ขอบคุณภาพจาก RT

13.09.2024

Bloomberg ระบุว่า ค่ายรถสัญชาติยุโรปกำลังเผชิญกับการปิดโรงงานมากขึ้น เนื่องจากไม่สามารถปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ท่ามกลางความต้องการที่ชะลอตัวและการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น

จากการวิเคราะห์ข้อมูลของ Just Auto  พบว่า โรงงานผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคลจากค่ายรถชั้นนำ 5 แห่ง  ได้แก่ BMW, Mercedes-Benz, Stellantis, Renault และ VW  มีกำลังการผลิตได้ไม่เต็มที่เกือบหนึ่งในสามเมื่อปีที่แล้ว   ทำให้ค่ายรถยักษ์ใหญ่เหล่านี้ผลิตรถออกมาได้ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของกำลังการผลิตที่ควรจะเป็น

รายงานระบุว่า ยอดขายรถประจำปีในยุโรปอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านคัน ต่ำกว่าระดับก่อนเกิดโรคระบาด ทำให้โรงงานดูเงียบเหงาและหลายพันตำแหน่งงานตกอยู่ในความเสี่ยง การปิดโรงงานจะยิ่งเพิ่มความกังวลว่าภูมิภาคนี้กำลังซบเซายืดเยื้อ หลังไล่ไม่ทันคู่แข่งสำคัญอย่างสหรัฐอเมริกาและจีน

นักวิเคราะห์รถยนต์อิสระใกล้กับเมืองฮัมบูร์กกล่าวกับ Bloomberg ว่า "ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายกำลังแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดที่ก็มีขนาดเล็กลงเช่นกัน " พร้อมเตือนว่า "โรงงานผลิตบางแห่งจะต้องปิดตัวลงอย่างแน่นอน"

ผู้ผลิตรถยนต์ VW ยังประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่ากำลังพิจารณาปิดโรงงานหลายแห่งในเยอรมนีเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เกือบ 90 ปีของบริษัท และกล่าวว่ากำลังประสบปัญหาในการเปลี่ยนผ่านรถจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ด้าน BMW ก็เตือนว่าความต้องการที่ซบเซาในจีนเป็นภัยคุกคามต่อยอดขายและผลกำไรอีกด้วย

ภัยคุกคามจากการปิดโรงงานในยุโรป เลวร้ายลงในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ท่ามกลางราคาพลังงานที่พุ่งสูงและการขาดแคลนแรงงาน ดันให้ต้นทุนค่าแรงดีดขึ้น  และสิ่งนี้ กำลังกระทบต่อเศรษฐกิจในยุโรป  อุตสาหกรรมรถยนต์คิดเป็น 7% ของจีดีพีกลุ่มสหภาพยุโรป และสร้างงานกว่า 13 ล้านตำแหน่ง

By IMCT NEWS

อ้างอิงจาก: https://www.rt.com/business/603865-eu-automakers-jobs-ev/