ทองคำ' กลยุทธ์การเอาตัวรอดทางการเงินของรัสเซีย

ทองคำ' กลยุทธ์การเอาตัวรอดทางการเงินของรัสเซีย ดอลลาร์ถูกใช้เป็นอาวุธ-มาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก
9-4-2025
ท่ามกลางความพยายามของประเทศต่างๆ ในการกระจายความเสี่ยงออกจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ธนาคารกลางทั่วโลกกำลังเร่งสะสมทองคำในอัตราที่ไม่เคยเห็นมาก่อน โดยรัสเซียถือเป็นกรณีศึกษาสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าทำไมทองคำจึงกลายเป็นสินทรัพย์ที่มีค่าในยุคที่การเมืองระหว่างประเทศมีความผันผวนสูง
รัสเซียเริ่มกลยุทธ์การซื้อทองคำครั้งใหญ่ตั้งแต่ปี 2557 (ค.ศ. 2014) โดยในช่วงระยะเวลา 6 ปีต่อมา ธนาคารกลางรัสเซียได้เพิ่มปริมาณสำรองทองคำขึ้นประมาณ 40 ล้านออนซ์ หรือคิดเป็น 1,244 ตัน ในช่วงเวลาดังกล่าว ราคาทองคำอยู่ระหว่าง 1,100 ถึง 1,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปัจจุบัน ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นถึง 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่งผลให้มูลค่าสำรองทองคำของรัสเซียเพิ่มขึ้นประมาณ 96,000 ล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 72 การเพิ่มขึ้นของมูลค่าทองคำนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่รัสเซียถูกตัดขาดจากระบบการเงินตะวันตก และสินทรัพย์จำนวนมากถูกอายัดเพื่อตอบโต้การรุกรานยูเครน ตามรายงานของบลูมเบิร์ก กองทุนของรัสเซียที่ถูกอายัดมีมูลค่าประมาณ 322,000 ล้านดอลลาร์
ทองคำที่สะสมไว้ได้กลายเป็นเส้นเลือดใหญ่สำหรับเศรษฐกิจรัสเซีย หากมองในแง่ของความสูญเสีย หากรัสเซียไม่สามารถกู้คืนสินทรัพย์ที่ถูกอายัดได้เลย มูลค่าที่เพิ่มขึ้นของทองคำสำรองจะสามารถชดเชยการสูญเสียได้ประมาณ 1 ใน 3 และหากสงครามยุติพร้อมกับการปลดอายัดสินทรัพย์เหล่านั้น บลูมเบิร์กระบุว่า "เครมลินจะนั่งอยู่บนเบาะรองทางการเงินที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์"
การเตรียมพร้อมของรัสเซียนั้นเริ่มต้นก่อนการรุกรานยูเครน โดยในช่วงเริ่มต้นสงคราม รัสเซียถือครองสินทรัพย์สำรองประมาณครึ่งหนึ่งในรูปของดอลลาร์ ยูโร และปอนด์สเตอร์ลิง ส่วนที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งเป็นเงินหยวนและทองคำซึ่งยังสามารถเข้าถึงได้ นอกจากนี้ รัสเซียยังได้โอนสินทรัพย์ในกองทุนสวัสดิการแห่งชาติเป็นเงินหยวน (ร้อยละ 60) และทองคำ (ร้อยละ 40) ซึ่งการศึกษาวิจัยของ RAND Corporation ระบุว่านี่เป็นสัญญาณว่ารัสเซียกำลังเตรียมรับมือกับแรงกดดันทางเศรษฐกิจจากชาติตะวันตกที่จะเพิ่มขึ้น
อเล็กซ์ อิซาคอฟ นักวิเคราะห์เศรษฐศาสตร์ของบลูมเบิร์ก ให้ความเห็นว่า "การสะสมทองคำเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากแรงสั่นสะเทือนทางภูมิรัฐศาสตร์ และมันได้ผลจริง" แนวทางการซื้อทองคำของธนาคารกลางรัสเซียมีเป้าหมายสามประการที่แตกต่างกัน ได้แก่ การกระจายสินทรัพย์สำรองระหว่างประเทศให้ห่างไกลจากความเสี่ยงของประเทศผู้ออกสกุลเงินสำรอง การเพิ่มสภาพคล่องในสกุลเงินท้องถิ่นในประเทศโดยการแลกเปลี่ยนทองคำกับรูเบิล และการสร้างความต้องการที่มั่นคงสำหรับผู้ผลิตทองคำในประเทศ
ปัจจุบัน รัสเซียดูเหมือนจะพอใจกับการถือครองทองคำที่มีอยู่ โอเล็ก คูซมิน หัวหน้าฝ่ายวิจัยของบริษัทเรอแนสซองส์ แคปิตอล กล่าวว่า ธนาคารกลางรัสเซียมีสภาพคล่องในรูปเงินหยวนเพียงพอที่จะรับมือกับวิกฤตที่อาจเกิดขึ้น เว้นแต่จะมีวิกฤตการณ์ร้ายแรง รัสเซียไม่น่าจะขายทองคำออก เนื่องจาก "มีทางเลือกจำกัดในการจัดสรรเงินทุนใหม่ท่ามกลางการคว่ำบาตร"
อย่างไรก็ตาม รัสเซียได้นำทองคำมาใช้ประโยชน์ในหลายด้าน ตามการศึกษาของ RAND "ทองคำได้กลายเป็นทรัพยากรเชิงกลยุทธ์ของรัฐบาลรัสเซีย" โดยมีผลต่อความสามารถในการสร้างรายได้และนโยบายการเงิน เป็นหัวใจสำคัญของแคมเปญการลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์ในระดับระหว่างประเทศ และมีบทบาทสำคัญในความสัมพันธ์ทางการค้าในช่วงสงคราม โดยเฉพาะในฐานะวิธีการชำระเงิน
รายงานจาก Kyiv Independent ระบุว่า รัสเซียแลกเปลี่ยนทองคำเป็นสกุลเงินอื่น รวมถึงดอลลาร์และยูโร และใช้ทองคำโดยตรงในการซื้อสินค้า "แทบไม่มีข้อสงสัยเลยว่ารัสเซียใช้ทองคำในการชำระเงินสำหรับสินค้าที่ไม่สามารถจัดหาได้ตามปกติ หรือสำหรับธุรกรรมที่ต้องการปกปิด" การสืบสวนพบว่าธนาคารที่ไม่ได้รับการคว่ำบาตรบางแห่งกำลังซื้อขายทองคำเป็นเงินสดในตุรกี นอกจากนี้ รัสเซียยังจ่ายทองคำบางส่วนให้กับผู้ผลิตโดรนของอิหร่าน Sahara Thunder เป็นค่าโดรน Shahed จำนวน 6,000 ลำและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
แม้ชาติตะวันตกจะพยายามอย่างเต็มที่ แต่ก็พบว่าเป็นเรื่องยากที่จะหยุดรัสเซียจากการใช้ทองคำ เนื่องจากทองคำมีคุณสมบัติที่แลกเปลี่ยนได้ง่าย และมีความต้องการทั่วโลก ทองคำคือเงินและเป็นที่ยอมรับในทุกที่ แม้ในภาวะที่สกุลเงินดอลลาร์หรือสกุลเงินเฟียตอื่นๆ ถูกปฏิเสธ ทองคำยังคงเป็นที่ต้องการเสมอ
กรณีของรัสเซียไม่ได้เป็นการสนับสนุนการกระทำในช่วงสงคราม แต่เป็นการเน้นย้ำถึงธรรมชาติของทองคำในฐานะเงินและบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจโลก เมื่อสกุลเงินเฟียตถูกตัดขาดหรือล้มเหลว ทองคำยังคงเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้เสมอ
นี่คือเหตุผลที่ประเทศต่างๆ ทั่วโลกกำลังเร่งสะสมทองคำ โดยความต้องการทองคำของธนาคารกลางทั่วโลกสูงเกิน 1,000 ตันเป็นปีที่สามติดต่อกันในปี 2567 (ค.ศ. 2024) ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยเพียง 473 ตันต่อปีระหว่างปี 2553-2564 (ค.ศ. 2010-2021)
การซื้อทองคำของธนาคารกลางเริ่มฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่ชาติตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซียอย่างเข้มงวด ประเทศอื่นๆ สังเกตเห็นการใช้ดอลลาร์เป็นอาวุธทางการเมือง และได้ดำเนินมาตรการเพื่อลดการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ตามรายงานของ Atlantic Council ระบุว่า "ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนและกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ (G7) เริ่มใช้มาตรการคว่ำบาตรทางการเงินมากขึ้น ประเทศต่างๆ ได้ส่งสัญญาณถึงความตั้งใจที่จะกระจายความเสี่ยงออกจากดอลลาร์"
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.moneymetals.com/news/2025/04/08/why-gold-the-russian-case-study-003966