ขอบคุณภาพจาก : สำนักข่าวซินหัว

20/3/2024

โดนัลด์ ทรัมป์ ย้ำว่าเขาจะกดดันรัสเซียและยูเครนให้บรรลุข้อตกลงสันติภาพ หากเขากลับมายังทำเนียบขาว

ในการให้สัมภาษณ์ในรายการทอล์คโชว์ 'America First with Sebastian Gorka' ที่ออกอากาศเมื่อวันจันทร์ ทรัมป์กล่าวว่าการเจรจาเป็นวิธีเดียวที่จะ "หยุดการนองเลือดในยุโรป"

“เราต้องทำให้ทั้งสองคน [ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน และประธานาธิบดียูเครน วลาดิมีร์ เซเลนสกี] เข้าด้วยกัน และผมจะพูดว่า 'คุณต้องทำให้สิ่งนี้สำเร็จ คุณจะต้องทำมันให้สำเร็จ…' ผมจะให้พวกเขาเข้ากันได้และ ทำข้อตกลงแล้วผมจะทำให้มันจบ” ทรัมป์กล่าว พร้อมเสริมว่าเขารู้จักผู้นำทั้งสองเป็นอย่างดี และรู้แน่ชัดว่าควรบอกอะไรพวกเขาเพื่อให้แน่ใจว่ามีการลงนามข้อตกลงสันติภาพ

ทรัมป์เปรียบเทียบความขัดแย้งกับ “การแข่งขันหมากรุกหรือเกมโป๊กเกอร์” ซึ่งเขารู้วิธีเล่น เขากล่าวหาว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน คนปัจจุบันล้มเหลวในการหยุดความขัดแย้งตั้งแต่แรก โดยกล่าวว่าไบเดน “ไม่ใช่นักเล่นหมากรุกมากนัก” และมันเป็นเรื่องไม่ถูกต้องที่จะกล่าวโทษปูตินทั้งหมดสำหรับความขัดแย้ง

“สงครามไม่ควรเริ่มต้นเลย… ผมได้หารือเรื่องยูเครนกับปูติน… ยูเครนเป็นแก้วตาของเขา เขาคงจะไม่มีวันทำแบบนั้น [เริ่มความขัดแย้ง] ตอนที่ผม [อยู่ในตำแหน่ง]” เขากล่าว

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทรัมป์เรียกร้องให้มีการเจรจาสันติภาพเพื่อยุติความขัดแย้งในยูเครน ในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว เขาบอกกับ Kaitlan Collins ของ CNN ว่าหากเขากลับคืนสู่อำนาจ เขาจะยุติสงครามได้ภายในวันเดียว เมื่อถูกถามว่าอย่างไร ทรัมป์กล่าวว่าทั้งเซเลนสกีและปูติน “มีจุดอ่อนและทั้งสองมีจุดแข็ง” ซึ่งเขาสามารถใช้เพื่อยุติความขัดแย้ง

เซเลนสกีตอบโต้ในเวลานั้นว่าความคิดเห็นของทรัมป์เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ “ข้อความทางการเมือง” ของเขา

มอสโกกล่าวว่าเปิดกว้างให้มีการเจรจาสันติภาพได้ แต่ทั้งเคียฟและผู้สนับสนุนชาวตะวันตกยืนยันว่าการเจรจาสามารถดำเนินการได้ภายใต้เงื่อนไขของเซเลนสกีเท่านั้น ซึ่งรวมถึงการถอนกองกำลังรัสเซียออกจากยูเครน การคืนดินแดนในอดีตของยูเครนทั้งหมด และการพิจารณาคดีระหว่างประเทศเพื่อเป็นผู้นำของรัสเซีย มอสโกถือว่าข้อเรียกร้องเหล่านี้ไม่สมจริง

สวิตเซอร์แลนด์เพิ่งเสนอให้เป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดสันติภาพในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการกำหนดวันที่เจาะจง และเซเลนสกีระบุว่ารัสเซียจะไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมโต๊ะเจรจา

IMCT News

อ้างอิง : RT