ขอบคุณภาพจาก RT
8/10/2024
ประชากรจีนถือเป็นอาวุธลับอย่างหนึ่ง และนี่คือสาเหตุว่า เศรษฐกิจจีนอาจขยายตัว จนทิ้งสหรัฐไว้ข้างหลังในไม่ช้า ด้วยจำนวนประชากรถึง 1,400 ล้านคน จีนกลายเป็นผู้บริโภครายใหญ่ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างที่สหรัฐไม่สามารถเทียบเคียงได้
ในขณะที่สหรัฐยังคงจัดการหนี้และถูกแรงกดดันทางเศรษฐกิจ ในฟากของรัฐบาลจีนก็กำลังทำให้ตลาดมีเสถียรภาพ หวังให้ความเป็นมหาอำนาจกลับคืนมา เมื่อไม่นานมานี้ ตลาดหุ้นจีนซื้อขายคึกคักถึงขีดสุด แค่วันเดียวก็สามารถชดเชยมูลค่าความเสียหายของตลาดหุ้นตลอดทั้งปีได้เลย
โดยเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว ( 30 กย. 2024 ) ดัชนี CSI 300 พุ่งขึ้น 8.5% เป็นการพุ่งขึ้นสูงสุดภายในวันเดียวนับจากปี 2008 ขณะที่ตลาดเงินตลาดทุนของจีนส่วนใหญ่ยังปิดทำการ เนื่องจากเทศกาลหยุดยาว Golden Week ฉลองให้กับวาระครบรอบ 75 ปีของสาธารณรัฐประชาชนจีน
บรรดานักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เริ่มจะหันมาที่จีนอีกครั้ง หลังจากหายหน้าหายตากันไปหลายปี เป็นผลมาจากกฎระเบียบที่ออกมาเพื่อกวาดล้างบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่
แม้ตลาดเงินตลาดทุนจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง แต่นักลงทุนต่างชาติยังคงระมัดระวัง เพราะเมื่อเดือนสิงหาคม กำไรจากภาคอุตสาหกรรมของบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ในจีน ร่วงลง 17.8% เป็นการร่วงลงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน เป็นสัญญาณของเศรษฐกิจชะลอตัวต่อเนื่อง ดัชนีราคาผู้ผลิตร่วงเช่นกัน นับจากปี 2022 เพราะความวิตกปัญหาเงินฝืด ทั้งหมดนี้เห็นได้จากตลาดหุ้น ซึ่ง ดัชนี CSI 300 ของจีน มีพีอีอยู่ที่ประมาณ 12 เท่า ถือว่า ยังถูกมากเมื่อเทียบกับคู่แข่งรายอื่นในโลก
เมื่อช่วงต้นปีนี้ ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี แม้จะมีมูลค่าต่ำขนาดนี้แล้ว นักลงทุนก็ยังพากันถอยห่าง ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นจีนร่วงถึง 45% ถือว่า โหดร้ายมาก แต่การฟื้นตัวเริ่มมีเข้ามาแล้วแบบไม่มากนัก หลังผ่านการร่วงหล่นขนานใหญ่
ความท้าทายยิ่งใหญ่สุด ที่จะฟื้นความเชื่อมั่นตลาดหุ้นจีนให้กลับมาได้ ก็คือ ต้องฟื้นความต้องการภายในประเทศให้กลับมาก่อน ซึ่งคิดเป็นกว่าครึ่งหนึ่งของจีดีพีประเทศ และดูเหมือนว่า ท้ายสุด จีนเริ่มตระหนักแล้วว่า ตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ไม่ดีทั้งหลาย ทำให้การเติบโตพลาดเป้า
รัฐบาลจีนจึงผุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นระลอก ซึ่งก็รวมถึงกองทุนซื้อหุ้น คิดเป็นมูลค่า 114,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 3.7 ล้านล้านบาท และลดดอกเบี้ยนโยบายลง แต่ถ้าพิจารณาจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจีนร่วมด้วย ก็ยังมีโอกาสที่จะเห็นตัวเลขทางเศรษฐกิจดำดิ่งถึงขีดสุด เพียงแต่ว่า ยังไม่ได้เกิดในช่วงนี้ นักวิเคราะห์จึงคาดว่า รัฐบาลจีนจะมีมาตรการหนุนเศรษฐกิจเข็นออกมาอีกในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า
แม้ความพยายามนี้อาจยังไม่มากพอที่จะดึงนักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามา แต่ก็น่าจะช่วยดันตลาดหุ้นให้คึกคักได้ เพราะจีนมีนักลงทุนรายย่อยถึง 200 ล้านคน ดันมูลค่าการซื้อขายในประเทศได้ถึง 80%
ธนาคารกลางจีนและผู้เล่นสำคัญรายอื่น เปิดนโยบายมากมายเพียงเพื่อจะให้ทุกอย่างฟื้นคืนกลับมา มีการลดดอกเบี้ย และธนาคารก็ถูกกดดันน้อยลงเรื่องการถือครองเงินสำรอง ซึ่งทางการจีนก็ให้คำมั่นว่า มาตรการสนับสนุนทางการเงินที่อัดฉีดโดยตรง อาจช่วยฟื้นตลาดหุ้นได้ แม้จะติดปัญหาตรงที่มาตรการเหล่านี้ยังขาดรายละเอียด
แม้จะไม่มีใครคาดหวังว่า การลดดอกเบี้ยเพียงเล็กน้อย จะช่วยแก้ปัญหาอสังหาริมทรัพย์ในจีนได้ แต่บรรดาผู้ซื้อขายในตลาดก็ดูเหมือนไม่สนใจ เพราะภายในช่วงระยะเวลาไม่ถึงสัปดาห์ ดัชนี CSI 300 ก็พุ่งทะยานกว่า 20% ดัชนีหั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงก็ดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ พุ่งขึ้น 30% ในปีนี้ เทียบกับดัชนี S&P 500 ของสหรัฐ ซึ่งพุ่งขึ้นแค่ 19%
ก่อนที่จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ บรรดานักลงทุนต่างขีดฆ่าตลาดหุ้นจีนไปแล้ว เมื่อไม่นานมานี้ Bank of America ยังสำรวจพบว่า บรรดาผู้จัดการกองทุนต่างมองตลาดหุ้นจีนในแง่ร้ายมากสุดเท่าที่เคยมีมา
ส่วนประเทศสหรัฐในตอนนี้ กำลังเผชิญวิกฤติหนี้ อีลอน มัสก์ ถึงกับเตือนว่า สหรัฐกำลังเข้าสู่ภาวะผิดนัดชำระหนี้อย่างรวดเร็วที่สุด ดอกเบี้ยหนี้ก้อนนี้ ยังมีมูลค่ามากกว่างบกลาโหมแล้วในขณะนี้ อีลอน มัสก์ เปรียบสหรัฐเหมือนกับคนที่ใช้บัตรเครดิต แต่ไม่มีเงินจ่ายคืน ซึ่งถ้าภาครัฐยังไม่ตัดการจับจ่ายลง สหรัฐจะล้มละลาย ยอดหนี้ของสหรัฐจะพุ่งแตะ 122.3% ของจีดีพีประเทศ ก่อนสิ้นปีนี้ เท่ากับว่า หนี้สาธารณะมีขนาดแซงหน้าเศรษฐกิจประเทศไปแล้ว
ครั้งสุดท้ายที่สหรัฐมีงบเกินดุล ก็คือปี 2001 จากนั้น ทุกสิ่งเริ่มแย่ลง ในช่วงที่โดนัลด์ ทรัมป์เป็นประธานาธิบดี หนี้สาธารณะพุ่งขึ้นเกือบ 8 ล้านล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 264 ล้านล้านบาท แล้วยอดหนี้ค่อยๆชะลอตัวในยุคไบเดน โดยคาดว่า หนี้จะมีเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ก่อนสิ้นปีนี้ หรือประมาณ 63 ล้านล้านบาท และถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง อัตราส่วนหนี้ต่อจีดีพีของสหรัฐ อาจอยู่ที่ 166% ในอีก 30 ปีข้างหน้า เป็นเหมือนระเบิดเวลาทางเศรษฐกิจ
By IMCT News
อ้างอิงจาก https://www.cryptopolitan.com/chinas-economy-will-outperform-america/