ขอบคุณภาพจาก Xinhua
25/6/2024
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นตัวเลือกเบอร์ต้นของบริษัทต่างๆ ที่จะกระจายแหล่งผลิตออกห่างจากประเทศจีน รวมถึงบริษัทของจีน ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับจีน
นักวิเคราะห์มองว่า ปัจจัยความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์เป็นตัวเร่งให้เป็นเช่นนี้ โดยเริ่มมาตั้งแต่ในช่วงล็อกดาวน์โควิด และนับจากนั้น ก็มีการลงทุนหลั่งไหลเข้ามาในอาเซียน เป็นการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติเข้ามาในอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย สิงคโปร์ และเวียดนาม พุ่งขึ้นเป็น 236,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 8.7 ล้านล้านบาท ในปี 2023 ทั้งที่เดิมที ตัวเลขนี้จะอยู่ที่ประมาณ 190,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 7 ล้านล้านบาท ระหว่างปี 2020 ถึง 2022 จากการเปิดเผยของนักเศรษฐศาสตร์ประจำ OCBC ในรายงานเมื่อเดือนพฤษภาคม
ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนจากสหรัฐ ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป รวมถึงจีนแผ่นดินใหญ่ และฮ่องกง เช่นเวียดนาม ที่กลายเป็นแหล่งผลิตสำคัญของแอปเปิ้ล เพราะต้องการกระจายแหล่งผลิตออกห่างจากจีน หลังจีนผุดมาตรการรับมือโควิดเข้มงวด และการก่อความไม่สงบของคนงานที่โรงงานผลิต iPhone ของ Foxconn MacBook iPad และ Apple Watch ล้วนผลิตในเวียดนามขณะนี้
เวียดนามยังเป็นศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนาของซัมซุง และเป็นฐานการผลิตและส่งออกมือถือของซัมซุงด้วย เพราะได้เปรียบเรื่องค่าแรง ช่องทางเข้าถึงตลาด และการทำข้อตกลงการค้าเสรีต่างๆ ช่วยให้ส่งออกไปยังตลาดต่างๆ ง่าย เช่น สหภาพยุโรป
ส่วนมาเลเซีย เป็นที่รองรับการขยายปฏิบัติการของบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ เช่น Intel GlobalFoundries และ Infineon ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน เนื่องจากมาเลเซียได้เปรียบเรื่องแรงงานมีทักษะในการบรรจุ ประกอบ และทดสอบชิป โดยมีต้นทุนการปฏิบัติการที่ถูกกว่า นอกจากนี้ ธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ ชิ้นส่วนรถไฟฟ้า ก็เข้าไปลงทุนในมาเลเซียเช่นกัน
มาที่อินโดนีเซีย เนื่องจากเต็มไปด้วยทองแดง นิกเกิล โคบอลต์ และบอกไซต์ ซึ่งเป็นสินแร่ที่จำเป็นสำหรับการผลิตแบตเตอรี่รถไฟฟ้า อินโดนีเซียจึงหวังจะผุดขึ้นมาเป็นศูนย์ประกอบรถไฟฟ้า แม้อาจจะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นมากๆ แต่ก็หาช่องทางยกระดับการผลิต
รัฐบาลอินโดนีเซียยังดึงดูดบริษัทรถไฟฟ้าด้วยมาตรการจูงใจต่างๆ ให้มาตั้งฐานการผลิตที่นี่ กระทรวงอุตสาหกรรมอินโดนีเซียได้ทำข้อตกลงกับบริษัทจีนสี่แห่ง เมื่อช่วงต้นเดือนนี้ ( มิถุนายน ) คือ Neta Wuling Chery และ Sokon ให้มาจัดตั้งศูนย์ผลิตรถไฟฟ้าในอินโดนีเซีย ค่ายรถไฟฟ้า BYD ของจีน มีแผนจะเริ่มผลิตรถไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในอินโดนีเซีย ปี 2026
ปิดท้ายที่สิงคโปร์ ถือเป็นจุดหมายที่โดดเด่นกว่าใคร สำหรับบริษัทที่หาช่องทางจะจัดตั้งสำนักงานใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อขยายกิจการไปทั่วภูมิภาคนี้ แถบเอเชียแปซิฟิก ไม่ใช่เป็นแค่ภูมิภาคที่ต้อนรับบริษัทระดับโลกอย่าง แอปเปิ้ล เท่านั้น แต่ยังเปิดรับผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพที่ต้องการสร้างธุรกิจระดับโลกโดยเริ่มจากภูมิภาคนี้
และสิงคโปร์ก็เป็นจุดหมายปลายทางที่ผู้ประกอบการมักเลือกมาตั้งสำนักงานใหญ่ และยังสามารถระดมทุนจากสหรัฐและจ้างวิศวกรในจีนได้ด้วย บริษัทของจีน เช่น TikTok และ Shein เข้ามาจัดตั้งสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคในสิงคโปร์ เพราะมีความมั่นคง ท่ามกลางภูมิรัฐศาสตร์ที่ผันผวน สิงคโปร์ยังไว้ใจได้ในเรื่องการเงินและกฎระเบียบโครงสร้างพื้นฐาน
By IMCT News