Thailand
ขอบคุณภาพจาก RT
6/6/2024
แม้ธนาคารกลางสหรัฐจะพยายามยับยั้งกระแสถอยห่างดอลลาร์ แต่หนี้สินสหรัฐที่พอกพูนก็ยิ่งทำให้จุดบกพร่องเห็นเด่นชัด และดอลลาร์สหรัฐก็เสื่อมค่าไปเรื่อยๆ หนี้สินสหรัฐทะลุ 34 ล้านล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1,200 ล้านล้านบาท
หลายคนจึงกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของดอลลาร์สหรัฐในระยะยาว และยิ่งดอลลาร์สหรัฐพยายามทัดทานกระแสโลกหลายขั้วมากเท่าไหร่ ทองคำกับบิทคอยน์ก็ดูจะผงาดขึ้นมากลายเป็นสินทรัพย์ที่ยอดเยี่ยม ล่อใจนักลงทุนให้ซื้อมาเก็บไว้ อีกทั้งผลตอบแทนก็งดงามด้วยในเวลาเดียวกัน
จากการคาดการณ์ของ Hartnett การมาถึงของกองทุน Bitcoin ETFs ทำให้การเงินโลกปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ ปีนี้เรียกได้ว่า เป็นปีที่บิทคอยน์มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ยิ่งทำให้ดอลลาร์สหรัฐเสื่อมหนักขึ้น บิทคอยน์ตอนนี้ เหมือนลงจอดอย่างนิ่มนวล เพื่อทะยานขึ้นอย่างฉับพลัน
ในเวลาเดียวกัน จีนกับรัสเซียก็ผลักดันแนวคิดถอยห่างจากดอลลาร์ ดูเหมือนดอลลาร์สหรัฐถูกทิ้งให้สู้ตามลำพัง ดอลลาร์ถูกตราหน้าว่า เป็นสกุลเงินที่สหรัฐใช้เป็นอาวุธโจมตีประเทศอื่น ประเทศเพื่อนบ้านสหรัฐหลายแห่ง พยายามมองหาทางเลือกอื่น เพื่อถอยห่างจากดอลลาร์ในระยะยาว
จีนจึงเร่งตุนทองคำอย่างหนัก ธนาคารระดับโลกหลายแห่งก็ตุนทองเช่นกัน ราคาทองคำจึงดีดขึ้นทำสถิติใหม่
แต่เมื่อพูดถึงการผงาดขึ้นมาของบิทคอยน์ ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจ Chamath Palihapitiya อดีตผู้บริหารเฟสบุ๊ก ก่อนจะลาออกมาตั้งกองทุนการลงทุนของตัวเองแล้วทำกำไรเติบโตได้อย่างน่าอัศจรรย์ถึง 1,000% ภายใน 10 ปี เขาบอกว่า บิทคอยน์จะกลายเป็นสกุลเงินใหญ่ตัวถัดไปบนโลกใบนี้ และจะกีดกันดอลลาร์สหรัฐออกไปในระยะยาว เขาบอกว่า บิทคอยน์อาจมีมูลค่า 500,000 ดอลลาร์ หรือมากกว่านั้น ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เพราะแต่ละประเทศน่าจะตัดสินใจซื้อเก็บแทนที่ทองคำ และมีแนวโน้มว่า บิทคอยน์จะเข้ามาแทนที่ทองคำอย่างสมบูรณ์
เขายังอ้างว่า โลกเข้าใกล้สภาวะที่มีสกุลเงินแค่สองระบบเข้าไปทุกที โดยระบบแรกจะถูกนำไปใช้ซื้อขายสิ่งต่างๆ และอีกระบบจะเป็นการซื้อสินทรัพย์บางอย่างเก็บไว้เพื่อสู้กับเงินเฟ้อ ตอนนี้ มีหลายประเทศมากขึ้น ที่จะใช้สองสกุลเงินควบคู่กัน โดยสกุลเงินแรกคือสกุลเงินท้องถิ่นที่จะนำไปซื้อขายสิ่งต่างๆ และสกุลที่สองคือ บิทคอยน์ จะกลายเป็นสองสกุลเงินที่จำเป็นสำหรับประเทศต่างๆ ในอนาคต
By IMCT News
https://watcher.guru/news/gold-bitcoin-dual-currency-contenders-to-bring-down-the-us-dollar
© Copyright 2020, All Rights Reserved