปลีกคาดการณ์ยอดขายช่วงเทศกาลทำสถิติ ขณะที่เฟดสาขานิวยอร์กเพิ่งเผยผลสำรวจพบคนกังวลความสามารถชำระหนี้สูงสุดตั้งแต่ปี 2563
การปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วจาก 0.5% เป็นกว่า 5% ในเวลาเพียง 2 ปี สร้างปัญหาในหลายภาคส่วน ทั้งการล้มละลายของ Silicon Valley Bank และ Signature Bank รวมถึงวิกฤตในตลาดอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ที่เผชิญทั้งผลกระทบจากการทำงานทางไกลและต้นทุนดอกเบี้ยที่พุ่งสูง ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์เสื่อมค่าต่อเนื่อง โดย 1 ดอลลาร์ในปี 2024 มีค่าเทียบเท่า 25 เซ็นต์ในปี 1980, 10 เซ็นต์ในปี 1965 และ 1 เซ็นต์ในปี 1900
การเสื่อมค่าของเงินดอลลาร์ส่งผลให้ราคาสินทรัพย์พุ่งสูง เอื้อประโยชน์ต่อนักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญ แต่กัดกร่อนเงินออมและกระทบผู้มีรายได้คงที่ อีกทั้งบิดเบือนการคำนวณราคาและความคาดหวัง นอกจากนี้ นโยบายการเงินผ่อนคลายยังมีส่วนผลักดันราคาบ้านให้สูงขึ้น จนเจ้าของบ้านที่มีส่วนทุนมากพยายามกีดกันการสร้างที่อยู่อาศัยใหม่เพื่อปกป้องมูลค่าทรัพย์สินของตน
ระบบการเงินที่ไม่มีเสถียรภาพยังส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ ทำให้บริษัทต้องเสียเวลาและทรัพยากรป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน นำไปสู่การเติบโตของภาคการเงินที่เกินจำเป็น ขณะที่ความผันผวนของค่าเงินที่อาจเคลื่อนไหว 15-30% ในหนึ่งปีทำให้การลงทุนระหว่างประเทศบิดเบือนไปจากปัจจัยพื้นฐานและความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบ
หนังสือยังอภิปรายข้อถกเถียงระหว่างมิลตัน ฟรีดแมน ที่สนับสนุนระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว และโรเบิร์ต มันเดล ที่เห็นด้วยกับเสถียรภาพอัตราแลกเปลี่ยน แต่ทั้งคู่เห็นพ้องว่าเจ้าหน้าที่รัฐและธนาคารกลางควรมีดุลยพินิจจำกัด พร้อมชี้ให้เห็นว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (2557-2567) ค่าเงินหลักอ่อนค่าเทียบกับทองคำอย่างมาก ทั้งยูโร (129%), เปโซเม็กซิโก (131%), ดอลลาร์แคนาดา (122%), หยวน (105%) และเยน (165%) เทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่า 77%
แนวทางแก้ไขที่เสนอคือการออกพันธบัตรรัฐบาลที่แลกเป็นทองคำได้ ซึ่งจะช่วยใช้ประโยชน์จากทองคำสำรองของสหรัฐฯ ที่มีมากที่สุดในโลกแต่ถูกบันทึกมูลค่าต่ำกว่าความเป็นจริงมาก (ต่ำกว่า 50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เทียบกับราคาตลาดกว่า 2,700 ดอลลาร์) และอาจเปิดทางให้ออกพันธบัตรระยะยาว 50 ปีขึ้นไปด้วยดอกเบี้ยต่ำ เนื่องจากความเสี่ยงจากค่าเงินเสื่อมค่าถูกกำจัดไป
อย่างไรก็ตาม การปฏิรูปอาจเผชิญแรงต้านจากผู้ได้ประโยชน์จากระบบปัจจุบัน ทั้งธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ สถาบันการเงิน เจ้าหน้าที่เฟด นักการเมือง และผู้กำกับดูแล ที่ได้ประโยชน์จากนโยบายการเงินผ่อนคลาย แต่เชลตันเชื่อว่าการกลับสู่ระบบการเงินที่มีเสถียรภาพจะช่วยสร้างความเจริญทางเศรษฐกิจที่มั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว
---