Thailand
หุ้น NVIDIA จะพุ่งขึ้นหลัง 20 พฤศจิกายนนี้
ขอบคุณภาพจาก AI Brilliance
10/11/2024
Nvidia (NASDAQ: NVDA) เป็นบริษัทที่มีมูลค่า 360,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงต้นปีที่แล้ว (2023) โดยในเวลาไม่ถึงสองปี มูลค่าตลาดของบริษัทพุ่งสูงขึ้นเป็น 3.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากความสามารถในการเปลี่ยนปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ (AI) ให้กลายเป็นเงินสด ที่เป็นแรงผลักดันเบื้องหลังการเติบโตที่เหลือเชื่อนี้
หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ของ Nvidia สำหรับศูนย์ข้อมูล ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกสำหรับการพัฒนา AI และอุปสงค์ยังคงสูงเกินกว่าอุปทาน นั่นทำให้รายได้ของบริษัทเติบโตเป็นเปอร์เซ็นต์สามหลักในห้าไตรมาสที่ผ่านมา
ส่วนในวันที่ 20 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ (2024) Nvidia จะเผยแพร่ผลประกอบการทางการเงินชุดใหม่สำหรับไตรมาสที่ 3 ของปีงบประมาณ 2025 (สิ้นสุดวันที่ 31 ตุลาคม) และหากไตรมาสที่ผ่านมาเป็นตัวบ่งชี้ ก็อาจเกิดการพลิกผันครั้งใหญ่ได้ จึงเป็นที่คาดการณ์ว่า หุ้นจะตอบสนองเมื่อมีการประกาศผลประกอบการ
GPU H100 ซึ่งเป็นรุ่นเรือธงของ Nvidia เริ่มผลิตในปี 2022 และเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับผู้ปฏิบัติการศูนย์ข้อมูล AI ตลอดปี 2023 GPU ได้รับการออกแบบมาให้ประมวลผลแบบขนาน จึงสามารถทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้โดยมีปริมาณงานที่สูงมาก นอกจากนี้ก็ยังมีหน่วยความจำในตัวจำนวนมาก ซึ่งทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการฝึกโมเดล AI และดำเนินการอนุมาน AI
เป็นที่คาดการณ์ว่า แอปพลิเคชัน AI จะขับเคลื่อนการเติบโตของผลผลิตทั่วโลก ซึ่งอาจมีมูลค่าสูงถึง 200 ล้านล้านดอลลาร์ในกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในปี 2030 ตามข้อมูลของ ARK Investment ของ Cathie Wood ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Microsoft และ Amazon กำลังเติมเต็มศูนย์ข้อมูลของตนด้วย GPU AI และให้เช่าความสามารถในการประมวลผลแก่ผู้พัฒนาโดยมีค่าธรรมเนียม ถือเป็นชัยชนะสำหรับพวกเขา ชัยชนะสำหรับ Nvidia และชัยชนะสำหรับนักพัฒนาที่ไม่มีเงินหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อใช้จ่ายกับโครงสร้างพื้นฐานของตนเอง
H100 และ H200 รุ่นใหม่ของ Nvidia ยังคงเป็นที่ต้องการสูง แต่สถาปัตยกรรม Blackwell ล่าสุดของบริษัท ให้คำมั่นว่าจะมีประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้นสูงสุดเท่าที่เคยมีมา ระบบ GPU GB200 ที่ใช้ Blackwell สามารถทำการอนุมาน AI ได้เร็วกว่าระบบ H100 ที่เทียบเท่ากันถึง 30 เท่า
Jensen Huang ซีอีโอ Nvidia กล่าวว่า GPU GB200 แต่ละอันจะมีราคาประมาณ 30,000 ถึง 40,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเท่ากับราคา H100 ในตอนที่เปิดตัวครั้งแรก
กล่าวอีกนัยหนึ่ง Blackwell จะขับเคลื่อนการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านต้นทุนที่น่าทึ่ง ซึ่งจะทำให้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่ล้ำหน้าที่สุด (LLM) เข้าถึงกลุ่มนักพัฒนาและธุรกิจที่กว้างขึ้นได้ทางการเงินมากขึ้น
การจัดส่ง GB200 ได้เริ่มขึ้นแล้วและจะเพิ่มขึ้นในปีหน้า (2025) การประมาณการหนึ่งบ่งชี้ว่า Nvidia อยู่ในเส้นทางที่จะจัดส่ง GPU GB200 แต่ละอันมากถึง 200,000 ตัวในช่วงสามเดือนสุดท้ายของปีนี้ (2024) ซึ่งสังคมทราบแล้วว่า Microsoft กำลังเสนอ GPU ใหม่ให้กับนักพัฒนา โดยจากไตรมาสที่ 3 ของปีงบประมาณ 2025 ของ Nvidia รวมถึงเดือนตุลาคม รายงานที่จะมาถึงนี้อาจรวมถึงยอดขาย GB200 มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
บริษัทสร้างรายได้รวมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 30,000 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ 2025 (สิ้นสุดวันที่ 28 กรกฎาคม) ซึ่งเพิ่มขึ้น 122% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สูงกว่าที่วอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ที่ 28,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยรายได้รวมจากศูนย์ข้อมูลเพียงอย่างเดียวอยู่ที่ 26,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งคิดเป็นการเติบโต 154% โดยส่วนใหญ่มาจากยอดขาย GPU
ผู้ผลิตชิปรายนี้ยังสร้างผลงานที่แข็งแกร่งในบรรทัดสุดท้ายด้วยกำไรต่อหุ้น (EPS) ที่ 0.68 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มขึ้น 152% และสูงกว่าที่วอลล์สตรีทประมาณการไว้ที่ 0.64 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหุ้น
นอกจากนี้ก็ยังพบว่า วอลล์สตรีทยังประเมินแนวโน้มของ Nvidia สำหรับไตรมาสที่สามต่ำเกินไป จากการที่บริษัทแจ้งต่อนักลงทุนว่า คาดว่าจะสร้างรายได้รวม 32,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่วอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ที่ 31,700 ล้านดอลลาร์
ด้านนักวิเคราะห์ได้ปรับประมาณการใหม่เป็น 32,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งตอนนี้เป็นสัญญาณว่า การคาดการณ์ของฝ่ายบริหารเองอาจจะอนุรักษ์นิยมเกินไป โดยควรสังเกตว่าหุ้น Nvidia ตกลงมาประมาณ 6% ในวันถัดจากที่รายงานผลประกอบการไตรมาสที่สองในเดือนสิงหาคม อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่นั้นมา หุ้นได้เพิ่มขึ้น 24% และปัจจุบันซื้อขายในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
จากการที่หุ้นพุ่งสูงขึ้นเกือบสิบเท่าตั้งแต่ต้นปีที่แล้วเพียงปีเดียว แนวโน้มในระยะยาวจึงชัดเจนมาก หากบริษัททำรายได้เกินกว่าประมาณการของวอลล์สตรีทที่ 32,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในรายงานไตรมาสที่สามที่จะถึงนี้ ก็คาดว่าหุ้นจะยังคงขยับสูงขึ้นต่อไปในสัปดาห์และเดือนข้างหน้า
ขณะเดียวกัน การประเมินมูลค่ายังสนับสนุนการเพิ่มขึ้นในระยะกลาง หลังวอลล์สตรีทคาดว่าบริษัทจะสร้าง EPS ได้ 4.06 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีงบประมาณ 2026 (ซึ่งจะเริ่มในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2025) ซึ่งจะทำให้หุ้นมีอัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E) ล่วงหน้าที่ 35.8 ซึ่งหมายความว่าหุ้นจะต้องเพิ่มขึ้น 90% ในช่วงปีถัดไปหรือประมาณนั้นเพียงเพื่อรักษา P/E ในปัจจุบันที่ 68.1 ไว้
สำหรับอัตราส่วน P/E ที่ 68.1 ถือว่าไม่ถูกเมื่อเทียบกับตลาด (Nasdaq-100 ซื้อขายที่อัตราส่วน P/E ที่ 31.8) แต่ Nvidia ซื้อขายที่อัตราส่วน P/E เฉลี่ย 58.4 ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และส่วนใหญ่ในช่วงเวลาดังกล่าวไม่ได้รวมแรงหนุนจาก AI ที่น่าเหลือเชื่อด้วยซ้ำ ดังนั้น แนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่งจึงอาจเกิดขึ้นในปีหน้า (2025) ตราบใดที่บริษัทยังคงสามารถทำกำไรได้ตามประมาณการของวอลล์สตรีท
ด้าน Microsoft เพิ่งแจ้งนักลงทุนว่ามีรายจ่ายด้านทุน (capex) มูลค่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2025 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน) ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ไปกับโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูลและชิป AI ซึ่งตามมาด้วยรายจ่ายด้านทุน 55,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีงบประมาณ 2024 เนื่องจากมีกระแสข่าวว่า Microsoft เป็นผู้ซื้อชิป Blackwell รายใหญ่ที่สุดในขณะนี้ จึงเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับผลประกอบการทางการเงินของ Nvidia
ขณะที่ Amazon กำลังจะใช้จ่ายมากกว่า 75,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับค่าใช้จ่ายด้านทุน AI ในปีปฏิทินนี้ และ Meta Platforms จะใช้จ่ายสูงถึง 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยจะจัดสรรเงินมากกว่านี้อีกสำหรับปี 2025 เส้นทางความต้องการของ GPU ของ Nvidia นั้นชัดเจนมาก ซึ่งจะสนับสนุนการเติบโตของรายรับและกำไรที่แข็งแกร่งในอนาคตอันใกล้
IMCT News
ที่มา https://finance.yahoo.com/news/prediction-nvidia-stock-going-soar-095300663.html
© Copyright 2020, All Rights Reserved