.
36 0C
Thailand
Thailand
ขอบคุณภาพจาก RT
27/8/2024
เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ดูจะเป็นเดือนที่เห็นความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลกฟื้นตัว รวมถึงภาคการส่งออก ช่วยประคองชีวิตบรรดาโรงงานให้อยู่รอดต่อไป สถานการณ์ดูเงียบสงบ ก่อนที่จะเกิดความโกลาหลจากมาตรการขึ้นภาษีที่ประกาศในเดือนสิงหาคม
จากการสอดส่องทางการค้าของบลูมเบิร์ก พบว่า ยักษ์ใหญ่ในด้านการส่งออกของเอเชีย เช่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และไต้หวัน ยังคงเดินหน้าด้วยดี เนื่องจากความต้องการชิปและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่เข้ามามาก ท่าเรือหลักๆของโลก จึงยังคงพลุกพล่าน ทั้งที่ต้นทุนค่าขนส่งได้พุ่งขึ้นแล้ว และการเดินเรือแถบทะเลแดงยังไม่ราบรื่น
การค้าโลกยังไปได้เรื่อยๆ ในปีนี้ ( 2024 ) แต่ก็จะถูกเขย่าอย่างต่อเนื่อง จากผลกระทบของเงินเฟ้อและต้นทุนการกู้ยืมที่พุ่งสูง รวมถึงเศรษฐกิจแถบยุโรปที่ซบเซา แต่การฟื้นตัวของการค้าโลกในขณะนี้ อาจเป็นได้แค่ช่วงสั้นๆ เพราะเศรษฐกิจในหลายพื้นที่กำลังเดือดหนักขึ้น จากสงครามการค้า และภาษีที่กลายเป็นประเด็นร้อนในช่วงที่การเลือกตั้งสหรัฐใกล้เข้ามา
การค้าในปัจจุบัน บางหมวดกระเตื้องขึ้นมาบ้างแล้ว เพราะการนำเข้าสินค้าอย่างบ้าคลั่ง ก่อนมาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐ เริ่มส่งผลในวันที่ 1 สิงหาคม กับสินค้าที่มาจากจีน พวกรถไฟฟ้า , แบตเตอรี่ , แผงโซลาร์ และเวชภัณฑ์
สหภาพยุโรปก็ทำในแบบเดียวกัน คือขึ้นภาษีชั่วคราวกับสินค้านำเข้าจากจีน ในขณะที่จีนก็เตือนว่า จะโต้กลับด้วยการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าทางการเกษตร เครื่องบิน และรถจากยุโรป แม้กระทั่งเม็กซิโก ก็ยังไม่รอดพ้นจากการตรวจสอบของสหรัฐ โดยจะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าพวกเหล็กและอลูมินัม ที่ไม่ได้หลอมและขึ้นรูปในเม็กซิโก เพื่อป้องกันจีนส่งสินค้ามาทางเม็กซิโก หวังเลี่ยงภาษี
อุปสรรคทางการค้าโลกมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะโดนัลด์ ทรัมป์ ผุดแนวคิด เก็บภาษีสินค้าจีน 60% และเก็บภาษีสินค้าจากประเทศอื่น 10% ถ้าเขาได้กลับมาเป็นผู้นำสหรัฐอีกครั้ง เครือข่ายภาษีที่ซับซ้อนเพิ่มขึ้นนี้ บีบให้เทสล่าและค่ายรถวอลโว่ ต้องทบทวนการผลิต
นักเศรษฐศาสตร์ของบลูมเบิร์ก มองว่า ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐกับจีน ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ในช่วงที่ทรัมป์ได้ขึ้นมาเป็นผู้นำสหรัฐสมัยแรก และถ้าเขาคว้าชัยเป็นสมัยที่สอง ก็มีแผนจะสะบั้นความสัมพันธ์ทางการค้ากับจีนอย่างสิ้นเชิง การเก็บภาษีสินค้าจีน 60% จะทำให้มูลค่าการค้าหายไปทันที 575,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 19 ล้านล้านบาท
By IMCT News
