8/9/2024

ความต้องการโลหะเงินยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากเทคโนโลยีต่างๆ เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และปัญญาประดิษฐ์

ในปี 2023 เพียงปีเดียว ตลาดโลหะเงินประสบปัญหาการขาดแคลนอุปทานถึง 15% นอกจากนี้ ตลาดยังคาดว่าจะมีการขาดดุลสะสม 1,093.4 ล้านออนซ์ตั้งแต่ปี 2020 ถึง 2024

ตามรายงานของ Sprott โลหะเงินเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเทคโนโลยีใหม่ๆ โลหะเงินเป็นรองเพียงน้ำมันเท่านั้นในฐานะสินค้าโภคภัณฑ์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุด โดยมีการใช้งานทั่วโลกมากกว่า 10,000 รายการ

โลหะเงินเป็นส่วนประกอบสำคัญในเซลล์แสงอาทิตย์ที่ใช้ในพลังงานแสงอาทิตย์ แผงโซลาร์เซลล์โดยเฉลี่ยต้องการเงิน 20 กรัม

รถยนต์ไฟฟ้ายังใช้เงินระหว่าง 25 ถึง 50 กรัม

นอกจากนี้ โลหะยังมีความจำเป็นสำหรับเซมิคอนดักเตอร์ ระบบควบคุม เซ็นเซอร์ และเทคโนโลยี LIDAR ที่ช่วยในการขนส่งผ่านปัญญาประดิษฐ์ เงินยังมีความสำคัญต่อระบบ AI ในด้านการดูแลสุขภาพ โดยผ่านอนุภาคนาโนเงินที่นำไฟฟ้าได้ในแผ่นแปะผิวหนังแบบสวมใส่ได้

โทรศัพท์มือถือทั่วไปมีเงินอยู่ 0.34 กรัม

แม้ว่าเงินจะมีความสำคัญ แต่คุณภาพแร่ที่ลดลงและปริมาณสำรองที่เหมืองที่มีอยู่ก็ลดลง ทำให้ผลผลิตโลหะลดลง

อุตสาหกรรมนี้ยังประสบปัญหาการขาดการลงทุนในเหมืองเงินขั้นต้น ปัจจุบัน เงินมากกว่า 70% ถูกขุดเป็นผลพลอยได้จากทองคำ ทองแดง และโลหะอื่นๆ

การผลิตยังกระจุกตัวอยู่ในสามประเทศ ได้แก่ เม็กซิโก เปรู และจีน ซึ่งคิดเป็นครึ่งหนึ่งของการผลิตเงินทั่วโลก

หากสถานการณ์ปัจจุบันยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป จำเป็นต้องมีเหมืองใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น

IMCT News

ที่มา https://www.visualcapitalist.com/sp/silver-the-unsung-hero-of-the-new-economy/