ขอบคุณภาพจาก Wikipedia
18.07.2024
อินเดียเปิดตัวรถถังเบารุ่นต้นแบบ Zorawar ในเดือนนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของเจ้าหน้าที่ทหาร ที่ต้องการรถหุ้มเกราะที่มีความคล่องตัวสูง และเหมาะสมกับภูมิประเทศที่เป็นภูเขาตามแนวชายแดนจีน ซึ่งเกิดความรุนแรงขึ้นเมื่อกลางปี 2020
Zorawar เกิดจากความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน คือบริษัท Larsen & Toubro (ย่อว่า L&T) ที่ได้ร่วมมือกับองค์การวิจัยและพัฒนาการป้องกันประเทศ (DRDO) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ รถถังนี้ได้เปิดตัวที่โรงงานของ L&T ในเมือง Hajira รัฐคุชราต
กองทัพบกอินเดียได้สั่งซื้อรถถังไปจำนวน 59 คัน แต่หัวหน้า DRDO เผยว่า Zorawar จะยังไม่พร้อมจนกว่าจะถึงปี 2027
เขากล่าวว่า รถถังรุ่นต้นแบบนี้สร้างเสร็จภายในเวลาเพียงสองปีครึ่งเท่านั้น และจะเข้ารับการทดสอบในช่วงหกเดือนข้างหน้า จากนั้น จึงจะพร้อมนำเสนอให้ผู้ใช้งานได้ทดสอบเช่นกัน โดยการทดสอบแรกนั้นจะดำเนินการในทะเลทรายและที่ราบสูง ก่อนที่กองทัพบกอินเดียจะเป็นผู้ทำการประเมินอย่างละเอียดด้วยตนเอง
รองประธานบริหารของ L&T กล่าวว่า นี่เป็นความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่าง DRDO และ L&T และไม่มีที่ไหนในโลกที่เปิดตัวยุทโธปกรณ์ใหม่ได้เร็วขนาดนี้
แม้จะมีการคาดการณ์ดังกล่าว แต่ระบบจัดซื้อจัดจ้างทางทหารของอินเดียเป็นที่รู้กันดีว่ามีความล่าช้า ซึ่งทั้ง DRDO และ L&T ไม่ได้ตอบกลับสื่อทันที เมื่อถูกถามเกี่ยวกับความเชื่อมั่นที่จะทำได้ตามแผนงานที่วางไว้
ผู้อำนวยการของบริษัทที่ปรึกษาด้านความเสี่ยงด้านความมั่นคงในกรุงเดลี กล่าวว่า ในกรณีนี้ น่าจะไว้วางใจได้ เพราะL&T มีประวัติการส่งมอบอาวุธที่ดี โดยได้เคยส่งมอบรถถังหลัก K9 Vajra ก่อนกำหนด
เขาเสริมว่า ผลลัพธ์ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับความคืบหน้าของการทดสอบ และกองทัพก็ยังคงแน่วแน่เรื่องความต้องการที่ต้องให้ได้คุณภาพตามที่วางไว้
แม้อินเดียยึดหลักให้ประเทศพัฒนาและใช้เทคโนโลยีตลอดจนภาคอุตสาหกรรมของตัวเองในการผลิตยุทโธปกรณ์ทางการทหาร แต่รถถังเบา Zorawar ก็พัฒนาโดยการขอยืมเทคโนโลยีมาจากต่างชาติมากมาย เช่น ป้อมปืน Cockerill 3105 มาจากเบลเยียม ระบบเล็งเป้า Safran Paseo มาจากฝรั่งเศส และเครื่องยนต์จากต่างประเทศ
ยังไม่มีการยืนยันชัดเจนว่า รุ่นต้นแบบจะใช้เครื่องยนต์ Cummins VTA903E-series หรือ MTU 8V199 TE21 และยังไม่ทราบด้วยว่าจะเลือกประเภทใดสำหรับการผลิต
รถถัง Zarawar ติดตั้งปืนใหญ่ขนาด 105 มม. ที่มีระบบบรรจุกระสุนอัตโนมัติ หมายความว่า รถถังต้องการพลประจำรถเพียง 3 นายในการควบคุม รถยังมีปืนกลร่วมแกนขนาด 7.62 มม. และสถานีอาวุธควบคุมระยะไกลขนาด 12.7 มม. ที่ติดตั้งบนป้อมปืน นอกจากนี้ ป้อมปืนยังบรรจุขีปนาวุธต่อต้านรถถังอีกสองลูกด้วย
รถถังใช้แทร็คยางผสมและมีถังลอยตัวติดตั้งด้านข้าง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสามารถลุยน้ำได้ อินเดียมีแผนที่จะติดตั้งระบบโดรนและอาวุธแบบดักรออยู่กับที่กับรถด้วย
Zarawar มีน้ำหนักเบากว่ารถถังที่มีอยู่ของกองทัพอินเดียมาก ซึ่งหมายความว่ามันเหมาะสมมากกว่าในการรับมือรถถัง Type 15 น้ำหนัก 36 ตัน ของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ในเขตเทือกเขา
เอกสารอนุมัติโครงการทางทหารของอินเดียเมื่อเดือนธันวาคม 2022 ยังระบุถึงความต้องการรถถังเบาจำนวน 315 คัน
By IMCT NEWS