Thailand
ขอบคุณภาพจาก RT
7/8/2024
ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในสหรัฐดิ่งลงอย่างหนักในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็คือ ข้อสงสัยที่ผุดขึ้นมาในกลุ่มนักลงทุนว่า เทคโนโลยี AI จะสร้างผลกำไรให้ผู้ประกอบการได้จริงหรือไม่ ? แล้วจะเริ่มทำเงินได้เมื่อใด ?
ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา นับจาก ChatGPT เปิดตัว บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่หลายแห่งต่างมองว่า AI จะเข้ามาปฏิวัติในทุกอุตสาหกรรม พวกเขาจึงใช้ประเด็นนี้เป็นข้ออ้างในการทุ่มทุนหลายหมื่นล้านดอลลาร์ไปกับศูนย์ข้อมูลและเซมิคอนดักเตอร์ เพื่อใช้รันโมเดล AI
ฟังดูเหมือนเป็นวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกล แต่ผลิตภัณฑ์ AI ที่พวกเขาเปิดตัวมา ยังดูไม่เป็นเนื้อเป็นหนังอะไร อย่างแชทบ็อท ก็ยังไม่ชัดเจนเรื่องการสร้างรายได้ หรือระบบค้นหาด้วย AI หลายครั้งก็ให้ข้อมูลผิดพลาดออกมา
จนถึงบัดนี้ เงินลงทุนมหาศาลที่ใช้จ่ายไป เทียบกับรายได้หรือผลกำไรที่ได้จาก AI ยังดูเป็นสิ่งที่สวนทางกันอยู่ และมันก็ทำให้บรรดานักลงทุนเริ่มจะหงุดหงิด
อเมซอน มีผลประกอบการไม่น่าประทับใจ แม้จะลงทุนไปกับ AI มหาศาล ฉุดให้หุ้นร่วงเกือบ 9% เมื่อวันศุกร์ หุ้นอินเทลก็ร่วง 25% เมื่อวันศุกร์ หลังบริษัทระบุว่า ทุ่มงบไปกับ AI เยอะมาก และตอนนี้ ต้องตัดลดค่าใช้จ่ายและปลดพนักงานออกหลายหมื่น
นักวิเคราะห์จำนวนมาก เริ่มเห็นไปในทางเดียวกันว่า AI เป็นเรื่องที่ต้องลงทุนมหาศาล แต่ผลที่ได้กลับมายังเล็กน้อย
หุ้นของกูเกิ้ลและไมโครซอฟท์ ก็ดิ่งลงเช่นกัน หลังมีรายงานผลประกอบการ สะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนไม่พอใจที่พวกเขาทุ่มงบไปกับ AI มหาศาล แต่ผลที่ได้น้อยกว่าที่คาด นักวิเคราะห์บางคนมองว่า ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีเริ่มส่งสัญญาณถอยกลับจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI เพราะไม่ได้สร้างผลตอบแทนอย่างที่หวังไว้
แต่ในทางกลับกัน กูเกิล ไมโครซอฟท์ และเมตา ส่งสัญญาณว่า พวกเขามีแผนจะทุ่มงบมากขึ้นอีก เพื่อวางรากฐานให้ AI ในอนาคต แค่ขอเวลาให้พวกเขาบ้างเท่านั้นเอง
ซีอีโอไมโครซอฟท์ มองว่า การลงทุนสร้างศูนย์ข้อมูล คาดว่า จะทำให้เทคโนโลยี AI สร้างรายได้ ในช่วง 15 ปีข้างหน้า หรือนานกว่านี้
ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของเมตา มองว่า การพัฒนา generative AI ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้นมากๆ และทางเมตาไม่คิดว่า จะสร้างรายได้แน่นอนในปีนี้ แต่มองว่า อาจต้องใช้เวลา กว่าจะสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ
แต่สิ่งนี้ กลับสร้างความอึดอัดให้บรรดานักลงทุนจำนวนมาก ที่คุ้นเคยกับยอดขายซึ่งต้องปรากฎให้เห็นแล้ว ในรายไตรมาส และการเติบโตของผลกำไรจากบริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้ พวกเขามองว่า ถ้าลงทุนไปแล้วต้องใช้เวลา 10 – 15 ปี กว่าจะสร้างรายได้ มันไม่ใช่แนวทางของบริษัทมหาชน นักวิเคราะห์มองว่า ตอนนี้ หลายบริษัทอาจทุ่มงบแข่งกันเพื่อจะเป็นเจ้าแห่ง AI แต่ถ้าถึงจุดหนึ่งที่นักลงทุนรู้สึกว่า มันไม่ตอบโจทย์ในเรื่องรายได้ บางที อาจเป็นไตรมาสหน้า ที่นักลงทุนไม่ต้องการที่จะลงเงินไปกับบริษัทอีกแล้ว การลงทุนในบริษัทที่เร่งพัฒนา AI จึงไม่ใช่สิ่งที่ยั่งยืนอะไร
By IMCT News
อ้างอิงจาก https://edition.cnn.com/2024/08/02/tech/wall-street-asks-big-tech-will-ai-ever-make-money/index.html
© Copyright 2020, All Rights Reserved