Thailand
ขอบคุณภาพจาก Wikipedia
14.07.2024
เจมี ไดมอน CEO ของ เจพีมอร์แกน เชส ออกมาเตือนอีกครั้งเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อ แม้ว่าจะมีสัญญาณเมื่อไม่นานมานี้ว่า แรงกดดันด้านราคาเริ่มลดลง
เขากล่าวในแถลงการณ์ร่วมกับผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของธนาคารว่า แม้จะมีความคืบหน้าในการลดเงินเฟ้อลงบ้าง แต่ยังมีแรงขับเคลื่อนเงินเฟ้ออีกหลายปัจจัยที่อยู่เบื้องหน้าเรา เช่น การขาดดุลงบประมาณขนาดใหญ่ ความจำเป็นในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การปรับโครงสร้างการค้า และการเสริมสร้างแสนยานุภาพทางทหารของโลก ดังนั้น เงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยอาจอยู่ที่ระดับสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
ความเห็นของไดมอนเกิดขึ้นหลังจากข้อมูลประจำสัปดาห์นี้แสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อประจำเดือนมิถุนายนลดลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี ยิ่งตอกย้ำกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเร็วๆ นี้
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเป็นวงกว้าง ถึงต้นทุนสินค้าและบริการทั่วทั้งเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ลดลง 0.1% ในเดือนมิถุนายน เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อ 12 เดือนอยู่ที่ 3% ซึ่งถือเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบกว่า 3 ปี
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เจอโรม พาวเวลล์ ประธานของเฟด เคยแสดงความกังวลว่า การตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงเป็นเวลานานเกินไป อาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยเขาใบ้ว่า การลดอัตราดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต ตราบใดที่เงินเฟ้อยังคงมีแนวโน้มที่ดีขึ้น
ไดมอนได้เข้าร่วมกับบรรดานักเศรษฐศาสตร์หลายคนเตือนถึงปัญหาหนี้สินและการขาดดุลที่พุ่งสูงของสหรัฐฯ โดยรัฐบาลกลางสหรัฐใช้งบไปแล้ว 8.5 แสนล้านดอลลาร์ (30 ล้านล้านบาท) มากกว่างบที่ได้มาในปีงบประมาณ 2024 ส่วนในปีงบประมาณ 2023 การใช้จ่ายของรัฐบาลขาดดุลอยู่ที่ 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ (6,145 ล้านล้านบาท)
By IMCT NEWS
© Copyright 2020, All Rights Reserved