*อุตฯรถยนต์ไทยปี 67 เผชิญความท้าทายรอบด้าน EV แย่งส่วนแบ่ง 30 % คาดผ่านจุดต่ำสุดไปได้ภายในช่วง ครึ่งหลังของปี 2568**ยอดขายทรงตัวที่ 5.5 แสนคัน กว่าจะฟื้นตัวรอปี  71* 

7/11/2024

Economic Intelligence Center (EIC) ประเมินอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยจะผ่านจุดต่ำสุดในช่วงครึ่งหลังปี 2568 และทยอยฟื้นตัวอย่างช้าๆ แม้เผชิญความท้าทายรอบด้าน โดยคาดการณ์ยอดขายรถยนต์ในประเทศปี 2568 จะทรงตัวที่ระดับ 5.5 แสนคัน และในระยะกลางมีแนวโน้มฟื้นตัวช้า ยังไม่สามารถกลับสู่ระดับก่อนโควิดได้ภายในปี 2571

ปัจจัยกดดันหลักมาจากสถาบันการเงินเข้มงวดปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อ กำลังซื้อเปราะบาง พฤติกรรมการใช้รถยาวนานขึ้น และการแข่งขันด้านราคารุนแรง นอกจากนี้ยังต้องจับตา Vicious cycle จากราคารถมือสองที่มีแนวโน้มลดลงจากปัญหารถยึด ส่งผลให้สถาบันการเงินระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น

ด้านรถเชิงพาณิชย์มีแนวโน้มฟื้นตัวดีกว่า จากการค้าชายแดนและการท่องเที่ยวที่คึกคัก แต่ต้องจับตาการนำเข้ารถไฟฟ้าจากจีนที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด อาจกระทบความสามารถในการแข่งขันของผู้ผลิตในประเทศ

ขณะที่ตลาดรถจักรยานยนต์มีแนวโน้มซบเซาต่อเนื่อง จากกำลังซื้อกลุ่มฐานรากที่เปราะบาง ทั้งปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง รายได้ภาคเกษตรผันผวน และสินเชื่อที่เข้มงวด แม้การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอาจช่วยหนุนกำลังซื้อบ้าง ส่วนการส่งออกคาดว่าจะกลับมาขยายตัวได้จากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในญี่ปุ่น ยุโรป และจีน

ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (Hybrid และ BEV) ได้รับความนิยมต่อเนื่อง คาดยอดขายปี 2568 แตะ 2.1 แสนคัน หรือ 30% ของยอดขายรวม โดยรถไฮบริดเป็นแรงขับเคลื่อนหลักทั้งในตลาดระดับกลาง (5 แสน-1 ล้านบาท) และรถหรู ขณะที่ BEV คาดครองส่วนแบ่ง 10% แม้ยังติดขัดปัญหาสถานีชาร์จไม่พอ อะไหล่และอู่ซ่อมจำกัด รวมถึงต้นทุนถือครองสูง

ด้านห่วงโซ่อุปทาน EV ในไทยมีพัฒนาการต่อเนื่อง โดยกำลังการผลิต BEV จะเพิ่มเป็น 6 แสนคัน/ปี ในช่วงปี 2568-2571 พร้อมการเติบโตของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง ทั้งรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า สถานีชาร์จ/สลับแบตเตอรี่ และการผลิตชิ้นส่วน ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนไทย

ที่มา Economic Intelligence Center (EIC)

 https://www.scbeic.com/th/detail/product/automotive-071124