ทรัมป์ผ่อนปรนภาษีสินค้าเทคโนโลยีจากจีน-เอเชีย: iPhone, ชิป AI และอุปกรณ์ TSMC-ASML ไม่ต้องเสียภาษี 125%

13-4-2025

    Bloomberg รายงานว่า Apple, Nvidia, TSMC, Samsung และผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จากจีน ไต้หวัน เกาหลีใต้ ได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้า แม้อาจเป็นเพียงการผ่อนปรนชั่วคราว**  รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศยกเว้นสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ จากมาตรการภาษีนำเข้าที่เรียกว่า "ภาษีตอบโต้" ซึ่งถือเป็นการบรรเทาครั้งสำคัญสำหรับผู้ผลิตเทคโนโลยีระดับโลก โดยเฉพาะ Apple Inc., Nvidia Corp., Samsung Electronics, ASML Holding และ Taiwan Semiconductor Manufacturing Co. (TSMC) รวมถึงผู้ผลิตจากจีน ไต้หวัน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และเนเธอร์แลนด์ แม้ว่าจะเป็นเพียงมาตรการชั่วคราวก็ตาม

    การยกเว้นดังกล่าวซึ่งเผยแพร่เมื่อปลายวันศุกร์โดยสำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ (US Customs and Border Protection) มีผลให้สินค้าเหล่านี้ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าในอัตรา 125% สำหรับสินค้าจากจีน และไม่ต้องเสียภาษีพื้นฐาน 10% ที่จัดเก็บจากเกือบทุกประเทศ

    รายการสินค้าที่ได้รับการยกเว้นประกอบด้วยสมาร์ทโฟน (เช่น iPhone ของ Apple และ Galaxy ของ Samsung), คอมพิวเตอร์แล็ปท็อป (เช่น MacBook, iPad), ฮาร์ดไดรฟ์, โปรเซสเซอร์คอมพิวเตอร์ (CPU), ชิปหน่วยความจำ, และหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ที่ใช้ในระบบ AI จาก Nvidia รวมถึง Apple Watch และ AirTag แต่ไม่รวม AirPods ซึ่งล้วนเป็นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ยอดนิยมที่โดยทั่วไปไม่ได้ผลิตในสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังรวมถึงเครื่องจักรผลิตเซมิคอนดักเตอร์จาก ASML ของเนเธอร์แลนด์และ Tokyo Electron ของญี่ปุ่น

   มาตรการหยุดชั่วคราวนี้นับเป็นข่าวดีสำหรับผู้บริโภค ซึ่งบางส่วนได้เร่งซื้อ iPhone รุ่นใหม่และอุปกรณ์อื่นๆ เนื่องจากกังวลว่าภาษีนำเข้าจะทำให้ราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นชัยชนะครั้งสำคัญของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่ให้คำมั่นลงทุนในสหรัฐฯ จำนวนมหาศาลแก่ทรัมป์ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ การประกาศขึ้นภาษีนำเข้าของทรัมป์ได้สร้างความปั่นป่วนให้ตลาดทั่วโลก กระตุ้นให้เกิดการเทขายหุ้น และจุดชนวนสงครามการค้ากับจีนที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว

    การเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นการผ่อนปรนครั้งแรกที่มีนัยสำคัญในความขัดแย้งระหว่างทรัมป์กับจีน โดยมีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ 5 เมษายน "ตอนนี้ผมรู้สึกสบายใจมาก" ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันเมื่อวันศุกร์ พร้อมชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างเขากับประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง "และผมเชื่อว่าจะมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นจากเรื่องนี้" อย่างไรก็ตาม การผ่อนผันภาษีครั้งนี้อาจเป็นเพียงชั่วคราว การยกเว้นมีที่มาจากคำสั่งเริ่มต้นที่ป้องกันไม่ให้ภาษีเพิ่มเติมในบางภาคส่วนถูกซ้อนทับกับอัตราภาษีระดับประเทศ การยกเว้นนี้เป็นสัญญาณว่าสินค้าเหล่านี้อาจต้องเสียภาษีในรูปแบบอื่นในไม่ช้า แม้จะเป็นอัตราที่ต่ำกว่าสำหรับจีนก็ตาม

    สินค้าที่ไม่ต้องเสียภาษีใหม่ของทรัมป์ยังรวมถึงเครื่องจักรที่ใช้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับ Taiwan Semiconductor Manufacturing Co. (TSMC) ที่ประกาศการลงทุนครั้งใหญ่ในสหรัฐฯ รวมถึงผู้ผลิตชิปรายอื่นๆ "สินค้าทั้งหมดที่จัดอยู่ในประเภทตามที่ระบุไว้นี้จะได้รับการยกเว้นจากภาษีตอบโต้" เอกสารประกาศระบุ

    มาตรการดังกล่าวยังยกเว้นสินค้าจากภาษีพื้นฐาน 10% ที่ใช้กับประเทศอื่นๆ รวมถึงเกาหลีใต้ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัท Samsung Electronics Co. อย่างไรก็ตาม การผ่อนผันภาษีนี้ไม่ครอบคลุมถึงภาษีอื่นๆ ที่ทรัมป์เรียกเก็บจากจีน เช่น ภาษี 20% ที่ใช้กดดันปักกิ่งให้ปราบปรามเฟนทานิลและการขนส่งสารตั้งต้น ภาษีอื่นๆ ที่มีอยู่ก่อนหน้า รวมถึงที่เรียกเก็บก่อนวาระปัจจุบันของทรัมป์ ก็ไม่ได้รับผลกระทบเช่นกัน

    "อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสหรัฐฯ มีเสียงดังมาก และแม้จะมีการต่อต้านการยกเว้นภาษีอย่างรุนแรงในทำเนียบขาวช่วงแรก แต่ในที่สุดความเป็นจริงของสถานการณ์ก็ได้รับการยอมรับในวอชิงตัน" แดเนียล ไอฟส์ นักวิเคราะห์จาก Wedbush Securities เขียนในบันทึกวิจัยเมื่อวันเสาร์ "ยังคงมีความไม่แน่นอนและความผันผวนชัดเจนในการเจรจากับจีนที่รออยู่ข้างหน้า"

    รายการยกเว้นภาษีเดิมได้รวมผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์บางชนิด เช่น หน่วยประมวลผลกลาง (CPU) แต่มาตรการดังกล่าวไม่ได้แยกผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีสำคัญสำหรับการพัฒนา AI รวมถึงหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) และเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ชิปเหล่านี้ขับเคลื่อน เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ชิป AI จากบริษัทอย่าง Nvidia และส่วนประกอบสำคัญส่วนใหญ่ถูกผลิตและประกอบในไต้หวันและเม็กซิโก

   การประกาศเมื่อวันศุกร์จะครอบคลุมการผลิตทั้งในไต้หวันและเม็กซิโก ซึ่งเป็นการผ่อนคลายที่สำคัญสำหรับบริษัทที่ต้องการสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ในสหรัฐฯ การยกเว้นใหม่สำหรับอุปกรณ์การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ผลิตโดยบริษัทอย่าง ASML Holding NV ในเนเธอร์แลนด์และ Tokyo Electron Ltd. ในญี่ปุ่น ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เครื่องมือเหล่านี้จำเป็นสำหรับการสร้างโรงงานผลิตชิป และมีสัดส่วนมากที่สุดของงบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์ในการสร้างโรงงานดังกล่าว บริษัทต่างๆ รวมถึง TSMC, Samsung และ Intel Corp. กำลังสร้างโรงงานใหม่ในสหรัฐฯ โดยได้รับการสนับสนุนจากกฎหมาย Chips and Science Act ปี 2022

   ตัวแทนของ Nvidia ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น ในขณะที่โฆษกจาก ASML และ Tokyo Electron ไม่ได้ตอบกลับคำขอความเห็นในทันที การยกเว้นตามภาคส่วนอย่างหนึ่งคือสำหรับเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งทรัมป์ให้คำมั่นอยู่เสมอว่าจะใช้มาตรการภาษีเฉพาะ แม้ว่ายังไม่ได้ดำเนินการ แต่การยกเว้นล่าสุดดูเหมือนจะสอดคล้องกับแนวคิดนั้น

    การเคลื่อนไหวครั้งนี้ยกเว้นผลิตภัณฑ์หลักของ Apple ส่วนใหญ่จากภาษีที่เพิ่มขึ้นกับจีน รวมถึง iPhone ทุกรุ่น (iPhone 15, iPhone 15 Pro, iPhone 15 Pro Max), iPad (iPad Pro, iPad Air, iPad mini), Apple Watch (Series 9, Ultra 2) และ AirTag แต่ไม่รวม AirPods (AirPods Pro, AirPods 3) และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ หุ้นของ Apple ปรับตัวลดลงนับตั้งแต่ทรัมป์ประกาศมาตรการภาษี และคาดว่าจะได้รับแรงหนุนจากข่าวนี้ เช่นเดียวกับหุ้น Nvidia ที่อาจได้ประโยชน์จากการยกเว้นภาษีสำหรับชิป GPU รุ่น H100 และ A100 ที่ใช้ในการพัฒนา AI

    การหารือเรื่องนี้มีความเร่งด่วนมากขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากทรัมป์เพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน ซึ่งทำให้บริษัทอย่าง Apple อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากกว่าคู่แข่งอย่าง Samsung ที่พึ่งพาการผลิตในจีนน้อยกว่า บริษัทต่างๆ และกลุ่มล็อบบี้อุตสาหกรรมเทคโนโลยีได้ชี้แจงว่าการย้ายการประกอบขั้นสุดท้ายของสมาร์ทโฟนและผลิตภัณฑ์อื่นๆ กลับมายังสหรัฐฯ นั้นเป็นไปไม่ได้ ตามที่บุคคลที่คุ้นเคยกับการหารือระบุ  อย่างไรก็ตาม มาตรการนี้ยังมีเป้าหมายเพื่อวางรากฐานสำหรับภาษีเฉพาะภาคส่วนใหม่ที่อาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมนี้ในอนาคต

   คาดว่ารัฐบาลจะเริ่มการสอบสวนใหม่เกี่ยวกับการนำเข้าเซมิคอนดักเตอร์ในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะนำไปสู่การกำหนดภาษีนำเข้าชิปภายในไม่กี่สัปดาห์ ภาษีเหล่านี้ เช่นเดียวกับที่เรียกเก็บกับเหล็กและอลูมิเนียมเมื่อไม่นานมานี้ มีแนวโน้มที่จะกำหนดภาษีกับผลิตภัณฑ์ที่มีเซมิคอนดักเตอร์เป็นส่วนประกอบ รวมถึงตัวชิปเอง "การยกเว้นผลิตภัณฑ์กำลังจะเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้" เวนดี้ คัตเลอร์ อดีตผู้เจรจาการค้าอาวุโสของสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันทำงานที่สถาบันนโยบายเอเชีย (Asia Society Policy Institute) กล่าว

    คัตเลอร์ระบุว่าการเคลื่อนไหวนี้จะส่งผลกระทบต่อการเจรจาที่รัฐบาลทรัมป์กำลังเริ่มต้นกับประเทศอื่นๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการระงับภาษีใหม่บางส่วนเป็นเวลา 90 วัน  "บริษัทและประเทศอื่นๆ จะเร่งความพยายามในการขอข้อยกเว้นของตนเอง ซึ่งจะทำให้การเจรจา 90 วันที่กำลังดำเนินอยู่มีความซับซ้อนยิ่งขึ้น" เธอกล่าว

    จนถึงขณะนี้ ภาษีตามภาคส่วนของทรัมป์อยู่ที่ 25% แม้ว่ายังไม่ชัดเจนว่าอัตราภาษีสำหรับเซมิคอนดักเตอร์และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องจะเป็นเท่าใด และยังไม่แน่ชัดว่าเขาจะใช้มาตรการภาษีนี้ในวงกว้างเพียงใด ทำเนียบขาว คณะกรรมการการค้าระหว่างประเทศสหรัฐฯ สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ และกระทรวงพาณิชย์ไม่ได้ตอบสนองต่อคำขอแสดงความคิดเห็นในทันที

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.bloomberg.com/news/articles/2025-04-12/trump-exempts-phones-computers-chips-from-reciprocal-tariffs

-------------------------------------
ทรัมป์ยอมถอย ยกเว้นภาษีหลายรายการที่ต้องนำเข้าจากจีน

13-4-2025

   สมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์เป็นหนึ่งในอุปกรณ์เทคโนโลยีและชิ้นส่วนหลายอย่างที่จะได้รับการยกเว้นจากภาษีตอบแทนที่กำหนดโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตามแนวทางใหม่จากสำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ แนวทางดังกล่าว ซึ่งออกเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ผ่านมา มีขึ้นหลังจากที่ทรัมป์เมื่อต้นเดือนนี้กำหนดภาษี 145% สำหรับสินค้าจากจีน ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่อาจส่งผลกระทบต่อยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Apple ซึ่งผลิต iPhone และผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ในจีน

    แนวทางนี้ยังรวมถึงการยกเว้นสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนอื่น ๆ เช่น เซมิคอนดักเตอร์ เซลล์แสงอาทิตย์ จอทีวีแบบแบน หน่วยความจำแฟลช และการ์ดหน่วยความจำ สินค้าเหล่านี้อาจต้องเผชิญกับภาษีเพิ่มเติมในอนาคต แต่มีแนวโน้มว่าจะต่ำกว่าอัตรา 145% ที่ทรัมป์กำหนดไว้สำหรับสินค้าจากจีนอย่างมาก

    การยกเว้นนี้เป็นชัยชนะสำหรับบริษัทเทคโนโลยีอย่าง Apple ซึ่งผลิตผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ในจีน ตามข้อมูลของ Evercore ISI จีนผลิต iPad 80% และคอมพิวเตอร์ Mac มากกว่าครึ่งหนึ่งที่ผลิตได้ “นี่คือสถานการณ์ในฝันสำหรับนักลงทุนด้านเทคโนโลยี” แดน ไอฟส์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยเทคโนโลยีระดับโลกของ Wedbush Securities บอกกับ CNBC “การยกเว้นสมาร์ทโฟนและชิปเป็นสถานการณ์ที่เปลี่ยนเกมเมื่อพูดถึงภาษีจีน”  เขากล่าวเสริมว่าภาษีเหล่านี้เป็น “เมฆดำที่ครอบคลุมวงการเทคโนโลยีตั้งแต่วันแห่งการปลดปล่อย เพราะไม่มีภาคส่วนใดที่จะได้รับผลกระทบหนักกว่าบิ๊กเทค” “ผมคิดว่าสุดท้ายแล้ว ซีอีโอบิ๊กเทคได้พูดอย่างหนักแน่น และทำเนียบขาวต้องเข้าใจและรับฟังสถานการณ์ว่ามันจะเป็นหายนะสำหรับบิ๊กเทคหากมีการบังคับใช้” ไอฟส์กล่าว

    ในช่วงไม่กี่วันนับตั้งแต่การประกาศภาษีของทรัมป์ Apple สูญเสียมูลค่าตลาดไปกว่า 640,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ CNBC รายงานก่อนหน้านี้ ค่าใช้จ่ายของ iPhone ภายใต้แผนภาษีของทรัมป์อาจพุ่งสูงถึง 3,500 ดอลลาร์สหรัฐตามการประเมินบางส่วน

    นับตั้งแต่การประกาศภาษีของทรัมป์ หุ้นถูกเทขายอย่างหนักเมื่อความไม่แน่นอนและความผันผวนในวอลล์สตรีทพุ่งสูง ดัชนี S&P 500 ร่วงลงมากกว่า 5% ในช่วงเวลานั้นจนถึงการปิดตลาดวันศุกร์ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐาน พุ่งขึ้นกว่า 50 เบสิสพอยต์ในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในการกระโดดครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติการณ์ ขณะที่ผลกระทบจากนโยบายการค้าของทรัมป์ทำให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์สหรัฐฯ

    การเคลื่อนไหวที่สูงขึ้นของตลาดพันธบัตรอาจบีบให้ทำเนียบขาวต้องย้อนกลับบางส่วน รวมถึงการผ่อนผันภาษี 90 วันสำหรับประเทศส่วนใหญ่โดยเปลี่ยนเป็นอัตราภาษีสากล 10% ที่ประกาศเมื่อวันพุธ — ยกเว้นจีน สินค้าที่ได้รับการยกเว้นจากภาษีตอบแทนของทรัมป์ภายใต้แนวทางใหม่นี้มีผลย้อนหลังสำหรับสินค้าที่ออกจากคลังสินค้าโดยวันที่ 5 เมษายน 2568 ซึ่งให้ความชัดเจนและการวางแผนทางการเงินสำหรับผู้นำเข้าสหรัฐฯ ซึ่งรับผิดชอบในการชำระภาษีเมื่อสินค้ามาถึงหลายสัปดาห์ต่อมาที่ศุลกากรสหรัฐฯ เพื่อดำเนินการและปล่อยสินค้า

ที่มา CNBC

-------------------------------
ทำเนียบขาวเตือนจีนอย่าตอบโต้ภาษีเพิ่มเติม

13-4-2025

   ทำเนียบขาวเตือนจีนว่าการตอบโต้เพิ่มเติมด้วยการขึ้นภาษีศุลกากรจะไม่เป็นผลดีต่อผลประโยชน์ของปักกิ่ง ขณะที่สองมหาอำนาจเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกกำลังเผชิญหน้ากันในประเด็นการค้า โฆษกประจำทำเนียบขาว แคโรไลน์ ลีวิทท์ ระบุว่า มีกว่า 75 ประเทศติดต่อเข้ามายังรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อเริ่มการเจรจาการค้า ซึ่งเป็นสัญญาณว่านโยบายภาษีศุลกากรของวอชิงตันกำลังได้ผล เธอกล่าว “โทรศัพท์ดังไม่หยุดเพื่อเจรจาข้อตกลง” เธอกล่าวเมื่อวันศุกร์ระหว่างการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาว “ประเทศเหล่านี้ฉลาดพอที่รับฟังคำเตือนของประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ให้ตอบโต้... และได้รับรางวัลเป็นการพักภาษี 90 วันและอัตราภาษีตอบแทนที่ต่ำลงอย่างมาก” เธอกล่าวเสริม

     ในช่วงต้นเดือนเมษายน ทรัมป์กำหนดภาษีสากล 10% สำหรับสินค้านำเข้าทั้งหมดและภาษี “ตอบแทน” ที่สูงขึ้นสำหรับบางประเทศเพื่อส่งเสริมการผลิตในประเทศและแก้ไขความไม่สมดุลทางการค้า แม้ว่าภาษีที่สูงขึ้นส่วนใหญ่จะถูกระงับเป็นเวลา 90 วัน แต่จีนถูกยกเว้นจากช่วงผ่อนผันนี้  ภาษีรวมสำหรับสินค้าจีนถูกปรับขึ้นเป็น 145% เพื่อตอบโต้ จีนที่กำหนดภาษี 125%สำหรับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ จีนวิจารณ์การกระทำของวอชิงตันว่าเป็น “การกลั่นแกล้งทางเศรษฐกิจ” และเตือนว่าการยกระดับต่อไปจะทำให้สหรัฐฯ กลายเป็น “ตัวตลก” ในประวัติศาสตร์เศรษฐกิจโลก

    เมื่อถูกถามตรง ๆ เกี่ยวกับจีน ลีวิทท์ย้ำจุดยืนของทรัมป์ “อัตราภาษีสำหรับจีนยังคงอยู่ที่ระดับ 145% เช่นเดียวกับเมื่อวานนี้” เธอยืนยัน ปักกิ่งส่งสัญญาณว่าการขึ้นภาษีล่าสุดอาจเป็นครั้งสุดท้าย และการเพิ่มขึ้นต่อไปจะไม่สมเหตุสมผลทางเศรษฐกิจ

นโยบายการค้าของทรัมป์อาจนำไปสู่วิกฤตในภูมิภาคนี้ได้อย่างไร   เมื่อถูกถามว่านี่หมายความว่าจีนกำลังถอยหรือไม่ ลีวิทท์กล่าวว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ทำให้เห็นชัดเจนว่า “เมื่อสหรัฐฯ ถูกโจมตี เขาจะโต้กลับหนักยิ่งกว่า”

    ลีวิทท์กล่าวว่ารัฐบาลยังคงเปิดกว้างสำหรับการเจรจา โดยอ้างว่าทรัมป์จะ “มีน้ำใจหากจีนตั้งใจทำข้อตกลงกับสหรัฐฯ” แต่เสริมโดยไม่ลงรายละเอียดว่า “หากจีนยังคงตอบโต้ต่อไป มันจะไม่ดีสำหรับจีน” เธอยังตอบโต้ผู้วิจารณ์ที่กล่าวว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ได้กดดันจีนหนักพอด้วยภาษี โดยกล่าวว่า “ทรัมป์กำลังดำเนินการอย่างกล้าหาญและเด็ดเดี่ยวในที่สุด” เธอเสริมว่าทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันพูดถึงจีนอย่างแข็งกร้าวมานานหลายปี แต่ “ไม่มีประธานาธิบดีคนใดที่มีความกล้า ความทุ่มเท หรือพลังที่จะรับมือกับภารกิจเช่นนี้”

IMCT News

-----------------------------------------
ทรัมป์สวนกระแสสงครามการค้า ชม 'สี จิ้นผิง' เป็นผู้นำที่ดีและฉลาด เผยอาจมีข้อยกเว้นภาษี 10% กับคู่ค้า

13-4-2025

    ประธานาธิบดีทรัมป์ระบุภาษี 10% เป็น "อัตราขั้นต่ำ" สำหรับคู่ค้าหลัก ขณะตลาดหุ้น-พันธบัตรผันผวนรุนแรง จีนยกระดับภาษีสินค้าสหรัฐถึง 125% ตอบโต้มาตรการของวอชิงตัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เปิดเผยว่าอาจมีข้อยกเว้นบางประการสำหรับมาตรการภาษีนำเข้าพื้นฐาน 10% ที่เขากำหนดกับคู่ค้าส่วนใหญ่ของสหรัฐฯ แม้จะยืนยันว่าอัตราดังกล่าวถือเป็น "เพดานขั้นต่ำ" สำหรับประเทศที่ต้องการเจรจาข้อตกลงทางการค้า "อาจมีข้อยกเว้นสองสามประการด้วยเหตุผลที่ชัดเจน แต่ผมขอยืนยันว่า 10% คือเพดานขั้นต่ำ" ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันระหว่างเดินทางไปฟลอริดาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ระบุถึง "เหตุผลที่ชัดเจน" เหล่านั้น และไม่ได้แสดงท่าทีถึงการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในวาระนโยบายภาษีของเขา

   ความเห็นของทรัมป์ดังกล่าวปิดท้ายสัปดาห์ที่ปั่นป่วนสำหรับตลาดหุ้นและพันธบัตร และเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นสำหรับประเทศต่างๆ นักลงทุน และภาคธุรกิจที่กำลังพยายามรับมือกับนโยบายการค้าของเขา ในสัปดาห์นี้ ประธานาธิบดีได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าครั้งใหญ่กับประเทศคู่ค้าหลายสิบประเทศ ก่อนจะประกาศเลื่อนการบังคับใช้มาตรการดังกล่าวออกไปเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเห็นตลาดการเงินปั่นป่วนอย่างหนัก เนื่องจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นว่าภาษีนำเข้าของทรัมป์อาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อเศรษฐกิจโลก

   ขณะที่จีน ซึ่งเป็นเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของโลกกำลังเผชิญกับภาษีนำเข้าในอัตรา 145% ทรัมป์ยังคงรักษาอัตราภาษีพื้นฐาน 10% สำหรับประเทศส่วนใหญ่ ในช่วงที่รัฐบาลต่างประเทศเร่งทำข้อตกลงกับรัฐบาลสหรัฐฯ

   เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฟื้นตัวจากการขาดทุน และทำผลงานสัปดาห์ที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2023 ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 1.8% หลังจากมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve) ระบุว่าธนาคารกลางพร้อมให้ความช่วยเหลือเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดหากจำเป็น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีลดลงจากระดับสูงสุดในวันศุกร์ แต่ยังคงเพิ่มขึ้นมากที่สุดเป็นรายสัปดาห์ในรอบกว่าสองทศวรรษ อย่างไรก็ตาม ความผันผวนในช่วงหลายวันที่ผ่านมาไม่มีทีท่าว่าจะบรรเทาลง โดยยังคงมีความกังวลว่าแคมเปญของทรัมป์ที่จะใช้มาตรการภาษีเพื่อดึงงานภาคการผลิตกลับคืนสู่สหรัฐฯ และเพิ่มรายได้ให้รัฐบาลกลางนั้น อาจผลักดันเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยและคุกคามสถานะของสหรัฐฯ ในฐานะแหล่งหลบภัยที่ปลอดภัยของโลก

   ทรัมป์พยายามลดความกังวลเกี่ยวกับความปั่นป่วนดังกล่าวเมื่อวันศุกร์ โดยกล่าวว่า "ผมคิดว่าตลาดยังแข็งแกร่งดีในวันนี้ ผมคิดว่าผู้คนกำลังเห็นว่าเราอยู่ในสถานะที่ยอดเยี่ยม" และเขายืนยันว่าดอลลาร์สหรัฐจะยังคงเป็น "สกุลเงินที่ได้รับความนิยม" "ตลอดไป" "หากประเทศใดประกาศว่าจะไม่ใช้ดอลลาร์ ผมบอกคุณได้เลยว่าภายในการโทรศัพท์เพียงครั้งเดียว พวกเขาจะกลับมาใช้ดอลลาร์อีกครั้ง คุณต้องรักษาดอลลาร์ไว้เสมอ" เขากล่าวเสริม

   ทรัมป์ยังไม่ให้ความสำคัญกับความผันผวนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งเขาระบุในสัปดาห์นี้ว่าเป็นปัจจัยที่ทำให้เขาปรับเปลี่ยนนโยบายภาษี "ตลาดพันธบัตรกำลังไปได้ดี มีช่วงเวลาสั้นๆ ที่มีปัญหา แต่ผมแก้ไขปัญหานั้นได้อย่างรวดเร็ว" เขากล่าว แม้จะมีการผ่อนปรนชั่วคราวสำหรับคู่ค้าอื่นๆ แต่อัตราภาษีสูงที่กำหนดกับจีนจะทำให้อัตราภาษีเฉลี่ยของสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ตามรายงานของ Bloomberg Economics ความขัดแย้งทางการค้าที่ยืดเยื้อระหว่างสองเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลกส่งผลกระทบต่อการค้ามูลค่า 690,000 ล้านดอลลาร์

   เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ปักกิ่งประกาศขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐทั้งหมดเป็น 125% สะท้อนมาตรการของทำเนียบขาวที่เพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในระดับเดียวกัน นอกเหนือจากภาษี 20% ที่มีอยู่เดิม จีนระบุว่าจะไม่ปรับขึ้นภาษีเพิ่มเติมอีก แต่ยังคงย้ำคำมั่นที่จะ "สู้จนถึงที่สุด" ด้วยมาตรการตอบโต้อื่นๆ ซึ่งไม่ได้ระบุรายละเอียด "ผมคิดว่าจะมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้น" ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันศุกร์เมื่อถูกถามเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้ากับจีน โดยเรียกประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ว่าเป็น "ผู้นำที่ดีมาก ผู้นำที่ฉลาดมาก"

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.bloomberg.com/news/articles/2025-04-12/trump-floats-possible-exceptions-to-10-baseline-tariff?srnd=phx-markets