Thailand
จีนปลดล็อกโดรน DJI 6 แสนลำในสหรัฐฯ เสี่ยงความมั่นคงพิธีสาบานตนประธานาธิบดี
16-1-2025
DJI (Da-Jiang Innovations) ผู้ผลิตโดรนรายใหญ่ที่สุดในโลกจากจีน สร้างความตึงเครียดด้านความมั่นคงให้สหรัฐฯ หลังประกาศยกเลิกระบบกำหนดเขตห้ามบิน ส่งผลให้โดรนกว่า 600,000 ลำสามารถบินเหนือพื้นที่หวงห้าม เช่น ทำเนียบขาว รัฐสภา และสถานที่สำคัญทางยุทธศาสตร์ได้อย่างเสรี ท่ามกลางความกังวลด้านความปลอดภัยช่วงพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี
การปลดล็อกดังกล่าวจะมีผลวันที่ 13 มกราคม 2568 โดย DJI อ้างว่าต้องการ "คืนอำนาจการควบคุมให้ผู้บังคับโดรน" ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานสามารถบินโดรนเหนือพื้นที่ควบคุม อาทิ สนามบิน ฐานทัพ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เรือนจำ และสถานที่ราชการ ที่แต่เดิมถูกจำกัดหรือห้ามบินโดยสิ้นเชิงเพื่อความมั่นคง
การยกเลิกระบบความปลอดภัยครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังเกิดอุบัติเหตุโดรน DJI Mini บินชนเครื่องบินดับเพลิงของแคนาดาเหนือไฟป่า Palisades ในลอสแองเจลิส สร้างความเสียหายอย่างหนัก และในช่วงที่สหรัฐฯ กำลังพิจารณามาตรการแบนโดรนจีนด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง
DJI ซึ่งควบคุมส่วนแบ่งตลาดโดรนผู้บริโภคทั่วโลกถึง 90% กำลังเผชิญแรงกดดันอย่างหนักจากรัฐบาลสหรัฐฯ โดยในปี 2562 รัฐสภาออกคำสั่งห้ามกระทรวงกลาโหมซื้อและใช้โดรนรวมถึงชิ้นส่วนที่ผลิตในจีน ตามมาด้วยการที่กระทรวงกลาโหมขึ้นบัญชี DJI เป็นบริษัททหารจีนที่ดำเนินการในสหรัฐฯ ในปี 2564 ขณะที่หลายรัฐ เช่น อาร์คันซอ ฟลอริดา มิสซิสซิปปี และเทนเนสซี ประกาศห้ามหน่วยงานรัฐใช้โดรน DJI
ล่าสุดในปี 2567 DJI ถูกกล่าวหาว่าใช้แรงงานบังคับชาวอุยกูร์ในการผลิต นำไปสู่การระงับการนำเข้าโดยสำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ พร้อมกับที่สภาผู้แทนราษฎรผ่านร่างกฎหมาย Countering CCP Drones Act เมื่อเดือนกันยายน ด้วยเสียงสนับสนุนจากทั้งสองพรรค ซึ่งหากมีผลบังคับใช้จะห้ามจำหน่ายโดรน DJI รุ่นใหม่ในสหรัฐฯ โดยสิ้นเชิง
ทางด้าน DJI ได้ออกแถลงการณ์คัดค้านร่างกฎหมายอย่างรุนแรงในเดือนธันวาคม ระบุว่าเป็น "ข้อกล่าวหาที่ไร้มูลความจริงและสะท้อนอคติต่อชาวต่างชาติ" ก่อนตัดสินใจยกเลิกระบบกำหนดเขตห้ามบินซึ่งเป็นระบบรักษาความปลอดภัยหลักในโดรนทุกรุ่น ท่ามกลางความเสี่ยงที่จะถูกสั่งห้ามจำหน่ายในสหรัฐฯ ในอนาคตอันใกล้
---
IMCT NEWS
© Copyright 2020, All Rights Reserved