อังกฤษกับปฐมบทของสงครามโลกครั้งที่ 3
36 0C
Thailand
Thailand
28/5/2024
ริซี ซูนัค นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้ประกาศยุบสภาให้มีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 4กรกฎาคมที่จะถึงนี้ในขณะที่อังกฤษเตรียมตัวเข้าสู่ภาวะสงคราม การที่จะมีนายกรัฐมนตรีเชื้อสายอินเดียเป็นผู้นำในภาวะสงครามคงจะไม่เหมาะในขณะที่ความนิยมในพรรคอนุรักษ์นิยมกำลังเสื่อมลง ทำให้ผู้นำของพรรคแรงงาน Keir Starmerมีโอกาสสูงที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของอังกฤษ ในขณะเดียวกันเดวิด คาเมรอน รัฐมนตรีต่างประเทศคนปัจจุบัน และอดีตนายกรัฐมนตรีของอังกฤษก็อาจจะกลับมาเป็นผู้นำได้ถ้าหากสถานการณ์พลิกผัน
แต่ผู้ที่รับบทโหมโรงของสงครามโลกครั้งที่ 3คือ บอริส จอห์นสัน อดีตนายกรัฐมนตรีของอังกฤษที่ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการโอนอาวุธเพิ่มเติมไปยังเคียฟ พร้อมทั้งอนุญาตให้โจมตีดินแดนของสหพันธรัฐรัสเซีย จอห์นสันกำลังดำเนินการตามแผนที่จะเริ่มต้นสงครามโลกครั้งที่ 3ที่อังกฤษวางเอาไว้ตั้งแต่ต้น สงครามโลกครั้งที่ 1 และ2มีต้นเหตุมาจากอังกฤษที่วางแผนการทั้งหมดเพื่อรักษาอำนาจของจักรวรรดิที่เสื่อมลง และทำลายคู่แข่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งเยอรมนีกับรัสเซีย
มีวิดีโอแพร่ภาพบนอินเทอร์เน็ตของจอห์นสันพูดเรื่องนี้ในการต้อนรับแขกชาวยูเครน รวมถึงกลุ่มติดอาวุธของ 'กองพันชาตินิยม' ของ Azovในวันที่ 22พฤษภาคมที่ผ่านมาในกรุงลอนดอน พวกอาซอฟเป็นพวกนีโอนาซี จอห์นสันโพสต์ท่าถ่ายรูปกับทหารอาซอฟพร้อมถือแบนเนอร์ที่มีสัญลักษณ์ของกลุ่ม ซึ่งเกี่ยวข้องกับหน่วย SS ของไรช์ที่ 3 ของนาซีของเยอรมัน
“เหตุใดในโลกนี้ชาวยูเครนจึงไม่สามารถโจมตีกองทหารรัสเซียในดินแดนของตนได้” จอห์นสันกล่าวเพื่อจุดประกายของสงครามโลก โดยไม่คำนึงถึงคำขู่ของประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียว่า ถ้าหากตะวันตกให้ขีปนาวุธพิสัยไกลแก่ยูเครนเพื่อยิงเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย รัสเซียสามารถตอบโต้ได้ด้วยอาวุธนิวเคลียร์
จอห์นสันกำลังกล่าวชื่นชมกองพลน้อยอาซอฟนีโอนาซีอย่างออกหน้าออกตาในการประชุมของนักการเมืองชั้นนำและทหารในเครื่องแบบในลอนดอน “ข้อความของผมถึงคุณนั้นเรียบง่ายมาก: ขอขอบคุณวีรบุรุษจาก Azov Brigade ที่ให้เกียรติพวกเราในการปรากฏตัวของพวกคุณในคืนนี้” เขากล่าว
สงครามยูเครนที่กำลังขยายวงในเวลานี้สามารถเลี่ยงได้ ถ้าหากจอห์นสันไม่เดินทางไปยังเคียฟในเดือนเมษายนปี 2022 เพื่อสั่งให้โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี้ไม่ให้เซ็นสัญญาสันติภาพกับรัสเซียหลังจากถูกรัสเซียโจมตี
คิมดอทคอมเขียนบน Xว่า: “ชาวอังกฤษ 450,000 คนเสียชีวิตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อเอาชนะนาซีเยอรมนี สัปดาห์นี้ บอริส จอห์นสันยินดีต้อนรับกองพันนีโอนาซีอะซอฟแห่งยูเครนในฐานะ "วีรบุรุษ" ในลอนดอน ไม่มีการเคารพผู้ที่เสียชีวิตเพื่อหยุดยั้งอุดมการณ์ของนาซี ตอนนี้รัฐบาลอังกฤษใช้พวกนาซีเพื่อสังหารชาวรัสเซีย”
ส.ส. ชาวอังกฤษ Andrew Bridgen เพิ่งไปที่พอดแคสต์ Doc Malik เพื่อหารือเกี่ยวกับพัฒนาการของสงครามยูเครน บริดเจนบอกว่า สหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรมีทหารในยูเครน ซึ่งกำลังปฏิบัติการระบบส่งขีปนาวุธขั้นสูงที่กำลังถล่มกองกำลังรัสเซีย
Andrew Bridgeon: Rishi ต้องการออก ตอนนี้เรากำลังทำสงครามกับรัสเซียอยู่ พวกเขาแค่ไม่ได้บอกคุณ… จริงๆ แล้วเรากำลังทำสงครามกับรัสเซียอยู่ ผมได้พบกับ Andrey Kelen เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำลอนดอนเมื่อสองสามเดือนก่อน และเขาบอกว่าเรารู้ว่าคนของคุณยิงขีปนาวุธสตอร์มชาโดว์ใส่เรานอกยูเครน เพราะคุณไม่สามารถฝึกชาวยูเครนให้ทำแบบนั้นได้ เรารู้ว่าคุณกำลังทำมัน และผมหมายถึงทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกคน ทุกคนรู้ว่ามีประเทศสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และฝรั่งเศสมากมาย ชาวฝรั่งเศสอยู่ในยูเครน
Doc Malik: ผมคิดว่าเป็นชาวอังกฤษที่ลงภาคพื้นดินในยูเครนและมีที่ปรึกษาพิเศษฝึกอบรมและสอนและแสดงให้พวกเขาเห็น... นั่นคือวิธีที่เราเริ่มต้นด้วยสงครามเวียดนาม สงครามเวียดนาม ใช่เลย เพื่อน เรากำลังทำอะไรบ้าๆ เพื่อยั่วยุหมี? นั่นโง่จริงๆ
Andrew Bridgen: พวกเขามุ่งมั่นที่จะพาเราไปทำสงครามกับรัสเซีย และขอบคุณพระเจ้า เรามีคนในปูตินที่อย่างน้อยก็มีสมองบ้าง
Doc Malik: ตอนนี้คุณดูเหมือนเป็นคนรักปูตินเลย
Andrew Bridgen: ผมไม่ได้เป็นเช่นนั้น ผมไม่เชื่อสิ่งใดๆ เหล่านี้จะดีเลย แต่ท้ายที่สุดแล้ว ถ้าคุณดูข้อเท็จจริง ตั้งแต่ปี 1991 เราได้ขยายNATO ให้เข้าใกล้มอสโกมากขึ้นอีกนับพันไมล์ พวกเขาไม่ได้เข้าใกล้เรามากขึ้น และถ้าคุณคิดถึงสิ่งที่เรากำลังพยายามทำ สหภาพยุโรปต้องการนำยูเครนเข้ามาในNATOไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม และ NATO ต้องการ วางขีปนาวุธไว้ที่ชายแดนรัสเซีย ผมหมายถึงว่า อเมริกาทำอะไรเมื่อสหภาพโซเวียตเก่าพยายามวางขีปนาวุธในคิวบา ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งฟลอริดา 90 ไมล์?
Doc Malik: ใช่แล้ว ถูกต้องเลย
Andrew Bridgen: และถ้าคุณมองย้อนกลับไป ชาวรัสเซียบอกเรามานานพอแล้ว ยูเครนจะต้องเป็นกลาง เราจะไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้น… พวกเขาบอกเราเรื่องนี้มานานแล้ว
นอกจากนี้ ริชี ซูนัคให้คำมั่นว่าจะกลับมาบังคับเกณฑ์ทหารอีกครั้ง หากพรรคอนุรักษ์นิยมยังคงได้รับชัยชนะหลังการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 4 กรกฎาคม โดยคาดว่าการกลับมาเกณฑ์ทหารของอังกฤษจะมีค่าใช้จ่ายประมาณปีละ 2,500 ล้านปอนด์ (3,190 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ซึ่งเยาวชนอายุ 18 ปีทุกคนจะต้องเลือกระหว่างการเข้าร่วมเป็นทหารในกองทัพแบบเต็มเวลา หรือเป็นอาสาสมัครช่วงสุดสัปดาห์กับองค์กรในชุมชน เช่น ตำรวจหรือบริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS) เดือนละครั้ง
ซูนัคระบุว่า การรับราชการทหารจะช่วยฟื้นฟู “จิตวิญญาณของชาติ”และ“มอบโอกาสในการเปลี่ยนชีวิตให้กับคนหนุ่มสาว”
“[อังกฤษ] เป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่ แต่คนรุ่นใหม่ไม่มีโอกาสเข้าถึงประสบการณ์ที่พวกเขาควรได้รับ นอกจากนี้ก็ยังมีกองกำลังที่พยายามแบ่งแยกสังคมของเราเพิ่มมากขึ้น ในโลกแห่งความไม่แน่นอน” ซูนัคอธิบาย
By Thanong Khanthong, Editor
IMCT News
ที่มา https://www.thegatewaypundit.com/2024/05/war-room-british-member-parliament-reveals-uk-us/
