.

อาเซียนเร่งกระชับสัมพันธ์จีน คาดเจรจา FTA 3.0 เสร็จสิ้นปีนี้ เลขาฯ ยืนยันนโยบายการค้าเสรี ต้านกระแสกีดกันทางการค้า
14-4-2025
สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN -อาเซียน) ยืนยันความมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์แบบรอบด้านกับจีนและยึดมั่นในหลักการความร่วมมือพหุภาคี นายเกา คิม โฮร์น เลขาธิการอาเซียนเปิดเผยในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่า นับตั้งแต่การยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีสู่ความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์แบบรอบด้านในปี 2564 มูลค่าการค้าระหว่างอาเซียนและจีนเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทั้งสองฝ่ายมีสถานะเป็นคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของกันและกัน
เลขาธิการอาเซียนระบุว่า การเจรจาความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (FTA) เวอร์ชัน 3.0 ซึ่งได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญเกือบทั้งหมดแล้ว จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจดิจิทัล อุตสาหกรรมสีเขียว เศรษฐกิจทางทะเล (Blue Economy) และการปรับปรุงพิธีการศุลกากรให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น "เราคาดว่าความตกลง FTA อาเซียน-จีน 3.0 จะเสร็จสมบูรณ์ภายในปีนี้ ซึ่งจะนำมาซึ่งศักยภาพทางเศรษฐกิจมหาศาลให้กับทั้งสองฝ่าย" นายเกากล่าว
เขายังเสริมว่า อาเซียนกำลังร่วมมือกับจีนในการยกระดับความร่วมมือด้านการเชื่อมโยงระหว่างกัน การท่องเที่ยว การเกษตร และการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนกับประชาชน "เราจะลดภาษีศุลกากรลงเหลือศูนย์ในหลายรายการสินค้า และจะขยายขอบเขตไปสู่ทุกภาคส่วน ซึ่งจะช่วยให้อาเซียนอยู่บนเส้นทางที่จะพัฒนาไปสู่การเป็นตลาดเดียวอย่างแท้จริงในอนาคต" นายเกากล่าว
*ต้านกระแสกีดกันทางการค้า*-เลขาธิการอาเซียนยังแสดงจุดยืนชัดเจนของอาเซียนในการรักษาหลักการการค้าเสรีท่ามกลางกระแสการปกป้องทางการค้าที่เพิ่มสูงขึ้นในเวทีโลก
นายเกาชี้ให้เห็นว่า เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับแนวโน้มที่น่ากังวล ทั้งการเพิ่มขึ้นของอุปสรรคด้านภาษีศุลกากร นโยบายคุ้มครองทางการค้า และการแยกตัวทางเศรษฐกิจ "เราไม่ควรเข้าร่วมกับกลุ่มที่กำลังเดินไปในทิศทางนั้น เราต้องยึดมั่นในสิ่งที่เราดำเนินการมาโดยตลอด นั่นคือการรักษาระบบเศรษฐกิจและการค้าโลกให้เปิดกว้าง เสรี และอยู่บนพื้นฐานของกฎกติกา" เขากล่าว
นายเกายังระบุว่า แนวคิดพหุภาคีของอาเซียนสอดคล้องอย่างใกล้ชิดกับข้อริเริ่มระดับโลกที่จีนเสนอ ทั้งข้อริเริ่มการพัฒนาโลก ข้อริเริ่มความมั่นคงโลก และข้อริเริ่มอารยธรรมโลก "ข้อริเริ่มระดับโลกเหล่านี้จะมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองของโลกอย่างแท้จริง" นายเกากล่าว
ในขณะที่อาเซียนกำลังเตรียมการประกาศวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน 2045 นายเกาเรียกร้องให้มีการประสานข้อริเริ่ม "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" (Belt and Road Initiative) ของจีนเข้ากับยุทธศาสตร์ใหม่ของอาเซียน เพื่อส่งเสริมความร่วมมือต่อเนื่องในด้านพลังงาน โครงข่ายไฟฟ้า และเครือข่ายการขนส่ง
เลขาธิการอาเซียนเน้นย้ำว่า ความร่วมมือด้านพลังงานหมุนเวียนและยานยนต์ไฟฟ้ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของอาเซียน โดยเรียกร้องให้มีการพัฒนานวัตกรรมร่วมกันในเทคโนโลยีการแปรรูปขยะเป็นพลังงานและเทคโนโลยีการรีไซเคิล ในขณะเดียวกัน การผลักดันด้านดิจิทัลของอาเซียน ซึ่งรวมถึงการสร้างกรอบความร่วมมือที่มีผลผูกพันในระดับภูมิภาค จะเปิดโอกาสให้เกิดความร่วมมือกับจีนในด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะ เขากล่าว
นายเกายังให้ความสำคัญกับการใช้กลไกความร่วมมือที่มีอยู่ระหว่างอาเซียนและจีนในการรับมือกับการหลอกลวงทางออนไลน์และอาชญากรรมข้ามชาติประเภทอื่นๆ จิตวิญญาณบันดุง ปี 2568 ถือเป็นวาระครบรอบ 70 ปีของการประชุมบันดุง นายเกากล่าวว่า "เราต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาและความเจริญรุ่งเรือง และแน่นอนว่า เราต้องแก้ไขความขัดแย้งด้วยวิธีการที่สันติ และละเว้นการใช้กำลัง เห็นได้ชัดว่านี่คือจิตวิญญาณที่สืบทอดมาจากปฏิญญาบันดุง" เขากล่าวเสริม
---
IMCT NEWS : Photo Kao Kim Hourn-(Xinhua/Xu Qin)
ที่มา https://english.news.cn/20250413/99e5e855609c4edb8e33b884b66b322c/c.html