ทรัมป์เอาใจออกห่างแอตแลนติกนิยม

Thailand
ทรัมป์เอาใจออกห่างแอตแลนติกนิยม
18-2-2025
คำปราศรัยของรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เจดี แวนซ์ ที่งาน Munich Security Conference ถือเป็นการปลุกให้ชนชั้นนำตะวันตกที่คุ้นเคยกับการได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯให้ตื่นตัว เขาได้วิจารณ์นโยบายของสหภาพยุโรป (EU) ว่าเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดสำหรับยุโรปเอง ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ที่หันเหออกจากแนวทางแอตแลนติกนิยม
อะไรคือสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงนี้? ลองมาวิเคราะห์กัน
1)การบีบเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป
เมื่อทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง เขากล่าวว่า "สหภาพยุโรปปฏิบัติกับเราแย่มาก" พร้อมกับแย้มว่าจะเกิดสงครามการค้า ในเดือนกุมภาพันธ์ เขาได้ประกาศภาษี 25% สำหรับเหล็กและอะลูมิเนียม ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในเดือนมีนาคม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขามุ่งเป้าไปที่อุตสาหกรรมของสหภาพยุโรป
ในปี 2018 ทรัมป์ได้ประกาศภาษี 25% สำหรับเหล็กและ 10% สำหรับอะลูมิเนียมจากบริษัทในยุโรปและแคนาดา
ในปี 2019 เขาเพิ่มความตึงเครียดด้วยการขึ้นภาษี 25% สำหรับไวน์ฝรั่งเศส เนยอิตาลี และวิสกี้สกอตแลนด์ เพื่อตอบโต้การอุดหนุนของสหภาพยุโรปให้แอร์บัส ซึ่งเป็นคู่แข่งของโบอิ้ง
2) การกดดันสมาชิก NATO ในยุโรป
ทรัมป์มักเรียก NATO ว่า "ล้าสมัย" และวิจารณ์ภาระทางการเงินที่สหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักต้องแบกรับ
เขากดดันให้สมาชิก NATO เพิ่มงบประมาณด้านการป้องกันเป็น 5% ของ GDP โดยให้เหตุผลว่ายยุโรปควรแบกรับค่าใช้จ่ายด้านความมั่นคงมากขึ้น
ในช่วงสมัยแรกของเขา ทรัมป์เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกใช้งบประมาณด้านการป้องกันที่ 2% ของ GDP และเริ่มถอนทหารสหรัฐฯ ออกจากเยอรมนี ซึ่งต่อมาถูกยกเลิกโดยไบเดน
ทรัมป์กำลังพิจารณาลดกำลังทหารสหรัฐฯในยุโรปลง 20% และเรียกร้องให้พันธมิตรลงทุนมากขึ้นในการป้องกันประเทศตัวเอง ตามรายงานของ ASNA
3) ทัศนคติเชิงปฏิบัติต่อยูเครน
ทรัมป์มีมุมมองเชิงปฏิบัติเกี่ยวกับยูเครน โดยได้มีการสนทนาทางโทรศัพท์กับปูตินและชี้แจงชัดเจนว่ายูเครนจะไม่เข้าร่วม NATO และจะไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของยุโรป ซึ่งต่างจากท่าทีของสหภาพยุโรปที่ว่า “จะไม่มีการเจรจาสันติภาพโดยไม่มียูเครน"
4) การฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัสเซีย
ทรัมป์สนับสนุนการกลับมาของรัสเซียในกลุ่ม G7 และยอมรับข้อกังวลด้านความมั่นคงของมอสโก โดยเฉพาะเกี่ยวกับยูเครนและความปรารถนาที่จะเข้าร่วม NATO
ความจริงจังแบบตรงไปตรงมาของเขาแตกต่างจากแนวทางแอตแลนติกนิยมที่มุ่งเน้นให้รัสเซีย "พ่ายแพ้เชิงยุทธศาสตร์" ซึ่งสร้างความไม่สบายใจให้กับนักการเมืองยุโรปหลายคน
ที่มา Sputnik
© Copyright 2020, All Rights Reserved