หาก iPhone "ผลิตในสหรัฐอเมริกา" จะมีราคาเท่าไหร่?

ขอบคุณภาพจาก RT, Global Times

14-4-2025

   CNBC เผยแพร่รายงานวิเคราะห์ หลังประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศงดเว้นภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าประเภทอิเล็กทรอนิกส์จากจีน โดยระบุถึงยุคของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่ได้พูดคุยกับสตีฟ จ็อบส์ ซีอีโอผู้ล่วงลับของ Apple เกี่ยวกับการผลิต iPhone ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งจ็อบส์ระบุว่า “งานพวกนั้นจะไม่กลับมาอีก” ปัจจุบัน แม้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และซีอีโอของ Apple จะเปลี่ยนแปลงไป แต่ความทะเยอทะยานในการผลิต iPhone ที่ "ผลิตในสหรัฐอเมริกา" ยังคงอยู่

    ทำเนียบขาวกล่าวปกป้อง "ภาษีศุลกากรตอบโต้" ในสัปดาห์นี้ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เชื่อว่าสหรัฐฯ มีแรงงานและทรัพยากรเพียงพอที่จะผลิต iPhone ในสหรัฐอเมริกา ทิม คุก ซีอีโอของ Apple และใครก็ตามในบริษัทเทคโนโลยีแห่งนี้ต่างก็ออกมาสนับสนุนคำกล่าวอ้างดังกล่าว แต่บรรดานักวิเคราะห์ที่ติดตาม Apple กล่าวว่าแนวคิดในการผลิต iPhone ในสหรัฐอเมริกาเป็นไปไม่ได้ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด และมีราคาแพงมากในกรณีที่ดีที่สุด

    ด้านนักวิเคราะห์ของ Bank of America Securities Wamsi Mohan กล่าวในบันทึกเมื่อวันพฤหัสบดีว่า iPhone 16 Pro ซึ่งปัจจุบันมีราคาอยู่ที่ 1,199 ดอลลาร์ อาจเพิ่มขึ้น 25% หากพิจารณาจากต้นทุนแรงงานเพียงอย่างเดียว ซึ่งจะทำให้ราคาเครื่องอยู่ที่ประมาณ 1,500 ดอลลาร์

    Dan Ives จาก Wedbush ประเมินราคา iPhone ของสหรัฐฯ ไว้ที่ 3,500 ดอลลาร์ไม่นานหลังจากการประกาศภาษีศุลกากรเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยประเมินว่า Apple จะต้องจ่ายเงิน 3 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงสามปีเพื่อย้ายห่วงโซ่อุปทาน 10% ของตนไปยังสหรัฐฯ

    ขณะนี้ Apple ผลิตสินค้ามากกว่า 80% ในจีน ปัจจุบันสินค้าเหล่านี้ต้องเสียภาษี 145% เมื่อนำเข้ามาในสหรัฐฯ หลังจากที่ภาษีศุลกากรของทรัมป์มีผลบังคับใช้ในสัปดาห์นี้

    ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า iPhone ที่ “ผลิตในสหรัฐอเมริกา” จะเผชิญกับความท้าทายที่ร้ายแรง ตั้งแต่การหาและจ่ายเงินให้กับแรงงานในสหรัฐฯ ไปจนถึงต้นทุนภาษีศุลกากรที่ Apple จะต้องรับผิดชอบในการนำเข้าชิ้นส่วนมายังสหรัฐฯ เพื่อการประกอบขั้นสุดท้าย

    นักวิเคราะห์และผู้สังเกตการณ์ในอุตสาหกรรมต่างเห็นพ้องต้องกันว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ วอลล์สตรีทสงสัยมานานหลายปีแล้วว่า Apple จะทำ iPhone ของอเมริกาหรือไม่ “ฉันไม่คิดว่าจะมีอยู่จริง” ลอร่า มาร์ตินแห่ง Needham กล่าวติดตลกกับ CNBC เมื่อสัปดาห์นี้ “การที่ Apple จะย้ายการผลิตในกรอบเวลาของการกำหนดภาษีนั้นไม่ใช่เรื่องจริง มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้” เจฟฟ์ ฟิลด์แฮ็ก ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ Counterpoint Research กล่าว

    Apple ออกแบบผลิตภัณฑ์ในแคลิฟอร์เนีย แต่ผลิตโดยผู้ผลิตตามสัญญา เช่น Foxconn ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ที่สุดของบริษัทช แม้ว่า Apple จะทุ่มเงินมหาศาลเพื่อให้ Foxconn หรือพันธมิตรรายอื่นตกลงผลิต iPhone บางรุ่นในสหรัฐฯ แต่ต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะสร้างโรงงานและติดตั้งเครื่องจักร และไม่มีการรับประกันว่านโยบายการค้าของสหรัฐฯ จะไม่เปลี่ยนแปลงอีกครั้งในลักษณะที่ทำให้โรงงานมีประโยชน์น้อยลง ปัญหาใหญ่ที่สุดเกี่ยวกับ iPhone ของลุงแซมก็คือสหรัฐอเมริกาไม่มีแรงงานเท่ากับจีน แม้ว่าจำนวนแรงงานมหาศาลที่จำเป็นต่อการผลิต iPhone จะเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจรัฐบาลทรัมป์ก็ตาม “กองทัพมนุษย์หลายล้านคนที่ขันสกรูเล็กๆ เข้าด้วยกันเพื่อผลิต iPhone กำลังจะมาถึงอเมริกา” โฮเวิร์ด ลัทนิก รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์กล่าวทาง CBS เมื่อวันอาทิตย์

    Foxconn ในจีน ผลิต iPhone และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Apple ในวิทยาเขตขนาดใหญ่ที่มีหอพักและรถรับส่ง คนงานมักจะเดินทางจากภูมิภาคใกล้เคียงเพื่อมาทำงานที่โรงงานเป็นช่วงสั้นๆ และการจ้างงานจะเพิ่มขึ้นตามฤดูกาลในช่วงฤดูร้อนก่อนที่ iPhone รุ่นใหม่จะออกมาในฤดูใบไม้ร่วง ระบบที่ทำงานได้ดีนี้ช่วยให้ Apple ผลิต iPhone ได้มากกว่า 200 ล้านเครื่องต่อปี

   นอกจากนี้ Foxconn ยังตกอยู่ภายใต้การตรวจสอบเรื่องสภาพการทำงานของคนงานหลายครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รวมถึงในปี 2011 เมื่อบริษัทได้ติดตั้งตาข่ายรอบอาคารบางแห่งหลังจากคนงานฆ่าตัวตายจำนวนมาก กลุ่มตรวจสอบกล่าวว่างานของ Foxconn นั้นหนักหนาสาหัส และพนักงานก็ถูกกดดันให้ทำงานล่วงเวลา

   แม้จะมีสภาพการทำงานที่ดี Foxconn ก็ได้จ้างพนักงานเพิ่ม 50,000 คนในโรงงานที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทในเหอหนาน เพื่อสร้าง iPhone ให้เพียงพอสำหรับการเปิดตัวรุ่นล่าสุดในเดือนกันยายน ตามที่สื่อจีนรายงานเมื่อฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว (2024) อย่างไรก็ตาม คนงานชาวจีนได้รับค่าจ้างน้อยกว่าคนงานชาวอเมริกันมาก โดยค่าจ้างรายชั่วโมงในช่วงที่ iPhone 16 ได้รับความนิยมคือ 26 หยวน หรือ 3.63 ดอลลาร์สหรัฐฯ พร้อมโบนัสการเซ็นสัญญา 7,500 หยวน หรือประมาณ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ตามรายงานของ South China Morning Post เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ค่าจ้างขั้นต่ำในแคลิฟอร์เนียอยู่ที่ 16.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อชั่วโมง

   เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (10 เม.ย.) โมฮันแห่ง Bank of America Securities คาดว่าค่าแรงในการประกอบและทดสอบ iPhone ในสหรัฐฯ จะอยู่ที่ 200 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเครื่อง เพิ่มขึ้นจาก 40 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในจีน ขณะที่ทิม คุก ซีอีโอของ Apple ยังกล่าวอีกว่าปัญหาอีกประการหนึ่งคือคนงานชาวอเมริกันไม่มีทักษะที่เหมาะสม ในบทสัมภาษณ์เมื่อปี 2017 คุกกล่าวว่าวิศวกรด้านเครื่องมือในสหรัฐอเมริกามีไม่เพียงพอ วิศวกรเหล่านี้ทำงานและกำหนดค่าเครื่องจักรที่นำการออกแบบอันซับซ้อนของ Apple ซึ่งมาในรูปแบบไฟล์คอมพิวเตอร์มาแปลงเป็นวัตถุจริง

   “สาเหตุคือมีทักษะจำนวนมากในสถานที่เดียว และเป็นประเภทของทักษะ” คุกกล่าวเมื่อถูกถามในงานประชุมว่าทำไม Apple จึงผลิตสินค้าจำนวนมากในประเทศจีน ขณะที่การประชุมของวิศวกรด้านเครื่องมือในประเทศจีนอาจใช้พื้นที่ได้ "หลายสนามฟุตบอล" แต่ในสหรัฐฯ การประชุมเพียงแห่งเดียวคงเป็นเรื่องยาก ตามที่คุกกล่าว

    ขณะเดียวกัน ความพยายามล่าสุดในการให้ Foxconn ย้ายการผลิตจำนวนมากไปยังสหรัฐฯ ล้มเหลว จากการที่ทรัมป์ประกาศการลงทุน 10,000 ล้านดอลลาร์จาก Foxconn เพื่อสร้างโรงงานในวิสคอนซินในปี 2017 แต่Apple ไม่เคยเข้าร่วมกับโรงงาน Foxconn ในวิสคอนซินอย่างเป็นทางการ แต่สิ่งนั้นไม่ได้หยุดทรัมป์จากการอ้างว่า Apple จะสร้าง "โรงงานที่สวยงามและใหญ่โต" สามแห่งในสหรัฐฯ

   Foxconn เปลี่ยนแผนหลายครั้งสำหรับสิ่งที่โรงงานในวิสคอนซินจะผลิต แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจผลิตหน้ากากอนามัยระหว่างการระบาดใหญ่ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โรงงาน Foxconn ในวิสคอนซินถูกเสนอให้สร้างงาน 13,000 ตำแหน่ง แต่สร้างงานได้เพียง 1,454 ตำแหน่งเท่านั้น ซึ่งในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19 แผนการสร้างโรงงานถูกยกเลิก และโรงงานส่วนใหญ่ยังคงไม่ได้สร้าง

   Apple ร่วมงานกับ Foxconn ในปี 2011 เพื่อขยายการผลิต iPhone ไปยังบราซิลเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าที่สูงในประเทศนั้น โรงงานแห่งนี้ยังคงดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน และจะผลิตรุ่น iPhone 16 เพื่อช่วยให้ Apple หลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ตามรายงานของสื่อบราซิลเมื่อเร็วๆ นี้ แม้ว่าโรงงานมูลค่า 12,000 ล้านดอลลาร์จะเริ่มดำเนินการแล้ว แต่ส่วนประกอบส่วนใหญ่ยังคงนำเข้าจากเอเชีย และในปี 2015 ซึ่งเป็นเวลา 4 ปีหลังจากที่โรงงานได้รับการประกาศเปิดตัว iPhone ที่ผลิตในบราซิลมีราคาขายปลีกเป็นสองเท่าของ iPhone ที่ผลิตในจีน ตามรายงานของ Reuters อย่างไรก็ตาม ความพยายามล่าสุดของ Taiwan Semiconductor Manufacturing Co. (TSMC) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปหลักของ Apple ประสบความสำเร็จ ปัจจุบัน TSMC ผลิตชิปล้ำสมัยจำนวนเล็กน้อยที่โรงงานแห่งใหม่ในแอริโซนา และ Apple ก็เป็นลูกค้ารายสำคัญ

    แม้ว่า iPhone จะสามารถประกอบในอเมริกาได้ แต่ส่วนประกอบส่วนใหญ่ใน iPhone นั้นมาจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งทั้งหมดได้รับภาษีศุลกากร ชิ้นส่วนส่วนใหญ่ใน iPhone ผลิตในเอเชีย โปรเซสเซอร์ผลิตโดย TSMC ในไต้หวัน ส่วนจอภาพผลิตโดยบริษัทเกาหลีใต้ เช่น LG หรือ Samsung และส่วนประกอบอื่นๆ ส่วนใหญ่ผลิตในจีน

    Mohan จาก Bank of America Securities กล่าวว่า Apple อาจต้องเผชิญกับภาษีศุลกากรสำหรับชิ้นส่วนส่วนใหญ่เหล่านี้ เว้นแต่จะได้รับการยกเว้นภาษีสำหรับชิ้นส่วนแต่ละชิ้น เซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในชิ้นส่วนที่มีมูลค่ามากที่สุดใน iPhone ได้รับการยกเว้นภาษีศุลกากรในขณะนี้ เมื่อวันพุธ (9 เม.ย.) ทรัมป์ได้หยุดการเรียกเก็บภาษีศุลกากรส่วนใหญ่เป็นเวลา 90 วัน แต่หากการหยุดดังกล่าวสิ้นสุดลง iPhone 16 Pro Max ที่ผลิตในสหรัฐฯ อาจมีราคาเพิ่มขึ้น 91% เนื่องจากภาษีศุลกากรและต้นทุนแรงงานที่เพิ่มขึ้น Mohan เขียน “แม้ว่าอาจเป็นไปได้ที่จะย้ายการประกอบขั้นสุดท้ายไปยังสหรัฐฯ แต่การย้ายห่วงโซ่อุปทานของ iPhone ทั้งหมดจะเป็นงานที่ยิ่งใหญ่กว่ามาก และอาจใช้เวลานานหลายปี หากเป็นไปได้” Mohan เขียน

   แม้ว่า Jobs จะปิดกั้นแนวคิดเรื่อง iPhone สำหรับอเมริกาโดยสิ้นเชิงพร้อมกับ Obama แต่ Cook ไม่ได้ใช้แนวทางที่ตรงไปตรงมาเช่นเดียวกัน ในทางกลับกัน คุกได้นำกลยุทธ์ของ Apple เข้ามามีส่วนร่วมกับทรัมป์ รวมถึงการเข้าร่วมพิธีสาบานตนรับตำแหน่งของเขาในเดือนมกราคม Apple ยังประกาศว่าจะใช้เงิน 500 พันล้านดอลลาร์ภายในสหรัฐอเมริกา รวมถึงการผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI ในฮูสตัน ทรัมป์อ้างถึงการลงทุนดังกล่าวด้วยความเห็นชอบเป็นประจำ ซึ่งในช่วงการบริหารงานครั้งแรกของทรัมป์ กลยุทธ์ของคุกได้ผล

   แม้ว่าทรัมป์จะพูดถึง iPhone ที่มีแถบดาวและการสร้างโรงงานของ Apple ในสหรัฐอเมริกา แต่บริษัทเทคโนโลยีแห่งนี้ก็สามารถได้รับการยกเว้นชั่วคราวสำหรับผลิตภัณฑ์จำนวนมากที่ผลิตในจีน ซึ่งหมายความว่า Apple ไม่จำเป็นต้องจ่ายภาษีศุลกากรสำหรับอุปกรณ์สำคัญอย่าง iPhone การรุกคืบด้วยเสน่ห์ในช่วงดำรงตำแหน่งวาระแรกของทรัมป์สิ้นสุดลงในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปี 2019 เมื่อ Apple ขยายคำมั่นสัญญาในการประกอบ Mac Pro มูลค่า 3,000 ดอลลาร์ในโรงงาน Flex นอกเมืองออสติน รัฐเท็กซัส ทรัมป์เยี่ยมชมโรงงานพร้อมกับคุก

   ก่อนที่ Apple จะตัดสินใจผลิต iPhone สีแดง สีขาว และสีน้ำเงิน บริษัทอาจผลิตสินค้าหรืออุปกรณ์เสริมจำนวนน้อยในสหรัฐอเมริกาเพื่อเอาใจทรัมป์ นักวิเคราะห์วอลล์สตรีทกล่าว “เมื่อเราทราบแล้วว่ารัฐบาลทรัมป์เต็มใจที่จะเจรจา เราคงไม่แปลกใจหาก Apple ตัดสินใจผลิตสินค้าจำนวนน้อยในสหรัฐอเมริกา (HomePod หรือ AirTags) ซึ่งคล้ายกับที่ Apple ตัดสินใจผลิต Mac Pro รุ่นใหม่ในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส เมื่อเดือนกันยายน 2019 เพื่อพยายามขอยกเว้นภาษี” Erik Woodring นักวิเคราะห์ของ Morgan Stanley เขียนไว้ในบันทึกประจำวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (10 เม.ย.)

IMCT News

ที่มา https://www.cnbc.com/2025/04/11/heres-how-much-a-made-in-the-usa-iphone-would-cost.html