คาเมเนอี'ไฟเขียวอิหร่านเจรจากับสหรัฐฯ ต่อ แต่ปฏิเสธเจรจาเรื่องขีปนาวุธ ด้านสหรัฐฯ ย้ำอิหร่านต้องจำกัดขีปนาวุธ-นิวเคลียร์

16-4-2025

   สตีฟ วิทคอฟฟ์ ทูตพิเศษประจำตะวันออกกลางของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่า สหรัฐฯ จะมุ่งเน้นการจำกัดขีดความสามารถด้านขีปนาวุธและการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมของอิหร่าน แทนที่จะเรียกร้องให้รื้อถอนโครงการนิวเคลียร์ทั้งหมด วิทคอฟฟ์เป็นผู้นำคณะผู้แทนสหรัฐฯ ในการเจรจาด้านนิวเคลียร์กับสาธารณรัฐอิสลาม ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาที่กรุงมัสกัต เมืองหลวงของโอมาน โดยโอมานทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างประเทศคู่ขัดแย้งที่เป็นศัตรูกันมายาวนาน ทั้งสองฝ่ายมีกำหนดพบกันอีกครั้งในวันที่ 19 เมษายน

   การที่รัฐบาลทรัมป์ส่งสัญญาณว่าพร้อมยอมรับการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมบางส่วนถือเป็นก้าวสำคัญทางการทูต ซึ่งขัดกับจุดยืนของกลุ่มแนวทางแข็งกร้าวในสหรัฐฯ และอิสราเอลที่ต้องการรื้อถอนโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านทั้งหมด ขณะเดียวกันก็ลดความเร่งด่วนในการฟื้นฟูมาตรการคว่ำบาตรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งเรียกร้องให้อิหร่านระงับกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเสริมสมรรถนะทั้งหมด "การเจรจานี้จะเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบโครงการเสริมสมรรถนะยูเรเนียม และในที่สุดก็จะรวมถึงการตรวจสอบการพัฒนาอาวุธด้วย" วิทคอฟฟ์กล่าวกับฟ็อกซ์นิวส์ พร้อมเสริมว่าอิหร่านต้องไม่มีความสามารถในการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมให้มีความบริสุทธิ์เกินกว่า 3.67% "การตรวจสอบจะเป็นประเด็นสำคัญที่รองรับข้อตกลงนี้ เราจะมีระบบการตรวจสอบที่เข้มงวดมาก" วิทคอฟฟ์กล่าว

    โรงงานนิวเคลียร์หลายสิบแห่งกระจายอยู่ทั่วอิหร่าน ---อิหร่านดำเนินการสถานที่หลายแห่งที่ทำหน้าที่ในขั้นตอนต่างๆ ของวงจรเชื้อเพลิงนิวเคลียร์

ที่มา: โครงการควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ของวิสคอนซิน

หมายเหตุ: สถานที่เสริมสมรรถนะยูเรเนียมและการวิจัยบางแห่งรวมถึงการผลิตน้ำหนักและการผลิตเครื่องหมุนเหวี่ยง สถานที่ที่ระบุว่าไม่ทราบรวมถึงสถานที่ไม่ได้แจ้งซึ่งมีการเข้าถึงการตรวจสอบจากทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศอย่างจำกัด

    เจ้าหน้าที่อิหร่าน รวมถึงประธานาธิบดีมาซูด เปเซชเคียน ได้กล่าวแล้วว่าพวกเขาพร้อมที่จะให้การรับประกันและยืนยันว่าอิหร่านจะไม่แสวงหาอาวุธนิวเคลียร์ และต้องการบรรลุข้อตกลงที่คล้ายกับข้อตกลงเดิมในปี 2015 ซึ่งเรียกอย่างเป็นทางการว่าแผนปฏิบัติการร่วมและครอบคลุม (Joint Comprehensive Plan of Action - JCPOA) ที่ทรัมป์ได้ถอนตัวในวาระการดำรงตำแหน่งแรกของเขา

ผู้นำสูงสุดอิหร่านให้ไฟเขียวการเจรจา

สะท้อนให้เห็นถึงความหวังที่ระมัดระวังเกี่ยวกับการเจรจาที่ผ่านมา ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน อายาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี กล่าวเมื่อวันอังคารว่าการเจรจารอบแรกนั้น "ดำเนินไปด้วยดี" และให้ไฟเขียวอย่างชัดเจนให้ดำเนินการเจรจาต่อไป

"เส้นแดงมีความชัดเจนสำหรับทั้งอีกฝ่ายและพวกเรา การเจรจาควรดำเนินต่อไป พวกเขาอาจให้ผลหรือไม่ก็ได้" เขากล่าวในแถลงการณ์บนช่องทางการสื่อสารเทเลแกรมอย่างเป็นทางการ พร้อมเสริมว่าเขา "ไม่ได้มองโลกในแง่ดีหรือมองโลกในแง่ร้ายจนเกินไป"

คาเมเนอี ผู้มีอำนาจสูงสุดในอิหร่านและเป็นประมุขแห่งรัฐของสาธารณรัฐอิสลาม เคยสนับสนุนข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 อย่างไม่เต็มใจและท่ามกลางการคัดค้านอย่างมากจากผู้สนับสนุนทางการเมืองสายแข็งของเขา

การตัดสินใจถอนตัวจากข้อตกลงของทรัมป์ในปี 2018 ก่อให้เกิดวิกฤตความมั่นคงและเกือบนำไปสู่สงครามกับอิหร่าน คาเมเนอีได้ประณามการมีส่วนร่วมกับสหรัฐฯ บ่อยครั้งหลังจากนั้น โดยกล่าวว่าสหรัฐฯ ไม่สามารถไว้วางใจให้ปฏิบัติตามข้อตกลงได้

เส้นแดงของอิหร่าน -อิหร่านค่อยๆ เริ่มเสริมสมรรถนะยูเรเนียม  โลหะที่แตกตัวได้ซึ่งจำเป็นต่อการผลิตเชื้อเพลิงนิวเคลียร์  ในระดับที่เกินขีดจำกัดความบริสุทธิ์ 3.67% ที่กำหนดไว้ภายใต้เงื่อนไขเดิมของข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ถอนตัวจากข้อตกลงนั้นในวาระแรกของเขา

"ในบางสถานการณ์พวกเขาอยู่ที่ 60% ในบางสถานการณ์อยู่ที่ 20%" วิทคอฟฟ์กล่าว อ้างถึงระดับการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมปัจจุบันของอิหร่าน "สิ่งนี้เป็นไปไม่ได้"

    ในขณะที่ยูเรเนียมของอิหร่านที่เสริมสมรรถนะถึงความบริสุทธิ์ 20% ปัจจุบันใช้ในการผลิตไอโซโทปทางการแพทย์ที่เครื่องปฏิกรณ์วิจัยเตหะราน ประเทศนี้มีเชื้อเพลิงเพียงพอสำหรับหลายปี และสามารถจัดหาทรัพยากรเพิ่มเติมจากรัสเซียได้ วิทคอฟฟ์กล่าวว่าการเจรจาจะครอบคลุมถึง "ขีปนาวุธของอิหร่าน ประเภทขีปนาวุธที่พวกเขาเก็บสะสมไว้ และรวมถึงชนวนระเบิดด้วย"

    กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC)  ปีกที่ทรงอำนาจที่สุดของกองทัพอิหร่านซึ่งทรัมป์กำหนดให้เป็นองค์กรก่อการร้ายในวาระแรกของเขา — ได้ย้ำเมื่อวันอังคารว่าขีปนาวุธจะไม่เป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาใดๆ กับสหรัฐฯ "ความมั่นคงแห่งชาติ รวมถึงขีดความสามารถด้านการป้องกันและการทหาร เป็นหนึ่งในเส้นแดงของสาธารณรัฐอิสลาม และไม่สามารถหารือหรือเจรจาภายใต้สถานการณ์ใดๆ" สื่อของรัฐอิหร่านรายงานเมื่อวันอังคาร โดยอ้างโฆษกของ IRGC

    อิหร่านมีคลังขีปนาวุธพิสัยไกลขนาดใหญ่ซึ่งเพิ่งถูกนำมาใช้โจมตีอิสราเอลเมื่อทั้งสองประเทศเริ่มโจมตีกันโดยตรงเป็นครั้งแรกในสงครามลับที่ดำเนินมาหลายทศวรรษ

   เงื่อนไขของ JCPOA ปี 2015 ถูกจำกัดเฉพาะโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านอย่างเคร่งครัด และไม่ครอบคลุมถึงการป้องกันประเทศหรือกิจกรรมในภูมิภาคของอิหร่านแต่อย่างใด

   ความไม่แน่นอนเรื่องสถานที่เจรจารอบถัดไป คำแถลงของวิทคอฟฟ์เกิดขึ้นท่ามกลางรายงานที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับสถานที่สำหรับการเจรจารอบต่อไป สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่าการประชุมวันที่ 19 เมษายนจะจัดขึ้นที่กรุงโรม แต่กระทรวงการต่างประเทศอิหร่านกล่าวเมื่อช่วงดึกวันจันทร์ว่ามัสกัตจะเป็นเจ้าภาพในการเจรจาอีกครั้ง

   วิทคอฟฟ์ย้ำในบทสัมภาษณ์กับฟ็อกซ์ว่ารัฐบาลทรัมป์มุ่งหลีกเลี่ยงการปฏิบัติการทางทหารต่ออิหร่าน โดยเขาอธิบายถึงการเจรจาเบื้องต้นว่า "เป็นไปในทางบวก สร้างสรรค์ และน่าจูงใจ"

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.bloomberg.com/news/articles/2025-04-15/trump-envoy-witkoff-says-iran-must-curb-nuclear-program-rather-than-dismantle-it?srnd=phx-politics