15/6/2024

Luke Gromen ผู้ก่อตั้งและประธาน Forest for the Trees ( FFTT) เปิดเผยว่า พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯจะถูกละทิ้งจากการเป็นเงินทุนสำรองทั่วโลกภายในปี 2030 เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐจะถูกปรับค่าเงินใหม่จากระดับราคาที่ "มีมูลค่าสูงเกินไป" ซึ่งจะมีผลทำให้ทองคำมีผลตอบแทนเพิ่ม 3 เท่า ในขณะที่บิทคอยน์เพิ่ม 6 เท่า

Gromen บอกกับ Michelle Makori หัวหน้าผู้ประกาศข่าวและหัวหน้าบรรณาธิการของ Kitco News ว่านโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐในช่วง 40 ปีที่ผ่านมามีเจตนาที่จะทำลายซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อราคาของทุกสิ่ง ตั้งแต่พันธบัตรสหรัฐฯ เงินดอลลาร์ ทองคำและ Bitcoin

เขาคาดว่า ราคาทองคำจะขึ้นไปที่ $7,000-$15,000 ในขณะที่บิทคอยน์จะไปที่ $420,000ภายในปี 2030

ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา สหรัฐฯ ส่งออกพันธบัตรกระทรวงการคลังได้ดี แต่ส่งออกสิ่งอื่นแย่ไปหมด นี่คือสิ่งที่กำลังเปลี่ยนแปลงอยู่ในขณะนี้ Gromen ตั้งข้อสังเกต

“สิ่งที่ Janet Yellen กำลังบอกคุณ สิ่งที่ Jake Sullivan [ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ Jake Sullivan] กำลังบอกคุณ สิ่งที่กระทรวงกลาโหมกำลังบอกคุณก็คือ มันเป็นผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของชาติที่จะออกจากการส่งออกพันธบัตรสหรัฐ และให้กลับเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจส่งออกที่แท้อีกครั้ง” Gromen กล่าว

“แต่เราไม่สามารถทำสิ่งนั้นได้หากไม่มีเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงมาก และตัวการที่จะตัดสินในเรื่องนี้ก็คือราคาทองคำ คุณคงเห็นว่า เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสหรัฐฯกำลังโยนทิ้งหลักเศรษฐกิจแบบดั้งเดิมที่ดำเนินมาเป็นเวลา 40 ปีลงถังขยะ”

การเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้จากเยลเลน ซึ่งดูแลเงินดอลลาร์ถือเป็นเรื่องสำคัญ “สิ่งนี้ใหญ่พอๆ กับตอนที่ [อดีตประธานาธิบดีริชาร์ด] นิกสันปิดหน้าต่างทองคำ” โกรเมนอธิบาย ในอนาคต "ตลาดพันธบัตร 130 ล้านล้านเหรียญจะเป็นตัวหลอกที่โต๊ะไพ่"

Gromen อธิบายว่าระบบดอลลาร์อย่างที่เราทราบกันดีกำลังจะตาย โดยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯจะสูญเสียตำแหน่งในฐานะสินทรัพย์สำรองหลักของโลก นี่คือเหตุผลที่ดอลลาร์จะมีการปรับราคาใหม่ อย่างไรก็ตาม Gromen ไม่คิดว่าจะมีการนำเอาเงินสกุลอื่นมาแทนที่ดอลลาร์ โดยระบุว่าดอลลาร์จะยังคงเป็นสกุลเงินสำรองทั่วโลก

ตลาดการเงินของสหรัฐฯ สูญเสียส่วนแบ่งในฐานะสินทรัพย์สำรองหลักของโลกมาตั้งแต่ปี 2014 เนื่องจากธนาคารกลางทั่วโลกได้ขายพันธบัตรสหรัฐออกไป 400 พันล้านดอลลาร์สุทธิ และซื้อทองคำมูลค่า 600 พันล้านดอลลาร์สุทธิแทน

“ธนาคารกลางทั่วโลกหยุดซื้อพันธบัตรกระทรวงการคลังสหรัฐเมื่อ 10 ปีที่แล้วแบบสุทธิ และหนี้สหรัฐยังไม่หยุดเติบโต” Gromen กล่าว “มีช่องว่างที่กว้างขึ้นระหว่างอุปทานของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และอุปสงค์จากธนาคารกลางทั่วโลก”

Gromen ตั้งข้อสังเกตว่า ทองคำได้เห็นการเพิ่มขึ้นของราคาอย่างมั่นคงในปีนี้ โดยเพิ่มขึ้น 12.5% ​​เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากแตะระดับสูงสุดใหม่หลายครั้ง และจะเพิ่มขึ้นต่อไปจนถึงปี 2030

“ทุกสิ่งในระดับมหภาคกำลังบอกคุณว่าราคาทองคำจะสูงขึ้นเรื่อยๆ คุณเห็นว่า BRICS เข้าสู่ตลาดทองคำ คุณเห็น Yellen ทิ้งแนวคิดทางเศรษฐกิจแบบออร์โธดอกซ์ตลอด 40 ปีลงถังขยะ คุณเห็น Fed บอกว่าเราจะไม่ปล่อยให้การไม่ทำงานของตลาดพันธบัตรเกิดขึ้น โดยจะเข้าไปเพิ่มสภาพคล่องเมื่อจำเป็น" เขากล่าว

ทางเลือกอื่นนอกเหนือจากพันธบัตรสหรัฐในฐานะสินทรัพย์สำรองทั่วโลกคือทองคำ "พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐสำหรับธนาคารกลางไม่ใช่เครื่องมือที่ไร้ความเสี่ยงอีกต่อไป หากคุณทำสิ่งที่รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ชอบ พวกเขาจะเข้าไปยึดพันธบัตรที่คุณถือ พวกเขาทำกับรัสเซียและประเทศอื่นๆ ซึ่งทำให้เกิดการเปิดหูเปิดตาขึ้นมา" Gromenกล่าว 

Gromen กล่าวเสริมว่าไม่มีใครเชื่อถือเงินหยวนของจีนในการหาทางเลือกเงินสำรองอื่น เนื่องจากจีนไม่ต้องการเปิดเสรีบัญชีเงินทุนและออกตราสารหนี้

“ทองคำกำลังทำในสิ่งที่กำลังทำอยู่ เพราะทองคำเข้ามาแทนที่พันธบัตรกระทรวงการคลังสหรัฐในฐานะสินทรัพย์สำรองหลักทั่วโลกในระดับธนาคารกลาง และเมื่อเป็นเช่นนั้น มีการการซื้อจำนวนมากในตลาดทองคำ ซึ่งมีการผลิตต่อปีอยู่ที่ 240 พันล้านดอลลาร์” เขาอธิบาย

ตลาดกำลังรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของการแห่ออกจากพันธบัตรสหรัฐนี้ ทำให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น

"ตลาดต่างๆ เริ่มที่จะเข้าใจว่าการไม่ทำงานของตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจะไม่ถูกปล่อยให้ดำเนินต่อไป (ทำให้ต้องมีการพิมพ์ดอลลาร์เข้าไปเสริมสภาพคล่อง) ซึ่งในกรณีนี้ คุณได้เห็นตลาดตราสารหนี้ทั่วโลกมูลค่า 130 ล้านล้านดอลลาร์จะถูกบีบเข้าสู่ตลาดตราสารทุนมูลค่า 65 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือตลาดทองคำประมาณ 14 ล้านล้านดอลลาร์ และตลาด Bitcoin มูลค่า 1.4 ล้านล้านดอลลาร์” Gromen กล่าว

นี่คือสาเหตุที่ทำให้กราฟ S&P 500, Nasdaq, ทองคำ และ Bitcoin พุ่งสูงขึ้นเมื่อเทียบกับพันธบัตรระยะยาว “ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วง 18 ถึง 24 เดือนที่ผ่านมา นั่นคือสัญญาณของตลาดตราสารหนี้ที่ตระหนักว่าตามความเป็นจริงแล้ว มันเป็นตัวร้ายหรือฟองสบู่อยู่ในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะยาว ” โกรเมนตั้งข้อสังเกต

เพื่อให้เข้าใจถึงการขึ้นราคาหลายปีของทองคำที่กำลังจะมาถึง Gromen กล่าวว่าการขยับขึ้นของทองคำ รวมทั้งบิทคอยน์นั้นเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น

IMCT News

ที่มา https://www.kitco.com/news/article/2024-06-14/gold-new-reserve-asset-price-target-7k-15k-2030-just-return-long-term