ดอลล่าร์จะถูกโค่นโดยเงินสกุลต่างๆของ BRICS
5-1-2025
ดร.พอล เครก โรเบิร์ตส์ นักเศรษฐศาสตร์และอดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงคลังของรัฐบาลRonald Reaganกล่าวว่าในการล้มอิทธิพลของเงินดอลลาร์ อาจไม่จำเป็นต้องใช้สกุลเงินอื่นที่แข็งแกร่งเพียงสกุลเดียว แต่ต้องใช้สกุลเงินของประเทศหลายสกุล
ผู้วิพากษ์วิจารณ์เรื่องการออกจากระบบเงินดอลลาร์ให้เหตุผลว่าไม่มีทางเลือกของเงินสกุลอื่นใดที่เป็นไปได้นอกจากดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ทำหน้าที่เป็นสกุลเงินสำรองหลัก
พวกเขายืนยันว่าการครอบงำของเงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มที่จะยังคงมีอยู่ต่อไปในอนาคต เรื่องนี้จะมีความเป็นจริงต่อไปหรือไม่
“เงินดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินสำรองเป็นพื้นฐานหลักของอำนาจของสหรัฐฯ” ดร.โรเบิร์ตส์เขียน “หมายความว่าสหรัฐฯ สามารถไฟแนนซ์หนี้ของตนได้ตลอดเวลา เนื่องจากหนี้ของสหรัฐฯ ถือเป็นทุนสำรองของธนาคารกลางของประเทศต่างๆ เมื่อหนี้ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น เงินสำรองของธนาคารกลางต่างประเทศก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน”
นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ยังให้อำนาจแก่สหรัฐฯ ในการควบคุมระบบเคลียริ่งทางการเงิน และการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตร นักเศรษฐศาสตร์รายดังกล่าวกล่าว นั่นเป็นเหตุผลที่เงินดอลลาร์มีความสำคัญต่อวอชิงตันมาก
ประเทศอื่นๆ พยายามที่จะส่งออกไปยังสหรัฐฯ เพื่อรับเงินดอลลาร์สำหรับเป็นทุนสำรองของธนาคารกลาง เขากล่าวต่อ จากนั้นดอลลาร์ที่ได้จากการส่งออกจะถูกแปลงเป็นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐซึ่งจ่ายดอกเบี้ย ในขณะที่ทำหน้าที่เป็นทุนสำรองสำหรับธนาคารกลาง
แต่ประเทศต่างๆ ต้องการเงินดอลลาร์สหรัฐฯเป็นรีเสิร์ฟ จริงๆหรือไม่?
การยึดเงินทุนสำรองของธนาคารกลางของรัสเซีย โดยที่วอชิงตันให้อำนาจแก่ตัวเองในการขโมยเงิน$300พันกว่าล้านไปนั้นทำให้เกิดคำถามร้ายแรงเกี่ยวกับความมั่นคงทางการเงินทั่วโลก
“ทุกวันนี้ ไม่จำเป็นต้องมีสกุลเงินสำรอง” ดร.โรเบิร์ตส์ให้เหตุผล “ประเทศต่างๆ ควรซื้อขายด้วยสกุลเงินของตนเอง สิ่งนี้ทำให้ทุกประเทศมีแรงจูงใจในการรักษาสกุลเงินของตัวเองที่แข็งแกร่งเอาไว้”
นักเศรษฐศาสตร์อธิบายว่าดอลลาร์สหรัฐกลายเป็นสกุลเงินสำรองหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ไม่ใช่เพราะมันเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้โดยธรรมชาติ แต่เป็นเพราะประเทศอุตสาหกรรมอื่นๆ ทั้งหมดได้รับความเสียหายจากความขัดแย้งเป็นเวลา6ปี
นักเศรษฐศาสตร์แย้งว่า เนื่องจากการครอบงำของเงินดอลลาร์สหรัฐเดิมนั้นเกิดจากความสะดวกสบาย จึงสมเหตุสมผลสำหรับผู้เล่นทั่วโลกที่จะยอมรับสกุลเงินอื่นด้วยเหตุผลเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนนี้ที่เงินดอลลาร์ถูกใช้เป็นอาวุธในการคว่ำบาตรแล้ว
ดร.โรเบิร์ตส์ตั้งข้อสังเกตว่าด้วยการมุ่งเน้นไปที่การใช้สกุลเงินของตนเอง จะทำให้ประเทศต่างๆ จะมีพื้นที่มากขึ้นในการดูแลบริหารจัดการหนี้ของตนเอง
“หากประเทศใดมีสกุลเงินของตนเองและกำหนดหนี้ตามสกุลเงินของตน ประเทศนั้นก็สามารถไถ่หนี้ได้โดยการพิมพ์เงินเพื่อชำระหนี้” เขาเขียน
ขณะนี้กลุ่ม BRICS+ กำลังใช้สกุลเงินประจำชาติเพื่อการค้าและการลงทุนภายในกลุ่มเพิ่มมากขึ้น
ประเทศ BRICS+ มีจำนวนประชากรรวมกันประมาณ 3.5 พันล้านคน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 45 ของประชากรโลก ซึ่งเป็นตลาดที่กว้างใหญ่และมีความสำคัญ
กลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่มีศักยภาพทางอุตสาหกรรม ความเชี่ยวชาญด้านเทคนิค มีท้ังเทคโนโลยีขั้นสูง และทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์
“ในความเห็นของผม BRICS ไม่ควรกังวลเกี่ยวกับการขายสินค้าให้กับชาติตะวันตกต่อไป” ดร.โรเบิร์ตส์เขียน “แต่ควรพัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสมาชิกของ BRICS ที่มีศักยภาพในการขยายไปยังเอเชีย แอฟริกา และอเมริกาใต้ โลกพร้อมสำหรับระบบที่ปลอดจากการติดอาวุธ”
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินแห่งรัสเซียย้ำหลายครั้งว่ากลุ่ม BRICS ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่บุคคลที่สามใดๆ มอสโกส่งสัญญาณว่าชาติตะวันตกอาจเข้าร่วมได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขของความเท่าเทียมกันของสมาชิกทุกคน และความยุติธรรมของกฎเกณฑ์ทั่วไป
แต่สหรัฐฯ และพันธมิตรเป็นปฏิปักษ์กับกลุ่ม BRICS เพราะพวกเขาไม่สามารถควบคุมกลุ่มนี้ได้ ตามที่นักเศรษฐศาสตร์รายนี้ระบุ
“BRICS เป็นระบบที่อยู่นอกการควบคุมทางเศรษฐกิจและการเมืองของตะวันตก” ดร.โรเบิร์ตส์ชี้ให้เห็น “มันเป็นหนทางสำหรับประเทศต่างๆ ที่จะหลบหนีจากชาติตะวันตกและการครอบง”
ที่มา Sputnik