Thailand
เศรษฐกิจจีนสัญญาณดี ความเสี่ยงเงินฝืดลดลง แต่อุปสงค์ในประเทศเปราะบาง
15/5/2024
แม้ความเสี่ยงด้านเงินฝืดในจีนจะเริ่มผ่อนคลายลง แต่การฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในประเทศยังคงเปราะบางและไม่ทั่วถึง ภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัวยังกดดันครัวเรือน ขณะที่การส่งออกเผชิญแรงกดดันจากการกีดกันทางการค้าที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งการเงินและการคลังจะเป็นปัจจัยหนุนให้เศรษฐกิจจีนในปี 2567 ขยายตัวได้ที่ 4.5%
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยแพร่ข้อมูลวิเคราะห์เศรษฐกิจประเทศจีน ดังนี้
ความเสี่ยงด้านเงินฝืดของจีนเริ่มผ่อนคลายลง แต่เป็นการฟื้นตัวที่ยังไม่ทั่วถึง โดยในเดือนเมษายน 2567 ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 อยู่ที่ 0.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของเงินเฟ้อในไตรมาสแรกที่ 0.0% ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอยู่ที่ 0.7% โดยได้แรงหนุนจากภาคบริการ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่มีเงินเฟ้อขยายตัวถึง 4.1% ส่วนราคาอาหาร ยกเว้นราคาเนื้อหมูและผักสด ยังเป็นปัจจัยกดดันสำคัญของ CPI
ในระยะต่อไป แนวโน้มเงินเฟ้อของจีนยังคงเป็นบวกได้ต่อเนื่อง จากปัจจัยด้านอุปทานเป็นหลัก เนื่องจากรัฐบาลท้องถิ่นมีแนวโน้มปรับเพิ่มค่าสาธารณูปโภคในด้านต่าง ๆ เพื่อลดแรงกดดันปัญหาหนี้ท้องถิ่นจากภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังชะลอตัว โดยในเดือนมิถุนายน จะเริ่มปรับขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าความเร็วสูงในสายสำคัญประมาณ 20% รวมถึงค่าสาธารณูปโภคอื่น ๆ เช่น ค่าไฟฟ้า
อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายภายในประเทศของจีนยังฟื้นตัวอย่างเปราะบางและไม่ทั่วถึง โดยการชะลอตัวในภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงเป็นปัจจัยกดดันครัวเรือน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังอยู่ในระดับต่ำ การจับจ่ายส่วนใหญ่เป็นในภาคบริการ ขณะที่ชะลอการซื้อสินค้าคงทน เช่น รถยนต์ ยอดการกู้ยืมของครัวเรือนในเดือนเมษายนหดตัวลง 532 พันล้านหยวน บ่งชี้ว่าครัวเรือนมีการจ่ายคืนหนี้มากกว่าการขอกู้ยืมเพิ่ม
นอกจากนี้ การส่งออกของจีนยังเผชิญแรงกดดันจากการกีดกันทางการค้าที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าเป้าหมายใหม่ เช่น รถยนต์ไฟฟ้าปรับเพิ่มเป็น 102.5% แผงโซลาร์เซลล์เป็น 50% และเซมิคอนดักเตอร์ที่จะเก็บภาษีเพิ่มในปีหน้า รวมถึงอาจได้รับผลกระทบจากการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่อาจมีการเก็บภาษีสินค้าจีนเพิ่ม 60% หาก นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าเศรษฐกิจจีนในปี 2567 จะยังเติบโตได้ที่ 4.5% จากแรงหนุนสำคัญของนโยบายการเงินและการคลังที่ผ่อนคลายต่อเนื่อง ทั้งการปรับลดอัตราดอกเบี้ย รวมถึงการออกพันธบัตรรัฐบาลกลางระยะยาวพิเศษมูลค่ารวม 1 ล้านล้านหยวน ครอบคลุมอายุ 20 ถึง 50 ปี เพื่อลงทุนโครงการที่สอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาวของประเทศ คาดจะมีมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติมออกมาหนุนเศรษฐกิจต่อไป
IMCT NEWS
ที่มา ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
© Copyright 2020, All Rights Reserved