จีน'สั่งห้ามรับมอบเครื่องบินโบอิ้ง ท่ามกลางสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงกับทรัมป์ ฉุดหุ้นโบอิ้งร่วง 10%

16-4-2025

   Bloomberg รายงานว่า  จีนได้ระงับการรับมอบเครื่องบินโบอิ้งเนื่องจากสงครามการค้าที่ยังคงดำเนินอยู่กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ โดยอ้างอิงจากแหล่งข่าวภายใน รัฐบาลปักกิ่งได้สั่งให้สายการบินของจีนหยุดรับเครื่องบินลำใหม่จากโบอิ้ง และระงับการซื้ออุปกรณ์การบินและชิ้นส่วนอะไหล่จากบริษัทของสหรัฐฯ

    การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่จีนประกาศขึ้นภาษีตอบโต้ 125% เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้การนำเข้าเครื่องบินจากสหรัฐฯ ไม่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจ ภาษีใหม่นี้ทำให้ต้นทุนเครื่องบินและชิ้นส่วนจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดจีน

หลังจากมีการประกาศข่าวนี้ ราคาหุ้นของโบอิ้งได้ร่วงลง 10%

   จีนยังได้เพิ่มแรงกดดันด้วยการระงับการส่งออกแร่ธาตุหายากที่สำคัญและแม่เหล็กอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นวัสดุสำคัญต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีและการป้องกันประเทศของสหรัฐฯ แรงกระเพื่อมจากสงครามการค้า จีนสั่งห้ามสายการบินในประเทศไม่ให้รับมอบเครื่องบินโบอิ้งเพิ่มเติม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสงครามการค้าที่ทั้งสองฝ่ายโต้ตอบกัน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนสูงถึง 145% ตามข้อมูลจากแหล่งข่าวที่คุ้นเคยกับเรื่องนี้

   ปักกิ่งยังได้ขอให้สายการบินของจีนระงับการซื้ออุปกรณ์และชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับอากาศยานจากบริษัทสหรัฐฯ ทั้งหมด โดยแหล่งข่าวขอไม่เปิดเผยชื่อเนื่องจากเป็นเรื่องภายใน

    คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่จีนประกาศภาษีตอบโต้ 125% ต่อสินค้าสหรัฐฯ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งการเก็บภาษีดังกล่าวเพียงอย่างเดียวจะทำให้ต้นทุนเครื่องบินและชิ้นส่วนที่ผลิตในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า ทำให้สายการบินของจีนไม่สามารถรับเครื่องบินโบอิ้งได้อย่างคุ้มค่า

    รัฐบาลจีนกำลังพิจารณาวิธีการให้ความช่วยเหลือแก่สายการบินที่เช่าเครื่องบินโบอิ้งและกำลังเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นด้วย ราคาหุ้นของผู้ผลิตเครื่องบินสัญชาติอเมริกันร่วงลงถึง 4.6% ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาด หลังจากที่บลูมเบิร์กนิวส์รายงานเกี่ยวกับการตัดสินใจของจีน ข้อมูล ณ วันจันทร์ ระบุว่าราคาหุ้นโบอิ้งร่วงลง 10% ในปีนี้

    ข้อพิพาทระหว่างสองเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของโลกที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วได้ทำให้โบอิ้งตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก แม้ว่าสถานการณ์ยังคงไหลลื่นและอาจเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ ทรัมป์ได้ถอนคำสั่งภาษีบางรายการของสหรัฐฯ รวมถึงค่าธรรมเนียมที่เคยจัดเก็บกับไอโฟนของบริษัทแอปเปิลที่นำเข้าจากจีน

    เครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ประมาณ 10 ลำกำลังเตรียมเข้าสู่ฝูงบินของสายการบินจีน รวมถึงสายการบินไชน่า เซาเทิร์น แอร์ไชน่า และเซียเมน แอร์ไลน์ สายการบินละ 2 ลำ ตามข้อมูลจาก Aviation Flights Group บางลำจอดอยู่ใกล้กับฐานโรงงานของโบอิ้งในซีแอตเทิล ขณะที่ลำอื่นๆ อยู่ที่ศูนย์ตกแต่งขั้นสุดท้ายในเมืองโจวซานทางตะวันออกของจีน ตามข้อมูลในเว็บไซต์ของบริษัทที่ติดตามการผลิต

    เอกสารการส่งมอบและการชำระเงินสำหรับเครื่องบินบางลำเหล่านี้อาจเสร็จสิ้นก่อนที่ภาษีตอบโต้ซึ่งกันและกันที่จีนประกาศเมื่อวันที่ 11 เมษายนจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 12 เมษายน และเครื่องบินเหล่านี้อาจได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศจีนเป็นรายกรณี ตามที่แหล่งข่าวบางรายกล่าว สำนักงานบริหารการบินพลเรือนแห่งประเทศจีนไม่ได้ตอบสนองต่อคำขอแสดงความคิดเห็นทางแฟกซ์ ขณะที่โบอิ้งปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น ตัวแทนของสายการบินไชน่า เซาเทิร์น แอร์ไชน่า และเซียเมน แอร์ไลน์ ก็ไม่ตอบสนองต่อคำขอแสดงความคิดเห็นเช่นกัน สัปดาห์ที่แล้ว บลูมเบิร์กรายงานว่า จูนเยา แอร์ไลน์ กำลังเลื่อนการรับมอบเครื่องบินโบอิ้ง 787-9 ดรีมไลเนอร์ ซึ่งกำหนดจะได้รับในอีกประมาณสามสัปดาห์

ผลกระทบต่อโบอิ้งในตลาดจีน สำหรับโบอิ้ง ความขัดแย้งครั้งนี้ถือเป็นอุปสรรคใหม่ในตลาดการขายเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

    คาดการณ์ว่าจีนจะมีสัดส่วน 20% ของความต้องการเครื่องบินทั่วโลกในอีกสองทศวรรษข้างหน้า และในปี 2018 เกือบหนึ่งในสี่ของผลผลิตจากโบอิ้งถูกส่งไปยังจีน อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตเครื่องบินของสหรัฐฯ รายนี้ไม่ได้ประกาศคำสั่งซื้อขนาดใหญ่ในจีนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากความตึงเครียดทางการค้าและปัญหาที่เกิดจากตัวโบอิ้งเอง จีนเป็นประเทศแรกที่สั่งห้ามบินสำหรับเครื่องบิน 737 แม็กซ์ในปี 2019 หลังจากเกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตกอันเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ครั้ง ข้อพิพาททางการค้ากับรัฐบาลไบเดนและรัฐบาลทรัมป์ชุดแรกก็มีส่วนทำให้คำสั่งซื้อของจีนเบนเข็มไปทางแอร์บัสของยุโรปมากขึ้น จากนั้นในปี 2024 โบอิ้งประสบวิกฤตด้านคุณภาพเมื่อแผงปิดประตูระเบิดออกระหว่างเที่ยวบินในเดือนมกราคม

   สถานการณ์ของสายการบินจีน การเผชิญหน้าครั้งนี้ยังตอกย้ำว่าจีนยังคงต้องพึ่งพาซัพพลายเออร์จากต่างประเทศสำหรับเครื่องบินโดยสารเพื่อตอบสนองความต้องการในการเดินทางทางอากาศของประชากร ในขณะที่แอร์บัสเป็นซัพพลายเออร์ที่สำคัญกว่าและสายการบินของจีนกำลังหวังพึ่งเครื่องบิน Comac C919 ที่ผลิตในประเทศเพื่อเสริมความต้องการเครื่องบินลำตัวแคบ สายการบินต่างๆ ยังคงมีเครื่องบินโบอิ้งอยู่ในฝูงบินหลายร้อยลำซึ่งต้องการการบำรุงรักษา ซ่อมแซม และทดแทน

   จีนประกาศเมื่อวันศุกร์ว่าจะเก็บภาษี 125% กับสินค้าจากสหรัฐฯ ทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน ซึ่งเป็นการยกระดับความตึงเครียดล่าสุดที่เริ่มต้นเมื่อทรัมป์เรียกเก็บภาษีเพิ่มจากสหรัฐฯ โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการขาดดุลการค้าของอเมริกา เมื่อรวมกับภาษี 20% ที่เรียกเก็บก่อนหน้านี้ในปีนี้เกี่ยวกับบทบาทของจีนในการค้ายาเฟนทานิล ทำให้อัตราภาษีของสหรัฐฯ ที่เก็บจากจีนอยู่ที่ 145% ในปัจจุบัน

   โบอิ้งยังมีเครื่องบินที่ผลิตเสร็จแล้วจำนวนมากในคลังสินค้าซึ่งเดิมมีวัตถุประสงค์สำหรับสายการบินของจีน ผู้ผลิตเครื่องบินสัญชาติอเมริกันได้เตือนว่า ข้อพิพาททางการค้าที่ทวีความรุนแรงอาจส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานที่ตึงเครียดอย่างหนักจากการระบาดใหญ่และเพิ่งแสดงสัญญาณว่าจะกลับสู่ภาวะปกติเมื่อไม่นานมานี้

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.bloomberg.com/news/articles/2025-04-15/china-tells-airlines-stop-taking-boeing-jets-as-trump-tariffs-expand-trade-war