.

ปีเตอร์ นาวาร์โร: นักเศรษฐศาสตร์ผู้ฉลาดเกมกว่าอีลอน มัสก์ และเป็นที่ปรึกษาคนโปรดของโดนัลด์ ทรัมป์
23-4-2025
ความปั่นป่วนในระบบการค้าโลกแสดงให้เห็นว่า ณ เวลานี้ ผู้ที่มีอิทธิพลต่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในห้องทำงานรูปไข่ ไม่ใช่มหาเศรษฐีเจ้าของ Tesla แต่คือ Peter Navarro นักเศรษฐศาสตร์วัย 75 ปี
Navarro เป็นที่ปรึกษาด้านการค้าหลักของทรัมป์ และถือเป็นผู้มีบทบาทสำคัญเบื้องหลังการตั้งกำแพงภาษีและสงครามการค้ากับจีน แม้แต่ Musk ผู้เป็น “ตัวปั่นป่วน” แห่งวงการเทคโนโลยียังไม่สามารถรับมือกับความโกลาหลนี้ได้ ขณะที่ Navarro กลับรักษาท่าทีมั่นใจและสงบนิ่ง ส่งสัญญาณให้สหรัฐฯ เชื่อมั่นว่าสถานการณ์ยังควบคุมได้
แม้จะถูก Musk วิจารณ์อย่างรุนแรงว่า “โง่จริงๆ” และ “เหมือนกองอิฐ” Navarro ยังคงนิ่งเฉย โดยกล่าวกับ NBC ว่า “ผมเคยโดนเรียกแย่กว่านี้อีกนะ” และก็เป็นความจริง เพราะเขาเคยถูกเรียกว่า “นักต้มตุ๋น” และ “อาชญากร” ที่อาจพาเศรษฐกิจโลกตกหน้าผา
นับเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่งสำหรับคนที่เมื่อสิบปีก่อน ยังเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยใกล้เกษียณที่ UC Irvine มหาวิทยาลัยชั้นดีในเขต Orange County ทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อแนวคิดแข็งกร้าวต่อจีนของ Navarro ไปเข้าตาทรัมป์ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งปี 2016 เขาจึงถูกดึงเข้าสู่เวทีการเมืองในวอชิงตัน และมีบทบาททั้งด้านนโยบายเศรษฐกิจ การรับมือโควิด-19 และแม้กระทั่งการพยายามล้มผลการเลือกตั้งปี 2020 — ซึ่งนำไปสู่การติดคุกในข้อหาละเมิดคำสั่งรัฐสภา แต่วันนี้เขากลับมาอีกครั้งในรัฐบาลทรัมป์ชุดที่สอง ด้วยอิทธิพลที่มากกว่าเดิม
“นี่คือประเทศแห่งการรีแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นภาพลักษณ์หรืออุดมการณ์ และเขาก็เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งนั้น” John Pitney นักรัฐศาสตร์จาก Claremont McKenna College กล่าว
นักวิจารณ์หลายคนกังวลว่า Navarro พยายามรื้อกฎเกณฑ์ทางเศรษฐกิจและระเบียบโลกหลังสงครามโลก ด้วยวิธีการที่ดุดันและเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่สำหรับทรัมป์แล้ว Navarro คือผู้เชี่ยวชาญที่กล้าเสนอแนวทางใหม่ในนามของ “การปกป้องประเทศ”
ชีวิตในวัยหนุ่มของ Navarro ดูเหมือนจะมุ่งไปในทิศทางอื่นโดยสิ้นเชิง เขาเป็นลูกของนักดนตรีกับเลขานุการ เติบโตทางชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ จบปริญญาโทด้านบริหารรัฐกิจ และปริญญาเอกด้านเศรษฐศาสตร์จาก Harvard วิทยานิพนธ์ของเขาไม่ใช่เรื่องการค้า แต่เป็นเรื่องแรงจูงใจด้านการกุศลของบริษัทเอกชน
เขาเคยลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคเดโมแครตทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติ แต่ไม่เคยชนะ ต่อมาในปี 2001 เขาเริ่มเขียนหนังสือด้านการลงทุนเพื่อรวยเร็ว และในปี 2006 เขาหันมาโจมตีจีนผ่านหนังสือและสารคดีหลายเล่ม โดยกล่าวหาว่าจีนโกง กดขี่ และบิดเบือนกฎการค้าโลก หนังสือ Death by China ของเขาถูก Jared Kushner ลูกเขยของทรัมป์เจอใน Amazon จึงกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่นำ Navarro เข้าทีมหาเสียงของทรัมป์ในปี 2016
Navarro เคยให้สัมภาษณ์กับ The Guardian ใกล้บ้านพักในลากูนาบีช ว่าเขาสนับสนุนคำพูดของทรัมป์ที่เปรียบจีนกับการ “ข่มขืน” ทางเศรษฐกิจ “มันเหมาะสมกับความเสียหายที่จีนสร้างไว้กับหัวใจของเศรษฐกิจอเมริกา” เขากล่าว พร้อมสนับสนุนภาษี 45% ต่อสินค้านำเข้าจากจีน แม้ภายใต้รัฐบาลทรัมป์สมัยแรก ที่ปรึกษาเศรษฐกิจสายหลักจะมีอิทธิพลมากกว่า Navarro แต่เขาก็หาช่องทางเข้ามามีบทบาทในช่วงโควิด-19 โดยอ้างเรื่องจีนอีกครั้ง และสามารถสร้างสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประธานาธิบดีจนอยู่รอดจากการเปลี่ยนแปลงบุคลากรในทำเนียบขาว
หลังการเลือกตั้งปี 2020 เขาเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนทฤษฎีสมคบคิดว่าการเลือกตั้งถูกขโมยไป และพยายามขัดขวางการรับรองผลเลือกตั้ง จนถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานละเมิดคำสั่งรัฐสภา และถูกจำคุก 4 เดือนเมื่อปีที่แล้ว
แต่ตอนนี้ เขากลับมาในทำเนียบขาวอีกครั้งในฐานะที่ปรึกษาอาวุโสด้านการค้าและการผลิต พร้อมอิทธิพลต่อทั้งนโยบายภาษี ตลาดหุ้น และทิศทางเศรษฐกิจ แม้รัฐบาลจะหยุดการขึ้นภาษีใหม่เป็นเวลา 90 วันก็ตาม
แม้เขาจะเป็นคนที่ชอบปะทะคารม แต่กับคำดูถูกจาก Elon Musk เขากลับนิ่งเฉย “ไม่เป็นไรครับ” เขาบอกกับ CNN โฆษกทำเนียบขาวก็พูดติดตลกถึงเรื่องนี้ว่า
“เด็กผู้ชายก็คือเด็กผู้ชายล่ะนะ”
ที่มา Yahoo News