.

คณะกรรมการกำกับการแข่งขันของสหรัฐฯ เดินหน้าฟ้อง Meta หวังบังคับแยกบริษัท
16-4-2025
สื่อต่างประเทศหลายแห่งรายงานว่า หน่วยงานกำกับดูแลการแข่งขันทางการค้าของสหรัฐฯ (FTC) กำลังผลักดันให้มีการแยกยักษ์ใหญ่โซเชียลมีเดียอย่าง Meta ออกเป็นหลายส่วน จากข้อกล่าวหาว่าบริษัทผูกขาดตลาดอย่างไม่เป็นธรรมด้วยการเข้าซื้อ Instagram และ WhatsApp รายงานดังกล่าวเกิดขึ้นพร้อมกับการเปิดฉากการไต่สวนคดีต่อต้านการผูกขาดครั้งประวัติศาสตร์ที่ศาลรัฐบาลกลางในกรุงวอชิงตัน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา FTC กล่าวหา Meta ว่าใช้อำนาจเหนือตลาดในทางที่ผิด โดยดำเนินกลยุทธ์ “ซื้อหรือฝัง” เพื่อกำจัดคู่แข่งที่อาจเป็นภัยในอนาคต
Meta ซึ่งเป็นเจ้าของ Facebook ได้เข้าซื้อแอปแชร์รูปภาพ Instagram ในปี 2012 และแอปส่งข้อความ WhatsApp ในปี 2014 แม้ FTC จะเคยอนุมัติการซื้อกิจการทั้งสองครั้ง แต่ในตอนนี้ หน่วยงานระบุว่า Meta จ่ายเงินเกินมูลค่าที่แท้จริง (1 พันล้านดอลลาร์สำหรับ Instagram และ 19 พันล้านดอลลาร์สำหรับ WhatsApp) เพื่อป้องกันการแข่งขันในอนาคต
หากผู้พิพากษาตัดสินเข้าข้างรัฐบาล Meta อาจถูกบังคับให้แยกกิจการ โดยต้องขาย Instagram และ WhatsApp ออกไป นักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมเชื่อว่าคดีนี้อาจเพิ่มแรงกดดันต่อบริษัทยักษ์ใหญ่อื่น ๆ ในกลุ่ม Big Tech ในถ้อยแถลงเปิดคดี แดเนียล มาเธสัน ทนายของ FTC กล่าวว่า Meta ทำกำไรมหาศาลแม้ความพึงพอใจของผู้บริโภคลดลง โดยนำเสนออีเมลที่ย้อนหลังไปถึงปี 2011 และ 2012 ซึ่งมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (ขณะนั้นเป็น CEO ของ Facebook) ระบุว่า Instagram เป็นแอปที่ “เติบโตอย่างรวดเร็ว” และมีศักยภาพน่าจับตามอง
มาเธสันชี้ว่า ข้อความในปี 2012 ที่ซักเคอร์เบิร์กพูดถึงความสำคัญของการ “ทำให้ Instagram หมดพิษสง” เป็น “หลักฐานเด็ด” ที่ชี้ให้เห็นเจตนาผูกขาด
ซักเคอร์เบิร์ก ซึ่งขึ้นให้การในวันจันทร์ กล่าวว่า อีเมลดังกล่าวเป็นเพียงการสนทนาในระยะเริ่มต้นเกี่ยวกับการซื้อกิจการเท่านั้น และเขายืนยันว่า Meta ได้ปรับปรุง Instagram อย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในวันอังคาร ซึ่งเป็นวันที่สองของการให้การ ซักเคอร์เบิร์กยอมรับว่าบริษัทซื้อ Instagram เพราะ “กล้องถ่ายรูปของแอปดีกว่า” ที่ Meta พยายามพัฒนาเองในขณะนั้น
Meta ตกลงจ่ายทรัมป์ 25 ล้านดอลลาร์ – สื่อเผย
ทนายของ Meta ปฏิเสธข้อกล่าวหาของ FTC โดยอ้างว่าบริษัทต้องเผชิญกับการแข่งขันอย่างหนักจากแพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น TikTok ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติจีน คดีนี้เป็นส่วนหนึ่งของการปราบปรามบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่เริ่มต้นขึ้นในสมัยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยคดีเดิมที่ยื่นในปี 2020 ถูกศาลยกฟ้องในอีก 6 เดือนต่อมา
ตั้งแต่ทรัมป์กลับเข้าสู่ทำเนียบขาว Meta ได้พยายามกระชับความสัมพันธ์กับรัฐบาลชุดใหม่ โดยบริจาคเงินให้กองทุนพิธีสาบานตนของทรัมป์ และผ่อนคลายนโยบายควบคุมเนื้อหาบนแพลตฟอร์ม ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา Meta ตกลงจ่ายเงินให้ทรัมป์ 25 ล้านดอลลาร์ เพื่อยุติคดีฟ้องร้องเกี่ยวกับการระงับบัญชีของเขาหลังเหตุการณ์จลาจลที่รัฐสภาเมื่อปี 2021 โดยซักเคอร์เบิร์กยังได้เดินทางไปเยือนทำเนียบขาวในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
คดีอาจส่งผลต่อผู้ใช้กว่า 3.5 พันล้านคนทั่วโลก
คดีนี้อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ใช้กว่า 3.5 พันล้านคนทั่วโลกที่ใช้งาน Facebook, Instagram หรือ WhatsApp เป็นประจำ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า คดีนี้อาจยืดเยื้อไปอีกหลายปี เนื่องจากทั้งสองฝ่ายมีแนวโน้มจะยื่นอุทธรณ์หากผลการตัดสินไม่เป็นไปตามที่ต้องการ
ที่มา RT