ภาษีทรัมป์สร้างความเสียหายที่แก้กลับมาไม่ได้ต่อธุรกิจอเมริกันในไม่ช้า

13-4-2025

   iPhone ของ Apple และฮาร์ดแวร์เทคโนโลยีอื่น ๆ ตั้งแต่ชิปไปจนถึงพีซี ได้รับการผ่อนผันภาษีจากจีนจากประธานาธิบดีทรัมป์เมื่อวันเสาร์ แต่สำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กส่วนใหญ่ ความเสียหายจากภาษี 145% ที่กำหนดต่อสินค้านำเข้าจากจีนจะกลายเป็นสิ่งที่ไม่อาจแก้ไขได้ในไม่ช้า คำสั่งซื้อสินค้าขนส่งที่ถูกยกเลิกและการทิ้งสินค้าขนส่งจากจีนกำลังกลายเป็นเรื่องปกติในสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ตามที่ผู้บริหารด้านซัพพลายเชนระบุ ขณะที่ธุรกิจในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ของสหรัฐฯ หยุดการส่งออกตู้คอนเทนเนอร์อย่างสมบูรณ์ โดยภาษีนี้กระทบหนักเหมือนถูกทุบด้วยอิฐ

   “ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ในจีนเผชิญกับการหยุดรับคำสั่งซื้อจากผู้นำเข้าสหรัฐฯ อย่างสมบูรณ์ และเราได้ยินเช่นเดียวกันในกลุ่มของเล่น เสื้อผ้า รองเท้า และอุปกรณ์กีฬา” อลัน เมอร์ฟีย์ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Sea-Intelligence กล่าว

   “เราเจอสถานการณ์เดียวกันในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่หลังจากได้รับการผ่อนผัน 90 วัน การจองเหล่านั้นก็เริ่มกลับมา” ไบรอัน บูร์ก หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการค้าของ SEKO Logistics กล่าว ขณะที่การยกเลิกการจองตู้คอนเทนเนอร์จากจีนยังคงดำเนินต่อไป

   “เกือบทุกอย่างถูกระงับเมื่อพูดถึงธุรกิจกับจีน” อลัน แบร์ ซีอีโอของ OL USA กล่าว

   “ภาษีรวม 145% ของทรัมป์ต่อสินค้านำเข้าจากจีนจะหยุดการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนเกือบทั้งหมด” เอริกา ยอร์ก รองประธานฝ่ายนโยบายภาษีแห่งชาติของศูนย์นโยบายภาษีแห่งชาติของ Tax Foundation กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีในรายการ “The Exchange” ของ CNBC

   “อาจยังมีบางอย่างที่ไม่มีตัวทดแทน ซึ่งบริษัทต้องแบกรับค่าใช้จ่าย แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว มันจะตัดขาดการค้า” ยอร์กกล่าว

   เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาชัดเจนว่าจีนจะยังคงเป็นเป้าหมายหลักของนโยบายภาษีของรัฐบาลทรัมป์ — หลังจากที่ทุกประเทศอื่น ๆ ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากภาษีใหม่ได้รับการผ่อนผัน 90 วัน — ข้อความที่ส่งผ่านมาคือ สินค้าที่มีกำไรต่ำไม่สามารถผลิตในจีนได้อย่างยั่งยืน การยกเว้นภาษีใหม่สำหรับเทคโนโลยีสามารถอธิบายได้บางส่วนจากวิธีการทำงานของซัพพลายเชน แต่ยังย้ำถึงจุดที่ความเจ็บปวดจะรุนแรงที่สุด

   “สินค้าที่มีกำไรสูงและมีความซับซ้อนทางเทคนิค เช่น อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักร อุปกรณ์ทางการแพทย์ และยา ไม่สามารถย้ายแหล่งผลิตได้ง่าย ๆ เพราะการตั้งโรงงานผลิตที่มีความซับซ้อนสูงต้องใช้เวลาและเงินทุนจำนวนมาก” เมอร์ฟีย์กล่าว

    ก่อนการยกเว้นภาษีด้านเทคโนโลยี เขากล่าวว่าผู้ผลิตสินค้าเหล่านี้กำลังวิเคราะห์ว่าสามารถจัดหาชิ้นส่วนจากที่อื่นได้หรือไม่ ขณะที่มุ่งเน้นการลดสต็อกในสหรัฐฯ ในระยะสั้น มีความพยายามอย่างจริงจังในการย้ายการผลิตไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะเวียดนาม หรืออินเดีย การลดราคาไปยังยุโรปเพื่อรักษาการผลิต หรือการปิดสายการผลิตโดยสิ้นเชิง ก็ถูกพิจารณาด้วย

   ‘ไม่ใช่ความเสี่ยงหรือภาระที่ธุรกิจขนาดเล็กจะรับได้’

    สตีเฟน ลามาร์ ซีอีโอของสมาคมเครื่องนุ่งห่มและรองเท้าอเมริกัน กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างกะทันหันและภาษีที่สูงกำลังรบกวนซัพพลายเชนในระดับที่ไม่เคยเห็นตั้งแต่การระบาดใหญ่ “ด้วยระดับภาษีที่สูงจนเกินรับได้สำหรับสินค้านำเข้าจากจีน บริษัทหลายแห่งไม่มีทางเลือกนอกจากยกเลิกคำสั่งซื้อ” ลามาร์กล่าว “การเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างต่อเนื่องทำให้ต้นทุนภาษีใหม่ไม่สามารถคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำจนกว่าสินค้าจะมาถึงท่าเรือ และอัตราที่สูงกำลังสร้างค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถจ่ายได้ นั่นไม่ใช่ความเสี่ยงหรือภาระที่ธุรกิจขนาดเล็กจะรับได้”

    ลามาร์กล่าวว่าเมื่อไม่มีแหล่งจัดหาทางเลือกในอนาคตอันใกล้สำหรับบริษัทเหล่านี้ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็ก การขาดคำสั่งซื้ออย่างกะทันหันนี้จะแปรเปลี่ยนเป็นยอดขายที่สูญเสียไปและการขาดแคลนผลิตภัณฑ์อย่างกว้างขวางทันที “จำเป็นต้องมีการขยายเวลาการหยุดสงครามการค้ากับสินค้านำเข้าจากจีนในตอนนี้ ก่อนที่ความเสียหายจะกลายเป็นสิ่งที่ไม่อาจแก้ไขได้” ลามาร์กล่าว

    ยักษ์ใหญ่ด้านโลจิสติกส์ครบวงจร Maersk เตือนว่าในส่วนของธุรกิจตู้คอนเทนเนอร์ การลดลงของการจองควบคู่ไปกับความเป็นไปได้ของค่าธรรมเนียมการต่อเรือสำหรับเรือ “จีน” ที่จะมีผลในสัปดาห์หน้า จะส่งผลให้เกิด “การปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ของทุกบริการตู้คอนเทนเนอร์ไปยังอเมริกาเหนือ” “และจะใช้เวลาหลายเดือนในการแก้ไขความวุ่นวายนี้ พร้อมกับความแออัดและการพุ่งขึ้นของอัตราค่าระวางในอีกหลายเดือนข้างหน้า” Maersk เขียนถึงลูกค้า

ที่มา ซีเอ็นบีซี