.
36 0C
Thailand
Thailand
ทองร่วง $84 เงินหลุดแนวต้านหลังทรัมป์ชนะฯ แต่แนวโน้มขาขึ้นยังแกร่งคาดทองทะลุ $15,000 ธนาคารใหญ่ซื้อ-ขายล่วงหน้าเงิน 200 ล้านออนซ์
13/11/2024
ทองดิ่ง $84.73 ต่ำกว่าแนวรับ $2,700 - เผยธนาคารใหญ่กดราคาเงินช่วงเช้า 10 วันใน 13 วันทำการ ชี้ถือสถานะขายล่วงหน้า 200 ล้านออนซ์"
JPost รายงานว่า ตลาดโลหะมีค่าเผชิญความท้าทายหลังโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยราคาทองคำร่วงลง 84.73 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 3.09% ปิดต่ำกว่าแนวรับสำคัญ 2,700 ดอลลาร์ในตลาดล่วงหน้า COMEX ส่วนราคาเงินร่วงหลุดโซนแนวต้าน 32-33 ดอลลาร์ที่เพิ่งทะลุเมื่อ 18 ตุลาคม
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า แม้จะมีการพักฐาน แต่แนวโน้มขาขึ้นในรอบปีที่ผ่านมายังคงแข็งแกร่ง สะท้อนจากราคาทองที่ปรับตัวขึ้นกว่า 50% โดยชี้ว่าไม่มีตลาดกระทิงใดที่ราคาพุ่งขึ้นตรงๆ ตลอดเวลา และคาดการณ์ว่าในระยะยาวทองจะทะลุ 15,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาเงินจะขึ้นไปหลายร้อยดอลลาร์
พบปรากฏการณ์ผิดปกติในตลาดเงิน โดยราคาถูกกดลงอย่างรุนแรงในช่วง 8:30-11:00 น. (เวลาสหรัฐฯ) ถึง 10 วันใน 13 วันทำการหลังสุด ซึ่งทฤษฎีในวงการโลหะมีค่าระบุว่าเกิดจากธนาคารใหญ่ถือสถานะขายล่วงหน้าราว 200 ล้านออนซ์ ทำให้ขาดทุน 200 ล้านดอลลาร์ทุกครั้งที่ราคาขึ้น 1 ดอลลาร์ เชื่อว่าตั้งใจกดราคาเพื่อให้ดอลลาร์สหรัฐและเงินสกุลอื่นดูแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกัน
ด้านราคาเงินในสกุลยูโรปิดต่ำกว่า 30 ยูโร แต่ยังอยู่ในโซนแนวรับสำคัญ 29-30 ยูโร ขณะที่ดัชนี Synthetic Silver Price Index (SSPI) ที่คำนวณจากราคาเฉลี่ยของทองแดงและทองคำ ชี้ว่ามีแนวต้านสำคัญรออยู่ข้างบน หากทะลุได้จะเป็นสัญญาณยืนยันการขึ้นของราคาเงิน
ETF เหมืองเงินอย่าง Global X Silver Miners (SIL) และ Amplify Junior Silver Miners (SILJ) ปรับตัวลงสู่แนวรับที่ 36-38 ดอลลาร์ และ 13-14 ดอลลาร์ตามลำดับ แต่ลดลงน้อยกว่าราคาเงิน สะท้อนความแข็งแกร่งที่ยังมีอยู่
ความผันผวนอาจเพิ่มขึ้นจากปัจจัยสำคัญในสัปดาห์นี้ ทั้งการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) วันพฤหัสบดีที่คาดว่าจะลดดอกเบี้ย และจีนที่อาจประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อสินค้าโภคภัณฑ์รวมถึงโลหะมีค่า ท่ามกลางภาระหนี้มหาศาลของสหรัฐฯ และประเทศเศรษฐกิจหลักที่สะสมมาหลาย10ปี
---
ที่มา JPost
https://www.jpost.com/business-and-innovation/precious-metals/article-828790
