ยูเครนเชิญผู้นำยุโรปเยือนเคียฟวันที่ 9 พ.ค.

Thailand
ยูเครนเชิญผู้นำยุโรปเยือนเคียฟวันที่ 9 พ.ค. ตอบโต้พาเหรดฉลองชัยชนะของปูติน
15-4-2025
รัฐบาลของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ได้ส่งคำเชิญให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของยุโรปเดินทางเยือนกรุงเคียฟในวันที่ 9 พฤษภาคม เพื่อแสดงพลังทางการทูตตอบโต้ขบวนพาเหรดทางทหารประจำปีของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ที่กรุงมอสโกในวันเดียวกัน
อันดรี ซิบีฮา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยูเครน ได้ส่งคำเชิญดังกล่าวให้แก่เพื่อนร่วมงานในสหภาพยุโรประหว่างการประชุมที่ลักเซมเบิร์กเมื่อวันจันทร์ โดยเรียกร้องให้พวกเขา "แสดงความสามัคคีและความมุ่งมั่นของเราในการเผชิญหน้ากับการรุกรานครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง" ความพยายามในการดึงความสนใจจากมอสโกเกิดขึ้นกว่าสามปีหลังจากที่ปูตินเปิดฉากการรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบ และในช่วงเวลาที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กำลังพยายามเป็นตัวกลางเจรจาหยุดยิงระหว่างสองประเทศ
นอกจากนี้ ซิบีฮายังเผยว่า ประธานาธิบดีเซเลนสกีมีความประสงค์จะพบกับผู้นำจากกลุ่มประเทศที่สมัครใจให้การสนับสนุน (coalition of the willing) ในเดือนพฤษภาคม เพื่อ "กำหนดหลักประกันความปลอดภัย" สำหรับยูเครนหลังจากที่อาจมีการตกลงหยุดยิงกับรัสเซีย โดยเน้นย้ำว่าสหรัฐฯ ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มพันธมิตรดังกล่าว
แม้ว่าซิบีฮาจะไม่ได้ระบุสถานที่จัดการประชุมดังกล่าว แต่นักการทูตสหภาพยุโรปสองคนซึ่งขอไม่เปิดเผยชื่อได้เปิดเผยว่า กำลังมีการหารือเกี่ยวกับการเยือนยูเครนในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมโดยผู้นำประเทศต่างๆ รวมถึงฟรีดริช เมิร์ซ ซึ่งคาดว่าจะได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเยอรมนีในอนาคตอันใกล้
รายงานจากสื่อรัสเซียระบุว่า ประธานาธิบดีปูตินได้ส่งคำเชิญไปยังผู้นำประเทศอิสราเอล จีน บราซิล สโลวาเกีย และเซอร์เบีย เพื่อร่วมเฉลิมฉลองวันครบรอบ 80 ปีของชัยชนะในสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่กรุงมอสโก โดยไม่ได้เชิญสหรัฐฯ หรือประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปส่วนใหญ่
ในอดีต อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช แห่งสหรัฐฯ และประธานาธิบดีฌัก ชีรัก แห่งฝรั่งเศสในขณะนั้น เคยเข้าร่วมชมการแสดงแสนยานุภาพทางทหารที่จัตุรัสแดงในมอสโกเมื่อปี 2548 (ค.ศ. 2005) แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่มีผู้นำชาติตะวันตกเข้าร่วมในงานดังกล่าว
จนถึงปัจจุบัน รัสเซียยังคงเพิกเฉยต่อแรงกดดันให้หยุดโจมตียูเครน โดยล่าสุดได้ก่อเหตุโจมตีด้วยขีปนาวุธพิสัยไกลที่เมืองซูมี ใจกลางยูเครน ในวันอาทิตย์ใบลาน (Palm Sunday) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 34 ราย และบาดเจ็บกว่า 170 ราย การโจมตีครั้งนี้ได้รับการประณามอย่างกว้างขวางจากผู้นำประเทศต่างๆ รวมถึงแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ
ด้านประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่าการโจมตีดังกล่าวเป็นเรื่อง "เลวร้าย" แต่ไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์รัสเซียโดยตรงแต่อย่างใด
---
IMCT NEWS
© Copyright 2020, All Rights Reserved