2/5/2024

ธนาคารกลางสหรัฐในวันพุธ(2 พฤษภาคม)ยังคงยืนหยัดเรื่องอัตราดอกเบี้ย โดยตัดสินใจที่จะไม่ลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากอ้างว่ายังคงต้องต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นในช่วงนี้

ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะสั้นที่ระดับ 5.25%-5.50% โดยไม่เปลี่ยนแปลง เฟดไม่ได้เปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2023 ซึ่งเป็นช่วงที่เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายและขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่าสองทศวรรษ

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการนโยบายการเงิน Federal Open Market Committee ได้ลงมติให้มีการลดอัตราการทำ QT ซึ่งเป็นการดึงเงินออกจากระบบควบคู่ไปกับการขึ้นดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมา การลดการทำ QT ถือได้ว่าเป็นการผ่อนคลายนโยบายการเงินที่เพิ่มขึ้น

จากการตัดสินใจที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ คณะกรรมการในแถลงการณ์หลังการประชุมระบุว่า ยังคง"ขาดความคืบหน้าเพิ่มเติม" ในการลดอัตราเงินเฟ้อกลับไปสู่เป้าหมาย 2%

“คณะกรรมการไม่คาดว่ามันเป็นการเหมาะสมที่จะลดระดับดอกเบี้ยจนกว่าจะได้รับความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังเคลื่อนตัวอย่างยั่งยืนไปที่ 2 เปอร์เซ็นต์” แถลงการณ์ประธานเจอโรม พาวเวลล์ กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวภายหลังการตัดสินคงดอกเบี้ยโดยไม่เปลี่ยนแปลงว่า เงินเฟ้อยังคงเพิ่มขึ้นเร็วเกินไป

“เงินเฟ้อยังสูงเกินไป” เขากล่าว “ความคืบหน้าเพิ่มเติมในการทำให้เงินเฟ้อลงมานั้นไม่แน่นอน และเส้นทางข้างหน้าก็ไม่แน่นอน”

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนพอใจกับความเห็นของพาวเวลล์ว่าการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของเฟด “ไม่น่าจะ” จะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

หุ้นดาวโจนส์พุ่งขึ้นหลังคำพูดดังกล่าว และเพิ่มขึ้นมากถึง 500 จุด นอกจากนี้พาวเวลล์ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่คณะกรรมการจะต้องตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ย “ประชุมต่อการประชุม”

ในงบดุล คณะกรรมการกล่าวว่าตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป คณะกรรมการจะชะลอการอนุญาตให้พันธบัตรที่ครบกำหนดไถ่ถอนออกไปโดยไม่ต้องนำเงินไปลงทุนใหม่ ในโครงการที่เริ่มต้นในเดือนมิถุนายน 2022 และมีชื่อเรียกว่า “การกระชับเชิงปริมาณ” หรือ Quantitative Tightening เฟดได้ปล่อยให้เม็ดเงินสูงถึง 95 พันล้านดอลลาร์ต่อเดือนที่ครบกำหนดไถ่ถอน ไม่ว่าจะเป็นพันธบัตรรัฐบาล และ Mortgaged Backed Securities ออกจากระบบ

กระบวนการดังกล่าวส่งผลให้งบดุลของธนาคารกลางลดลงเหลือประมาณ 7.4 ล้านล้านดอลลาร์ หรือน้อยกว่าระดับสูงสุดในช่วงกลางปี ​​2565 ที่ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์

โดยภาพรวมเฟดจะดึงเงินออกจากระบบผ่าน QT $300พันล้านต่อปี เทียบกับ $720ต่อปีเมื่อโปรแกรมนี้เริ่มในเดือนมิถุนายนปี 2022

IMCT News

ที่มา CNBC